- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- 14 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น
14 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น

- อ่าน (407)
- By Webmaster Webmaster
- 03:29:00 | 30 ม.ค. 2566
14 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น
Top 14 Travel Destinations in Fukuoka, Japan
ฟุกุโอกะเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว มากที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคคิวชู เพราะมีความพร้อมทุกอย่าง ตามแบบฉบับของเมืองชั้นนำทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเมืองท่าสำคัญระดับประเทศ ย่านเศรษฐกิจขนาดใหญ่ แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และมีความสวยงาม ซึ่งแม้จะเป็นเมืองที่มีผู้คนพลุกพล่านตลอดเวลา แต่ด้วยระบบขนส่งมวลชนที่มีคุณภาพ การวางผังเมืองอย่างรอบคอบ รวมถึงพื้นที่สีเขียวที่กระจายตัวอยู่รอบเมือง ทำให้สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบาย และถูกยกให้เป็นหนึ่งในจังหวัดที่น่าอยู่ที่สุดอีกแห่ง ของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว
แผนที่แสดงตำแหน่งของ 14 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดฟุกุโอกะ
1. หอคอยฟุกุโอกะ (Fukuoka Tower)
หอคอยที่เป็นแลนด์มาร์กหลักประจำอ่าวฮากาตะ (Hakata Bay) มีความสูงถึง 234 เมตร โครงสร้างอาคารเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมเรขาคณิต ซึ่งด้านนอกจะปูด้วยกระจกสีฟ้าแบบครึ่งแผ่น ทั่วหอคอย ที่จะส่งแสงสะท้อนสีฟ้า กลืนไปกับทิวทัศน์โดยรอบอย่างสวยงาม ก่อนจะเข้าไปในจุดชมวิวของหอคอย ซึ่งเป็นไฮไลท์สำคัญ เพราะนักท่องเที่ยวจะสามารถชมทัศนียภาพของเมืองฟุกุโอกะ ได้แบบครอบคลุมทั่วทั้งเมือง ไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ส่วนที่หันออกสู่ทะเล ทิวทัศน์ที่สามารถเห็นใจกลางของเมืองฟุกุโอกะได้แบบสุดสายตา มุมชมพระอาทิตย์ตกดินสุดโรแมนติก ก่อนจะไปชมการแสดงไฟประดับของหอคอย ที่ขึ้นชื่อว่าเปี่ยมไปด้วยสีสัน และบรรยากาศสุดพิเศษ ริมอ่าวที่มีความคึกคักตลอดเวลา
ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชมภายในหอคอย 800 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าไปเยี่ยมชมภายในหอคอย เวลา 09:30 น. – 22:00 น.
ข้อมูลการเดินทาง : จาก Hakata Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Kuko Subway Line ที่สถานี Hakata Station (K11) ไปลงที่สถานี Fujisaki Station (K03) แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงหอคอยฟุกุโอกะ
พิกัด GPS : 33°35'35.9"N 130°21'05.5"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับหอคอยฟุกุโอกะได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=542
2. สวนโอโฮริ (Ohori Park)
สวนสาธารณะขนาดใหญ่ ใจกลางเมืองฟุกุโอกะ ที่มีเอกลักษณ์คือสระน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ที่ใจกลางสวน พร้อมเกาะเล็กๆ สามเกาะ โดยมีสะพานหินทอดยาวผ่านทั้งสามเกาะ ให้นักท่องเที่ยวได้มาเดินเล่น ชมธรรมชาติ ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบาย เพราะแวดล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวขจีมากมาย นอกจากนั้นภายในสวนยังมีสถาปัตยกรรมสวยๆ ให้ได้ไปเยี่ยมชม และถ่ายรูปอีกหลายที่ ซึ่งแต่ละวันก็จะมีคนในพื้นที่ มาใช้เวลาว่างทำกิจกรรมต่างๆ ตลอดเวลา ทำให้นอกจากจะได้มาพักผ่อนสบายๆ แล้ว ยังสามารถเห็นวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นที่น่าสนใจอีกด้วย
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เป็นพื้นที่สาธารณะที่เปิดให้มาเดินเล่นได้ตลอดเวลา
