- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- 9 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น
9 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น

- อ่าน (1,174)
- By Webmaster Webmaster
- 05:43:41 | 7 ก.พ. 2566
9 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น
Top 9 Travel Destinations in Oita, Japan
จังหวัดโออิตะ (Oita) นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องน้ำพุร้อนออนเซ็น โดยเมืองเด่นอย่าง เบปปุ (Beppu) และ ยูฟุอิน (Yufuin) เป็นจุดหมายหลักสำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว จังหวัดในภูมิภาคคิวชูแห่งนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกหลายแห่ง ทั้งสวนดอกไม้ น้ำตก ทะเลสาบ ไปจนถึงกระเช้าลอยฟ้า
แผนที่แสดงตำแหน่งของ 9 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองโออิตะ
บ่อนรกจิโกกุเมืองเบปปุ (Beppu Jigoku Meguri)
บ่อนรก หรือ จิโกกุ (Jigoku) ที่เมืองเบปปุ (Beppu) ในจังหวัดโออิตะ เป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เกิดขึ้นภายหลังการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 1,200 ปีที่แล้ว บ่อนรกที่ว่านี้มีอยู่ทั้งหมด 7 บ่อด้วยกัน ส่วนแรกตั้งอยู่ในเขตคันนาว่า (Kannawa) มีอยู่ 5 บ่อ แต่ละบ่อตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน ใช้เวลาไม่นานนักก็เดินครบ ส่วนที่สองมีอยู่ 2 บ่อ ตั้งอยู่ที่เขตชิบาเซกิ (Shibaseki) อยู่ห่างจากกลุ่ม 5 บ่อแรกออกไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร น้ำพุร้อนธรรมชาติเหล่านี้แต่ละบ่อจะมีลักษณะและสีของน้ำที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแร่ธาตุในบ่อนั้นๆ สิ่งนี้เองที่สร้างความสวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับการเที่ยวชมให้ครบทุกบ่อ จิโกกุเรียกได้ว่าเป็นแหล่งออนเซนที่มีชื่อเสียงลำดับต้นๆ ของญี่ปุ่น และที่นี่ยังถูกยกให้เป็นแหล่งทิวทัศน์แห่งชาติในวันที่ 23 กรกฎาคม ค.ศ.2009 อีกด้วย
ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชม 400 เยนต่อบ่อ หรือ ซื้อบัตรเข้าชมรวมทุกบ่อ ราคา 2000 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น.
พิกัด GPS : 33°18'57.3"N 131°28'11.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บ่อนรกจิโกกุเมืองเบปปุ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1111
กระเช้าลอยฟ้าเบปปุ – ภูเขาสึรุมิ (Beppu Ropeway Tsurumi-dake)
ภูเขาสึรุมิ (Tsurumi - dake) ภูเขาสูง 1,375 เมตรที่สามารถเข้าถึงได้โดยกระเช้าลอยฟ้าเบปปุ (Beppu Ropeway) ซึ่งจะพานักท่องเที่ยวไต่ระดับทางลาดชันเกือบ 800 เมตรขึ้นไปยังสวนสาธารณะขนาดเล็กใกล้กับยอดเขา และเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจากมุมสูง โดยบริเวณสวนสาธารณะมีดาดฟ้าชมวิวหลายแห่งพร้อมทิวทัศน์มุมกว้างของเมืองเบปปุ ภูเขายุฟุ และยังสามารถมองเห็นได้ไกลถึงเทือกเขาคุจูในวันที่ทัศนวิสัยดี สวนสาธารณะขนาดเล็กแห่งนี้ครอบคลุมเส้นทางเดินเท้าที่ทอดยาวไปสู่จุดชมวิวต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียง และนักท่องเที่ยวสามารถเดินถึงยอดเขาสึรุมิได้ภายใน 15 นาทีจากสถานีกระเช้าด้านบนนี้ด้วย
ค่าเข้าชม : ตั๋วไป-กลับ ราคา 1,600 เยน ตั๋วเที่ยวเดียว ราคา 1,000 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 9.00 – 16.30 น.
