- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ศาลเจ้าฮาโกเน่ จังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น
ศาลเจ้าฮาโกเน่ จังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น
- อ่าน (5,048)
- By Webmaster
- 03:53:11 | 2 ก.พ. 2566
ศาลเจ้าฮาโกเน่ จังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น
Hakone Shrine, Kanagawa, Japan
เสาโทริอิของศาลเจ้าฮาโกเน่ถูกปกคลุมด้วยหิมะในฤดูหนาว
ศาลเจ้าฮาโกเน่ เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ในศาสนาชินโต ตั้งอยู่บริเวณตีนเขาฮาโกเน่ และอยู่ริมทะเลสาบอะชิ จังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น
ภาพของทะเลสาบอะชิ เสาโทริอิสีแดงริมทะเลสาบ และมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง ถือเป็นมุมยอดนิยมซึ่งกลายเป็นภาพคุ้นตาที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือนเมืองฮาโกเน่เป็นจำนวนมาก โดยเสาโทริอิในภาพเหล่านั้นก็คือบริเวณที่ตั้งของศาลเจ้าฮาโกเน่นั่นเอง โดยศาลเจ้าแห่งนี้โดดเด่นด้วยบรรยากาศที่ตั้งอยู่ในภูเขา มีโคมไฟสีแดงจำนวนมากเรียงรายอยู่ระหว่างทางเดิน และยิ่งดูขึมขลังมากยิ่งขึ้นในวันที่มีหมอกปกคลุมไปทั่วทุกบริเวณ
ประวัติความเป็นมาของศาลเจ้าฮาโกเน่
ศาลเจ้าฮาโกเน่เป็นสถานที่ยอดนิยมทั้งสำหรับนักท่องเที่ยวและคนญี่ปุ่น จึงมีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาที่นี่ในทุกฤดู
เชื่อกันว่าศาลเจ้าฮาโกเน่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 745 หรือยุคของจักพรรดิโคโช โดยที่ตั้งเดิมนั้นอยู่บนยอดเขาฮาโกเน่ พร้อมกับมีตำนานเล่าว่าชาวบ้านในบริเวณฮาโกเน่ต่างต้องทนทุกข์กับภัยพิบัติขนาดใหญ่ทุกปี ซึ่งเชื่อกันว่าเกิดจากมังกร 9 หัวที่อาศัยอยู่ในก้นทะเลสาบอะชิ จนทำให้ต้องมีการบูชายัญมังกรด้วยชีวิตของเด็กทารกปีละ 1 คนมาตลอด กระทั่งในปีค.ศ. 1667 มีนักบวชรูปหนึ่งเดินแสวงบุญผ่านมาบริเวณนี้ จึงได้ช่วยชาวบ้านสะกดวิญญาณของมังกร 9 หัวเอาไว้ในทะเลสาบ และย้ายที่ตั้งของศาลเจ้าจากบนยอดเขา ลงมาที่บริเวณริมทะเลสาบอะชิจนถึงทุกวันนี้
นักท่องเที่ยวสามารถพบกับเสาโทริอิมากมายหลายขนาดตามจุดต่างๆตั้งแต่ทางเข้าศาลเจ้า มาจนถึงบริเวณตัวศาลเจ้า
ศาลเจ้าฮาโกเน่ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น เนื่องจากในอดีต ครอบครัวของ Minamoto Yoritomo มงกุฎราชกุมารในขณะนั้นถูกประหารชีวิตทั้งหมด และตัวเขาก็ถูกเนรเทศออกจากเกียวโต และลี้ภัยมาอยู่ที่ศาลเจ้าฮาโกเน่แห่งนี้ เมื่อเวลาผ่านไป เขาได้รวบรวมกองพลเพื่อชิงอำนาจกลับคืนมาจนสำเร็จ และเป็นผู้ตั้งรัฐบาลโชกุคามาคุระแห่งคานากาว่าขึ้นมา ซึ่งถือเป็นระบอบโชกุนระบอบที่ 2 ที่ถูกสถาปนาขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ศาลเจ้าแห่งนี้จึงได้รับความเคารพนับถือทั้งจากโชกุนและเหล่าซามูไรเป็นอย่างมาก
การเดินทางไปศาลเจ้าฮาโกเน่จากกรุงโตเกียว
- รถไฟ การนั่งรถไฟมายังเมืองฮาโกเน่ มีสองวิธีหลักคือ โดยสารรถไฟชินคันเซ็นจากสถานี Tokyo มายังสถานี Odawara ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 35 นาที ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 3,220 เยน และอีกวิธีคือการโดยสารรถไฟสาย Odakyu จากสถานี Shinjuku มายังสถานี Odawara โดยใช้เวลาในการเดินทางทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 880 เยน
จากสถานีรถไฟ Odawara นักท่องเที่ยวสามารถโดยสารรถบัสของบริษัท Hakone Tozan Bus สาย HakoneMachi (สีแดง) ลงที่ป้าย Motohakone-ko ค่าโดยสาร 1,180 เยน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที จากนั้นเดินต่อจากป้ายรถเมล์อีกประมาณ 5-10 นาที
นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถบัสของบริษัท Hakone Tozan Bus ได้ที่ https://www.hakone-tozanbus.co.jp/english/index.html
- รถบัส นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถบัสของ Highway Bus ที่วิ่งระหว่างโตเกียว-ฮาโกเน่ ค่าโดยสารเที่ยวละ 2,010 เยน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที โดยจุดขึ้นรถจะอยู่ที่สถานีรถบัสด่วนพิเศษชินจูกุ (Shinjuku Expressway Bus Terminal) และลงที่ป้ายสุดท้าย Hakone Odakyu Yamano Hotel ซึ่งโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากศาลเจ้าฮาโกเน่ 600 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเวลาและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.odakyu-hakonehighway.co.jp/common/pdf/english.pdf
ในกรณีที่นักท่องเที่ยวต้องการล่องเรือในทะเลสาบอะชิ สามารถลงรถบัสที่ป้ายท่าเรือ Togendai และขึ้นเรือทัศนาจรชมทะเลสาบฮาโกเน่ มาลงที่ท่าเรือ Motohakone-ko ค่าโดยสารเที่ยวละ 1,000 เยน ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที เมื่อถึงท่าเรือปลายทางแล้ว เดินต่อไปยังศาลเจ้าอีกประมาณ 5-10 นาที
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
ศาลเจ้าฮาโกเน่เปิดให้เข้าชมทุกวัน ไม่มีวันหยุดและปิดทำการ