ข้อมูลการเดินทาง : จาก Hakata Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Kuko Line ที่สถานี Hakata Station (K11) เพื่อไปลงที่สถานี Tojinmachi Station (K05) แล้วเดินไปอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงสวนโอโฮริ
พิกัด GPS : 33°35'11.4"N 130°22'34.4"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสวนโอโฮริได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=543
3. วัดโทโชจิ (Tochoji Temple)
วัดที่เป็นศูนย์รวมทางจิตใจของผู้คนในเมืองฟุกุโอกะแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 806 โดยภายในเต็มไปด้วยศาสนสถานที่น่าสนใจ และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น พระพุทธรูปทำจากไม้แกะสลักขนาดใหญ่, เจดีย์สีแดงสด, หอไม้โบราณ ฯลฯ ซึ่งกระจายตัวอยู่ทั่วพื้นที่อันร่มรื่นของวัด เพราะแวดล้อมไปด้วยต้นไม้ และสวนสีเขียวเพียบ จึงเป็นเหตุผลให้วัดแห่งนี้ เป็นสถานที่หลักในการจัดกิจกรรมทางศาสนา และงานรื่นเริมตามเทศกาลต่างๆ จนเหมาะแก่การมาเที่ยวชม และเรียนรู้วัฒนธรรมของผู้คน ผ่านสถานที่สำคัญแห่งนี้ที่สุด
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมเวลา 09:00 น. – 17:00 น.
ข้อมูลการเดินทาง : จาก Hakata Station (K11) สามารถเดินไปยัง วัดโทโชจิ ได้เลย ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที
พิกัด GPS : 33°35'43.1"N 130°24'50.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัดโทโชจิได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=544
4. ศาลเจ้าคูชิดะ (Kushida Shrine)
ศาลเจ้าที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,200 ปี โดยเป็นที่ประดิษฐานของ โอ คูชิดะ ซัง (O-Kushida-San) เทพเจ้าในศาสนาชินโต ที่คนในพื้นที่เชื่อว่าเป็นเทพจ้าที่คอยปกป้องคุ้มครอง ความปลอดภัยให้กับบ้านเมืองมาอย่างยาวนาน และหนึ่งในไฮไลท์สำคัญที่พลาดไม่ได้ของศาลเจ้าแห่งนี้ คือเทศกาลยามากาซะ ฮากาตะ กิออน (Hakata Gion Yamakasa Festival) ซึ่งจะจัดขึ้นทุกปี ในช่วงเดือนกรกฎาคม โดยเป็นเทศกาลแข่งขันแห่เสลี่ยงยักษ์ (Oiyama) ที่มีตัวแทนจากแต่ละเขตมาเข้าร่วม โดยมีศาลเจ้าแห่งนี้เป็นจุดศูนย์กลาง ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมได้มากมาย ในแต่ละปี
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมเวลา 04:00 น. – 22:00 น.
ข้อมูลการเดินทาง : จาก Hakata Station (K11) สามารถเดินไปยังศาลเจ้าคูชิดะ ได้เลย ใช้เวลาเดินประมาณ 13 นาที
พิกัด GPS : 33°35'35.4"N 130°24'38.8"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับศาลเจ้าคูชิดะได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=560
5. ศูนย์การค้าคาแนลซิตี้ (Canal City Hakata)
ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ประจำเมืองฟุกุโอกะ ที่รวมแหล่งบันเทิงเอาไว้แบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น ร้านค้า, ร้านอาหาร, โรงภาพยนตร์, สวนสนุก ฯลฯ และยังมีลานจัดแสดงน้ำพุขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยแสง สี เสียงสุดงดงาม ท่ามกลางสถาปัตยกรรมของศูนย์ที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยสีสันฉูดฉาด รูปทรงสุดสร้างสรรค์ โดยในแต่ละปี ศูนย์การค้าแห่งนี้สามารถดึงดูดเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยว และสร้างอาชีพให้กับคนในพื้นที่ได้มากมาย จนเรียกว่าเป็นหนึ่งในศูนย์การค้าที่ประสบความสำเร็จทั้งในแง่ของการท่องเที่ยว และประโยชน์ที่สร้างให้กับคนในพื้นที่
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมเวลา 10:00 น. – 21:00 น.