พิกัด GPS : 33°16'40.4"N 131°26'56.4"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กระเช้าลอยฟ้าเบปปุ – ภูเขาสึรุมิ ได้ที่ : https://palanla.com/en/abroadLocation/detail/1273
บ่อทรายร้อนชายหาดเบปปุ (Beppu Beach Sand Bath)
นอกจากเมืองเบปปุในจังหวัดโออิตะจะขึ้นชื่อเรื่องบ่อน้ำพุร้อนที่มีกระจายอยู่รอบตัวเมืองแล้ว บ่อทรายร้อนที่ชายหาดเบปปุก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คนนิยมมาอบทรายร้อนกัน การอบทรายร้อนนั้นช่วยส่งผลในด้านสุขภาพ ความงามของผิวพรรณ และผ่อนคลายความเมื่อยล้าเทียบเท่ากับการเข้าออนเซ็นเลยก็ว่าได้ ซึ่งการอบทรายร้อนที่ชายหาดเบปปุนี้นักท่องเที่ยวจะได้รับแจกชุดยูกาตะซึ่งเป็นชุดกิโมโนสำหรับหน้าร้อน พร้อมด้วยผ้าขนหนูไว้ห่มระหว่างที่อบทราย โดยปกติแล้วจะถูกกลบด้วยทรายจนถึงคอ จากนั้นร่างกายจะค่อยๆ รู้สึกร้อนระอุ หลังจากที่อบทรายร้อนเสร็จก็จะเป็นออนเซ็นน้ำร้อนเพื่อล้างทรายออกจากตัว การอบทรายร้อนใช้เวลาประมาณ 15 นาที โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่คนละ 1,040 เยน บรรยากาศริมหาด เสียงคลื่นทะเล กับการอบทรายร้อนเป็นสิ่งที่ต้องลองสักครั้งหากมาเที่ยวเบปปุ
ค่าบริการ : 1,040 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เดือนมีนาคม - พฤศจิกายน เปิดทุกวัน เวลา 8.30-18.00 น. เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ เปิดทุกวัน เวลา 9.00-17.00 น.
พิกัด GPS : 33°18'43.2"N 131°30'06.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บ่อทรายร้อนชายหาดเบปปุ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1134
หมู่บ้านยูฟุอิน ฟลอรัล (Yufuin Floral Village)
หมู่บ้านยูฟุอิน ฟลอรัล (Yufuin Floral Village) หมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางหุบเขาในจังหวัดโออิตะ ที่กรุ่นกลิ่นอายสไตล์ยุโรป ด้วยบ้านอิฐหลังน้อยที่ด้านในเป็นทั้งร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ของกระจุกกระจิกเรียงรายตลอดสองข้างถนนและตกแต่งด้วยดอกไม้สวยๆ หลากชนิด ให้บรรยากาศที่สวยงาม อบอุ่น สบายๆ ใครที่มายูฟุอินต่างก็จะต้องมาเดินเล่นถ่ายรูปกันที่หมู่บ้านน่ารักๆ แห่งนี้ โดยร้านค้าแต่ละร้านภายในหมู่บ้านตกแต่งได้อย่างน่าสนใจและสินค้ามักไม่ค่อยซ้ำกัน นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินชมเข้าร้านนี้ออกร้านนั้นได้อย่างเพลิดเพลิน หากเดินไปจนสุดทางของย่านร้านค้าก็จะเป็นทะเลสาบคินริน (Kinrin Lake) อีกหนึ่งจุดห้ามพลาดเมื่อมายูฟุอิน
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 9.30 – 17.30 น.
พิกัด GPS : 33°16'02.9"N 131°21'56.3"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ หมู่บ้านยูฟุอิน ฟลอรัล ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1137
ทะเลสาบคินริน (Kinrin Lake)
ทะเลสาบคินริน (Kinrin Lake) ทะเลสาบเล็กๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองยูฟุอิน (Yufuin) จังหวัดโออิตะ (Oita) นอกจากความสวยงามของธรรมชาติแล้ว ความพิเศษของทะเลสาบแห่งนี้คือน้ำในทะเลสาบที่ไหลมาจากน้ำพุร้อน จึงทำให้น้ำในทะเลสาบอุ่นอยู่ตลอดเวลา โดยในตอนเช้าบริเวณผิวน้ำจะมีไอน้ำลอยขึ้นมา ทะเลสาบคินรินถือเป็นอีกหนึ่งทะเลสาบที่มีทัศนียภาพรอบๆ ที่สวยงามเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูหนาว รอบๆ ทะเลสาบมีทางให้เดินไปท่ามกลางธรรมชาติ บางจุดก็ยื่นเข้าไปในทะเลสาบ เหมาะแก่การมาเดินเล่น ถ่ายรูปสวยๆ โดยมีทะเลสาบแห่งนี้กับภูเขายุฟุดาเกะตั้งตระหง่านเป็นฉากหลังเป็นฉากหลัง
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 33°16'00.2"N 131°22'09.3"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ทะเลสาบคินริน ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1133
ถนนช้อปปิ้งยูโนะสึโบะ (Yunotsubo Streets)