นักท่องเที่ยวต่างมาขอพรกันที่ตัวอาคารหลักของศาลเจ้าฮาโกเน่
การซื้อบัตรเข้าชม
ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
รูปปั้นสิงโตบริเวณหน้าศาลเจ้า ที่ทำหน้าที่เสมือนผู้ดูแลพื้นที่แห่งนี้
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้
ศาลเจ้าฮาโกเน่ตั้งอยู่บนเนินเขา นักท่องเที่ยวจึงต้องเดินขึ้นบันไดก่อนที่จะเข้าไปถึงตัวอาคารหลักของศาลเจ้า
ทางเดินไปยังบริเวณศาลเจ้าฮาโกเน่ มีทั้งทางเดินลาดยาว และบันไดขึ้นไปตามภูเขา นักท่องเที่ยวจึงควรใช้ความระมัดระวัง และใส่รองเท้าที่เดินได้อย่างสะดวกสบายขณะเดินขึ้นไปสู่ตัวศาลเจ้า และอาจต้องใช้ความระมัดระวังมากยิ่งขึ้นในวันที่มีฝนหรือหิมะตก
เสาโทริอิขนาดใหญ่ริมแม่น้ำ ที่นักท่องเที่ยวสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนยามลองเรือในทะเลสาบ หรือจากจุดชมวิว
บริเวณเสาโทริอิซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ถือเป็นหนึ่งในจุดถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยว บางครั้งในช่วงน้ำลด นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปยืนถ่ายรูปที่เสาได้เลย แต่ทั้งนี้ต้องมีความระมัดระวัง และรักษาความเหมาะสมด้วยทุกครั้ง
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว ศาลเจ้าฮาโกเน่ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ศาลเจ้าฮาโกเน่
(Hakone Shrine)
อัตราค่าเข้าชม : ไม่มีค่าใช้จ่าย
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มีวันหยุดและวันปิดทำการ
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : จังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น
เว็บไซต์ : http://hakonejinja.or.jp/
โทรศัพท์ : (+81) 460-83-7123
ระดับความนิยม :
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์หน่วยงานการท่องเที่ยวฮาโกเน่ https://www.hakone.or.jp/en/
เว็บไซต์รวบรวมข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวและการเดินทางบริเวณฮาโกเน่ http://www.hakonenavi.jp/thai/
เว็บไซต์ผู้ให้บริการการล่องเรือในทะเลสาบอะชิ http://www.hakone-kankosen.co.jp/foreign/thai/index.html
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
อ่านต่อพระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ
อ่านต่อตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด
อ่านต่อรูปปั้นโมอาย ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
รูปปั้นโมอาย (Moai) เป็นรูปปั้นหินซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เด่นชัด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร
อ่านต่อตลาดปลานิโจ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) เป็นตลาดปลาขนาดใหญ่ในเมืองซัปโปโรที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 100 ปี ตลาดแห่งนี้โด่งดังจากอาหารทะเลสดใหม่หลากหลายชนิด ร้านอาหาร และบรรยากาศที่คึกคัก เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวซัปโปโรจะต้องไม่พลาด
อ่านต่อชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ (Chitose Outlet Mall Rera) หนึ่งในเอาท์เล็ตมอลล์ขนาดใหญ่และได้รับความนิยมมากที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบิน New Chitose Airport เพียง 10 นาที
อ่านต่อคลองโอตารุ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
คลองโอตารุ (Otaru Canal) เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลที่สำคัญของฮอกไกโดในอดีต ปัจจุบันยังคงมีอาคารเก่าแก่เรียงรายริมคลอง สะท้อนภาพวิถีชีวิตในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส
อ่านต่อเนินแห่งพระพุทธเจ้า ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
เนินแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha) สถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของซัปโปโร โดดเด่นด้วยเศียรของพระรูปที่โผล่พ้นเนินเขาขึ้นมา ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกันกับรูปปั้นหินโมอาย (Moai Statue) ฉายา “สโตนเฮนจ์แห่งฮอกไกโด”
อ่านต่ออามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค (Amanohashidate Park) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ภายในอามาโนะฮาชิดาเตะเรียงรายไปด้วยทิวของต้นสน ทางเดินทอดยาว มีสะพานอันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ตลอดจนศาลเจ้าให้แวะสักการบูชา
อ่านต่อวัดซันจูซันเก็นโด จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดซันจูซันเก็นโด (Sanjusanjen-do Temple) เป็นวัดพุทธนิกายเท็นได ที่ตั้งอยู่ในย่านฮิกาชิยามะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ตัววัดมีชื่อเสียงโดดเด่นด้วยองค์เจ้าแม่กวนอิมปางค์ประทานพร (Senju Kannon) จำนวน 1,001 องค์ ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารไม้ยาว 120 เมตร ซึ่งถือเป็นวิหารไม้ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น
อ่านต่อ