ข้อมูลการเดินทาง : จาก Hakata Station สามารถเดินไปยัง ศูนย์การค้าคาแนลซิตี้ ได้เลย ใช้เวลาเดินประมาณ 8 นาที
พิกัด GPS : 33°35'23.2"N 130°24'40.7"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับศูนย์การค้าคาแนลซิตี้ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=541
6. ย่านยะไต ฮากาตะ (Yatai Hakata)
โซนขายอาหารข้างทางที่มีของกินอร่อยๆ จากร้านค้าเล็กๆ ที่เรียงรายตลอดทั้งย่าน ให้อารมณ์ประมาณสตรีทฟู้ดบ้านเรา ซึ่งคำว่า ยะไต (Yatai) เป็นภาษาญี่ปุ่นที่มีความหมายว่า แผงลอย หรือซุ้มขายอาหารขนาดเล็ก เน้นขายอาหารกินง่าย เป็นเมนูที่คนท้องที่ชอบกินกัน ซึ่งย่านยะไต ฮากาตะ ก็มีให้เลือกแบบจัดเต็ม ทั้งฮากาตะราเมง (Hakata Ramen), หม้อไฟ (Oden), ไก่ย่าง (Yakitori) ฯลฯ รวมถึงความเป็นกันเอง ของบรรดาพ่อครัว แม่ครัวในร้าน ทำให้สามารถไปนั่งกินได้อย่างสบายใจ ท่ามกลางบรรยากาศริมน้ำยามค่ำคืน ซึ่งเหมาะแก่การมาหาอะไรกิน หลังจากไปเที่ยวมาทั้งวันที่สุด
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมเวลา 10:00 น. – 21:00 น.
ข้อมูลการเดินทาง : จาก Hakata Station สามารถเดินไปยัง ย่านยะไตฮากาตะ ได้เลย ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที
พิกัด GPS : 33°35'26.5"N 130°24'28.6"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับย่านยะไต ฮากาตะได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=559
7. ย่านเทนจิน (Tenjin)
ย่านเศรษฐกิจสำคัญที่สุดของฟุกุโอกะ ที่มีอาคารสำนักงาน และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ตั้งอยู่มากมาย รวมถึงพื้นที่สาธารณะสีเขียว ที่กระจายตัวอยู่ทั่วเมือง ทางเดินเท้าที่มีคุณภาพ และได้รับการออกแบบอย่างดี ทำให้สามารถเดินเล่นในย่านได้อย่างสะดวก และเพลิดเพลิน ทั้งจะได้เจอกับสถานที่น่าสนใจอย่างตึกต้นไม้ (ACROS Fukuoka) อาคารที่ถูกปกคลุมไปด้วยพื้นที่สีเขียวของต้นไม้ตามคอนเซ็ปต์ที่ต้องการให้มีตึกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในเมือง, สวนเทนจิน เซ็นทรัล ปาร์ก (Tenjin Central Park) สวนสาธารณะเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยต้นซากุระตลอดทางเดินเลียบคลอง ชนิดที่เดินเล่นได้ทั้งวันโดยไม่รู้สึกเหนื่อยเลย
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : สถานที่ส่วนใหญ่ภายในย่านเปิดเวลา 09:00 น. – 19:00 น.
ข้อมูลการเดินทาง : จาก Hakata Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Kuko Line ที่สถานี Hakata Station (K11) เพื่อไปลงที่สถานี Tenjin Station (K08) ตัวสถานีจะอยู่ภายในย่านเทนจิน
พิกัด GPS : 33°35'26.0"N 130°24'11.3"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับย่านเทนจินได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=573
8. ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็มมังกู (Dazaifu Tenmangu)
ศาลเจ้าที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ยุคเฮฮัน (Heian) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสักการะ สุกาวะระ มิซิซาเนะ (Sugawara Michizane) บุคคลที่ทรงอิทธิพลในด้านต่างๆ ที่สุดคนหนึ่งของยุคเฮฮัน (Heian) จนคนญี่ปุ่นยกให้เป็นเทพเจ้าแห่งการศึกษา จึงจะเห็นนักเรียน นักศึกษา เข้ามาสักการะ เพื่อขอพรให้ประสบความสำเร็จในเรื่องการเรียน รวมถึงบริเวณศาลเจ้ายังมีถนนคนเดิน ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าน่าสนใจต่างๆ ตลอดทั้งเส้น ไหนจะสถาปัตยกรรมสวยๆ น่าไปถ่ายรูป อย่างสะพานไทโคบาชิ (Taikobashi) สะพานสีแดงที่ใช้ข้ามไปยังศาลเจ้าหลัก ฯลฯ
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : สถานที่ส่วนใหญ่ภายในย่านเปิดเวลา 09:00 น. – 19:00 น.