ถนนช้อปปิ้งยูโนะสึโบะ (Yunotsubo Streets) ถนนช้อปปิ้งความยาวกว่า 700 เมตร อยู่ติดกันกับหมู่บ้านยูฟุอิน ฟลอรัล ตลอดสองข้างถนนยูโนะสึโบะเรียงรายไปด้วยร้านค้าต่างๆ และบ้านเรือนของผู้คนสลับกันไป บรรยากาศโดยรอบนั้นทำให้เดินได้เพลินเลย เพราะแต่ละร้านตกแต่งได้อย่างน่ารักลงตัว สินค้าโดยมากจะเป็นประเภทของกิ๊ฟท์ช้อปน่ารักๆ ของที่ระลึกกระจุกกระจิก รวมถึงร้านขายของที่ระลึกจากสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยร้านขายขนมอร่อยๆ ซึ่งล้วนเป็นของขึ้นชื่อประจำจังหวัด และที่นี่เองคือต้นแบบไอเดียสินค้า OTOP หรือ “1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์” ในเมืองไทย
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 33°16'02.4"N 131°21'46.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ถนนช้อปปิ้งยูโนะสึโบะ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1132
สะพานแขวนยูเมะ (Kokonoe Yume Suspension Bridge)
สะพานแขวนยูเมะ (Kokonoe Yume Suspension Bridge) ตั้งอยู่แถบคุซู ในจังหวัดโออิตะ สะพานแห่งนี้ถือเป็นสะพานแขวนสำหรับคนเดินที่ยาวและสูงที่สุดในโลก โดยมีความสูง 173 เมตร และความยาว 375 เมตร นอกจากความเย็นจากป่าที่อุดมสมบูรณ์โดยรอบขนาดที่ได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่ที่มีสีเขียวมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นแล้ว ที่ตั้งของสะพานแขวนยูเมะซึ่งอยู่ระหว่างช่องเขาก็ทำให้บริเวณสะพานมีลมพัดเย็นตลอด โดยระหว่างทางเดินข้ามสะพานยังสามารถมองเห็นน้ำตกขนาดใหญ่ 2 แห่ง ซึ่งน้ำตกที่มองเห็นก่อนเข้าสะพานแขวนยูเมะคือน้ำตก “ชินโดโนตากิ” (Shindonotaki) เป็นน้ำตกที่ติด 1 ใน 100 น้ำตกที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่นด้วย
ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชม 500 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เดือนมกราคม - มิถุนายน และเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม เปิดทุกวัน เวลา เวลา 8.30 – 17.00 น. เดือนกันยายน – ตุลาคม เปิดทุกวัน เวลา 8.30 – 18.00 น.
พิกัด GPS : 33°10'21.1"N 131°13'32.2"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สะพานแขวนยูเมะ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1136
สวนดอกไม้คูจู (Kuju Hana Koen)
สวนดอกไม้คูจู (Kuju Hana Koen) อยู่บริเวณเชิงเขาทางทิศใต้ของเทือกเขาคูจู (Kuju Mountain) จังหวัดโออิตะ สวนดอกไม้แห่งนี้เป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะคิวชู บนพื้นที่กว่า 130 ไร่ โดยมีดอกไม้มากกว่า 3 ล้านดอก จากกว่า 500 สายพันธุ์ที่จะเบ่งบานตามฤดูกาลเผยความงามให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมและเก็บเกี่ยวความประทับใจ ภายในสวนดอกไม้คูจูมีทางเดินขนาดใหญ่วนรอบไปทั่วทุ่งที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ซึ่งการจัดแปลงดอกไม้นั้นทางสวนจัดโดยรวมเอาชนิดที่บานพร้อมๆ กันมาไว้ด้วยกัน ทำให้กลายเป็นสีสันที่ต่อเนื่อง สวยงาม นอกจากนี้ภายในสวนดอกไม้คูจูยังมีเรือนกระจกที่จัดแสดงดอกไม้เมืองร้อนอื่นๆ ร้านขายของที่ระลึก ร้านขนม และหากมาเที่ยวในวันเสาร์หรืออาทิตย์ก็จะได้ชมสินค้าสวดๆ จากไร่ทั้งผักและผลไม้ต่างๆ ที่ชาวสวนท้องถิ่นนำมาขายด้วย
ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชม 1300 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.30-17.30 น. ปิดทำการในฤดูหนาว ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์
พิกัด GPS : 33°02'53.2"N 131°14'37.4"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สวนดอกไม้คูจู ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1135
น้ำตกฮาราจิริ (Harajiri Fall)