ข้อมูลการเดินทาง : จาก Hakata Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Kuko Line ที่สถานี Hakata Station และไปเปลี่ยนสายที่สถานี Nishitetsu Fukuoka Station เพื่อไปลงที่สถานี Dazaifu Station ซึ่งจะอยู่บริเวณศาลเจ้าดาไซฟุเท็มมังกู
พิกัด GPS : 33°31'15.2"N 130°32'04.4"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับศาลเจ้าดาไซฟุเท็มมังกูได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=562
9. วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple)
วัดขนาดใหญ่ที่แทรกตัวอยู่ใจกลางหุบเขาซาซากุริ ซึ่งบริเวณวัดจะเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวทั้งต้นไม้ ภูเขา ทางเดินหินที่คดเคี้ยวไปทั่วพื้นที่ของวัด ซึ่งแลนด์มาร์กหลัก ที่ทุกคนต้องมาเยี่ยมชมให้ได้ เวลามาที่วัดแห่งนี้ คือ พระพุทธรูปปางไสยาสน์ ซึ่งเป็นชื่อเรียกของพระพุทธรูปในลักษณะบรรทม (นอน) ที่ถูกยกให้เป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่ใหญ่ที่สุด และเป็นประติมากรรมทางศาสนาพุทธ ที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งของโลก รวมถึงรอบๆ ยังมีสถาปัตยกรรม และประติมากรรมน่าสนใจ ให้ได้ไปเดินเที่ยวชมอีกเพียบ ประกอบกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของวัด ทำให้ที่นี่ยังเป็นเส้นทางหลักของ พิธีแสวงบุญซาซากุริ (Sasaguri Pilgrimage) ซึ่งมีผู้ศรัทธาจากทั่วโลก เดินทางมาแสวงบุญกันทุกปี
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เยี่ยมชมเวลา 09:00 น. – 17:00 น.
ข้อมูลการเดินทาง : จาก Hakata Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Fukuhokuyutaka Line ที่สถานี Hakata Station เพื่อไปลงที่สถานี Kidonazoin-Mae Station ตัวสถานีจะอยู่ภายในพื้นที่ของวัดนันโซอิน
พิกัด GPS : 35°46'14.4"N 139°42'05.6"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัดนันโซอินได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=566
10. ปราสาทโคคุระ (Kokura Castle)
ปราสาทที่ถูกใช้เป็นต้นแบบ ของสถาปัตยกรรมการก่อสร้างปราสาททั่วญี่ปุ่นแห่งนี้ สร้างขึ้นมาครั้งแรกในปี ค.ศ. 1602 ตัวปราสาทจะมีทั้งหมด 5 ชั้น ที่ตั้งอยู่บนฐานหินขนาดใหญ่ พร้อมหลังคาปราสาทที่ไล่เรียงลงมา ในแต่ละชั้นอย่างโดดเด่น โดยภายในปราสาทมีการปรับให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ที่อัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์ และข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการก่อสร้าง ไว้แบบครบถ้วน มีเสื้อผ้า รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ในสมัยก่อน ให้ได้ชม และมีตู้จัดแสดงโมเดล 3 มิติที่จำลองวิถีชีวิต และบ้านเรือนต่างๆ ในสมัยก่อนของคนพื้นที่ โดยมีปราสาทโคคุระ (Kokura Castle) เป็นศูนย์กลางนั่นเอง
ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชมภายในตัวปราสาท สำหรับผู้ใหญ่ 350 เยน / นักเรียนชั้นประถมถึงมัธยมปลาย 100-200 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เยี่ยมชมเวลา 09:00 น. – 18:00 น.
ข้อมูลการเดินทาง : จาก Hakata Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Sanyo Shinkansen ที่สถานี Hakata Station เพื่อไปลงที่สถานี Kokura Station แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 500 เมตรก็จะถึงปราสาทโคคุระ
พิกัด GPS : 33°53'04.0"N 130°52'27.4"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับปราสาทโคคุระได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=558
11. สวนคาวาจิ ฟูจิ (Kawachi Fuji Garden)
สวนสวยกับพื้นที่ครอบคลุม 10,000 ตารางเมตร ภายในสวนมีทัศนียภาพที่สวยงามด้วยต้นไม้ดอกไม้หลากหลายชนิด ตามจริงแล้วสวนแห่งนี้เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล แต่ทางทางเจ้าของสวนนั้นอนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเยี่ยมชมความงามของสวนได้โดยมีการเก็บค่าเข้าชม ไฮไลต์สำคัญของสวนคาวาจิ ฟูจิ อยู่ที่อุโมงค์วิสทีเรีย หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่าดอกฟูจิมากกว่า 22 สายพันธุ์หลากสีสัน เลื้อยปกคลุมห้อยระย้าเป็นระยะทางยาวกว่า 100 เมตร ที่พร้อมจะบานสะพรั่งเต็มพื้นที่ในช่วงปลายเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม และ โดมวิสทีเรีย โดมดอกไม้ขนาดใหญ่จากต้นวิสทีเรียเพียงต้นเดียว นอกจากนี้สวนแห่งนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามกับต้นเมเปิ้ลราว 700 ต้นที่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส้ม และแดงให้ได้ยลตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงต้นเดือนธันวาคมกันอีกด้วย
ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชมในช่วงฤดูดอกวิสทีเรียคือ 500 เยน 1,000 เยน หรือ 1,500 เยน ขึ้นอยู่กับสถานะของฤดูกาล
เวลาเปิด-ปิด : สวนเปิดตั้งแต่ 8.00 น. – 18.00 น. ในช่วงฤดูดอกวิสทีเรีย (ปลายเดือนเมษายน - ต้นเดือนพฤษภาคม) และ 9.00 น. – 17.00 น. ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (กลางเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม)
พิกัด GPS : 33°49'55.9"N 130°47'32.6"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สวนคาวาจิ ฟูจิ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/1267
12. เขื่อนคาวาจิ (Kawachi Dam)
เขื่อนคาวาจิสร้างเมื่อปี ค.ศ.1919 บริเวณต้นน้ำของแม่น้ำอิตาบิตสึ จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเขื่อนที่สามารถจุน้ำได้ถึง 7,000,000 ลูกบาศก์เมตร การสร้างเขื่อนแห่งนี้ประหยัดงบประมาณไปได้มากโดยนำหินที่จากภูเขาเมื่อมีการขยายแม่น้ำมาใช้ในการสร้างเขื่อนด้วย วิวทิวทัศน์รอบๆ เขื่อนคาวาจิมีความสวยงามเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นซากุระสีเขียวชอุ่มในช่วงต้นฤดูร้อน หรือใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง สิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของเขื่อนคาวาจิ คือ “สะพานมินามิคาวาจิ” (Minami Kawachi-bashi bridge) ที่พาดข้ามอ่างเก็บน้ำเขื่อนคาวาจิ เป็นสะพานเหล็กเพียงแห่งเดียวที่ยังเหลืออยู่ในญี่ปุ่น
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 33°50'16.6"N 130°48'38.9"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เขื่อนคาวาจิ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/1266
13. สวนสาธารณะริมทะเลโมโมชิ (Momochi Beach Park)
สวนสาธารณะริมทะเลโมโมชิเป็นสวนสาธารณะริมทะเลในตัวเมืองฟูกุโอกะ โดยพื้นที่ของสวนนี้เป็นส่วนหนึ่งของอ่าวฮากะตะ มีหาดทรายกว้างและยาวกว่า 1 กิโลเมตร บริเวณสวนด้านบนจัดสรรเป็นสวนสนขนาดย่อม ส่วนที่โดดเด่นที่สุดของสวนสาธารณะริมทะเลโมโมชิคือ โซนที่ยื่นออกไปในทะเลเรียกว่า “มาริซอน” เป็นอาคารรูปทรงสวยแบบอิตาเลียนตั้งโดดเด่น ภายในมีทั้งร้านช้อปปิ้งเล็กๆ น่ารักๆ ร้านอาหาร ภัตตาคาร มุมนั่งพักผ่อน รวมถึงมี Wedding Hall ด้วย สวนสาธารณะริมทะเลแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การเดินเล่นชิลๆ ในช่วงเย็นๆ มีชาวเมืองมาวิ่งออกกำลังกายกันที่นี่ นอกจากนี้ละแวกใกล้ๆ กันเพียงเดินข้ามฝั่งถนนยังเป็นที่ตั้งของแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงอย่างหอคอยฟูกุโอกะด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 33°35'44.2"N 130°21'04.4"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สวนสาธารณะริมทะเลโมโมชิ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/1268
14. วัดโชฟูคูจิ (Shofukuji Temple)
วัดประจำศาสนาพุทธนิกายเซนแห่งแรกๆ ของประเทศญี่ปุ่น สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1195 โดยพระไออิไซ (Eisai) ที่นำศาสนาพุทธนิกายเซนเข้ามาเผยแพร่ในประเทศญี่ปุ่น โดยสร้างให้ดูเรียบง่าย และเน้นใช้งาน ตามสไตล์ของนิกายเซน วัสดุที่ใช้ในโครงสร้างอาคารต่างๆ จะใช้ไม้เป็นหลัก โดยวัดแห่งนี้ถือเป็นต้นแบบที่สะท้องถึงวิถีชีวิตตามหลักคำสอนของนิกายเซนได้อย่างดีเยี่ยม และด้วยความเก่าแก่ของวัด ทำให้สถาปัตยกรรมต่างๆ ภายในวัด มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าศึกษา ไม่ว่าจะการเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่คำสอนของนิกายเซนในสมัยโบราณ ฯลฯ ท่ามกลางสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าของนิกายเซน
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตลอดเวลา
พิกัด GPS : 33°35'50.0"N 130°24'52.2"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดโชฟูคูจิ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=570
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองฟุกุโอกะ https://bit.ly/2OjnCly
การเดินทางขนส่งมวลชนญี่ปุ่น http://www.hyperdia.com/
สกุลเงินที่ใช้ : เยน (JPY)
ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ https://www.xe.com/currencyconverter/
สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย http://www.th.emb-japan.go.jp/itprtop_th/index.html
แอปพลิเคชันแนะนำสำหรับเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ในประเทศญี่ปุ่น
- Uber สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
- JapanTaxi สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
อัตราค่าบริการ (TAXI FARE)
อัตราค่าครองชีพ (DAILY COST)
สภาพอากาศ (WEATHER)
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

“Changi Airport” สุดยอดสนามบินที่ดีที่สุดในโลกปี 2023
การประกาศรางวัล World Airport Awards ซึ่งจัดขึ้นที่ Passenger Terminal EXPO ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2023 “ท่าอากาศยานนานาชาติชางงี” ประเทศสิงคโปร์ คว้าตำแหน่งสนามบินที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งในอดีตนั้นสนามบินแห่งนี้เคยเป็นแชมป์ติดต่อกันถึง 8 ปีซ้อน ก่อนที่ในปี 2021- 2022 รางวัลชิ้นนี้จะตกเป็นของท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ และในปี 2023 นี้ ท่าอากาศยานนานาชาติชางงีก็ได้กลับมาทวงบัลลังก์อีกครั้ง
อ่านต่อ
3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
ญี่ปุ่น ประเทศที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและมีการจัดอันดับให้กับที่ต่างๆ อยู่มากมาย และแน่นอนว่าการจัดอันดับให้กับจุดชมวิวระดับท็อปของประเทศก็เป็นสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นไม่อาจพลาดไปได้เช่นกัน วันนี้ Palanla จะพาไปชม 3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น หรือที่ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ”Nihon Sankei” ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 โดย Hayashi Razan นักปรัชญาในสมัยรัฐบาลเอโดะ จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นทั้ง 3 แห่งที่ว่านี้ ได้แก่ 1. อามาโนะ ฮาชิดาเตะ (Amanohashidate) จังหวัดเกียวโต 2. เกาะมิยาจิมะ (Miyajima) จังหวัดฮิโรชิมะ และ 3. อ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) จังหวัดมิยางิ
อ่านต่อ
อามาโนะฮาชิดาเตะ วิวแลนด์ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
อามาโนะฮาชิดาเตะ วิวแลนด์ (Amanohashidate View Land) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี โดยมีชื่อปรากฏอยู่ในบทกวีโบราณตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1020 ด้านบนของจุดชมวิวแห่งนี้ยังมีสวนสนุกเล็กๆ อยู่ด้วย
อ่านต่อ
หมู่บ้านโบราณมิยามะ คายาบุกิโนะซาโตะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
หมู่บ้านโบราณมิยามะ คายาบุกิโนะซาโตะ (Miyama Kayabuki no Sato) เป็นหมู่บ้านเกษตรกรรมท้องถิ่นเล็กๆ ในชนบทเมืองมิยามะ (Miyama) เกียวโต (Kyoto) บ้านเรือนมีลักษณะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยหลังคาทรงสูงและมุงหลังคาด้วยหญ้าคายะ (Kaya) และมีของขึ้นชื่อคือไข่ไก่และถั่วดำ นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปรอบๆ และเพลิดเพลินกับบรรยากาศอันน่าทึ่งของหมู่บ้านโบราณแห่งนี้ที่มีฉากหลังเป็นภูเขา และสัมผัสวิถีชีวิตของคนในหมู่บ้านได้อย่างแท้จริง
อ่านต่อ
วัดนาริอาอิจิ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดนาริอาอิจิ (Nariaiji Temple) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดหากมีโอกาสได้ไปเยือนแถบอามาโนะฮาชิดาเตะ จุดน่าสนใจที่เป็นไฮไลต์ของวัดแห่งนี้คือเจดีย์ห้าชั้น งามสง่า และโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
อ่านต่อ
วัดชิออนจิ จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดชิออนจิ (Chion-Ji Temple) วัดพุทธนิกายเซ็นที่มีประตูทางเข้าวัดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคแทงโก้ เป็นที่รู้จักกันในฐานะ 1 ใน 3 วัดพุทธพระโพธิสัตว์แห่งปัญญาในญี่ปุ่น นักเรียนนักศึกษานิยมมากราบขอพรเพื่อให้สอบได้
อ่านต่อ
วัดเบียวโดอิน เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple) สถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงโด่งดังของเมืองอุจิ จังหวัดเกียวโต ซึ่งมีวิหารปรากฏอยู่บนเหรียญ 10 เยนของญี่ปุ่น และยังได้รับคัดเลือกจากองค์การยูเนสโก (Unesco) ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกของญี่ปุ่นด้วย
อ่านต่อ
ซันโจ เมเทนไก ช้อปปิ้ง อาร์เคด จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
ซันโจ เมเทนไก ช้อปปิ้ง อาร์เคด (Sanjo Meitengai Shopping Arcades ) เป็นหนึ่งในแหล่งช้อปปิ้งที่เก่าแก่ที่สุดของเกียวโต เรียกว่าเป็นโซนช้อปปิ้งที่เพลิดเพลิน เต็มไปด้วยร้านค้าและโครงสร้างเก่าแก่ ควบคู่ไปกับโลกของอาคารและร้านบูติกสมัยใหม่
อ่านต่อ
หอคอยเกียวโต จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
เกียวโตทาวเวอร์ (Kyoto Tower) หอคอยความสูง 328 ฟุต โครงสร้างสีแดง – ขาว ที่เป็นเสมือนแลนด์มาร์กหนึ่งของเมืองเกียวโต ภายในมีจุดชมวิวเมืองที่สวยงามแบบ 360 องศา และยังสามารถมองเห็นได้ไกลถึงเมืองโอซาก้าในวันที่อากาศดี
อ่านต่อ
สะพานโทเง็ตสึเคียว จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
สะพานโทเง็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) เป็นสะพานไม้เก่าแกจากยุคเฮอันที่พาดข้ามแม่น้ำคัตสึระ โดยมีภูเขาอาราชิยาม่าเป็นฉากหลัง อีกหนึ่งจุดเช็กอินของคนที่มาเที่ยวเกียวโต
อ่านต่อ