น้ำตกฮาราจิริ (Harajiri Fall) น้ำตกอายุร่วม 90,000 ปีที่เกิดจากการไหลของลาวาเมื่อครั้งภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso) ในจังหวัดคุมาโมโตะ (Kumamoto) ซึ่งเป็นจังหวัดใกล้เคียงกันปะทุ ลักษณะอันโดดเด่นของน้ำตกแห่งนี้คือเป็นน้ำตกความสูง 20 เมตรและกว้างกว่า 120 เมตร หากมองจากด้านบน น้ำตกจะเรียงตัวกันเป็นทรงโค้งสวยงาม โผล่ขึ้นมาบนพื้นที่ราบที่ล้อมรอบด้วยทุ่งนาข้าวอันกว้างใหญ่ เรียกได้ว่าเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ สวยงามแปลกตา และมีลักษณะคล้ายน้ำตกไนแองการาที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในขนาดย่อส่วน จึงทำให้ที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็นน้ำตกไนแองการาของญี่ปุ่นและโลกตะวันออก และยังติดอันดับ 1 ใน 100 น้ำตกที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 32°57'52.5"N 131°27'03.2"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ น้ำตกฮาราจิริ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/1274
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดโออิตะ https://www.discover-oita.com/
เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนญี่ปุ่น http://www.hyperdia.com/
สกุลเงินที่ใช้ : เยน (JPY)
ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ https://www.xe.com/currencyconverter/
สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย https://www.th.emb-japan.go.jp/
แอปพลิเคชั่นแนะนำสำหรับเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ในเมืองโออิตะ
- Uber สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
- JapanTaxi สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) ลิงค์ และ Play Store (Android)
อัตราค่าบริการ (TAXI FARE)
อัตราค่าครองชีพ (DAILY COST)
สภาพอากาศ (WEATHER)
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

9 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในมณฑลกานซู ประเทศจีน
มณฑลกานซูตั้งอยู่ทางภาคเหนือตอนกลางของประเทศจีน พื้นที่แถบนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งซึ่งกระจายตัวอยู่ตามเมืองดังต่างๆ เช่น เมืองตุนหวง และ เมืองจางเย่ อีกทั้งการเดินทางมาเที่ยวที่พื้นที่บริเวณนี้ก็มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก เพราะมณฑลกานซูมีสนามบินหลันโจวจงฉวนซึ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่สามารถนั่งเครื่องบินจากไทยมาลงได้โดยตรง และยังสามารถต่อเที่ยวบินท้องถิ่นเพื่อไปมาระหว่างเมืองอื่นในจีนได้ตามต้องการอีกด้วย
อ่านต่อ
วัดลาบรัง วัดทิเบตโบราณ มณฑลกานซู ประเทศจีน
วัดลาบรัง (Labrang Monastery) เป็นวัดและมหาวิทยาลัยสงฆ์ในพุทธศาสนานิกายทิเบตที่มีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่เทียบเท่าได้กับเมืองขนาดย่อมใจกลางหุบเขา หมู่อารามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ ศาลา หอสวดมนต์ หอพระสูตร อาคารเรียน เจดีย์ และที่พำนักสงฆ์ ล้วนถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตกรรมวิหารทิเบตอย่างงดงาม นักท่องเที่ยวสามารถซื้อบริการทัวร์เที่ยวชมภายในวัด หรือจะซื้อตั๋วเข้าชมภายในวัดด้วยตนเองตามอัธยาศัยก็ได้ โดยการเที่ยวชมภายในวัดลาบรังจะยกเว้นบริเวณที่พำนักสงฆ์ และห้ามภ่ายภาพภายในสถานที่สำคัญบางแห่งที่มีป้ายถ่ายภาพ ไฮไลท์ของการเที่ยวชมวัดลาบรังได้แก่บริเวณหอสามชั้นซึ่งสร้างขึ้นแบบทิเบตดั้งเดิม บริเวณห้องโถงฮายากริวาที่มีจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตรงดงาม และบริเวณเจดีย์สีทอง รวมถึงบริเวณจุดชมวิวต่างๆ ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่งของหมู่อารามทั้งหมดที่โอบล้อมด้วยภูเขา วัดลาบรังได้รับการยกย่องให้เป็น "สถาบันทิเบตศาสตร์แห่งโลก" และถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมณฑลกานซูเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ
15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh) หรือที่รู้จักกันในชื่อไซ่ง่อน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานของเวียดนาม ทั้งยังคึกคักและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา Palanla ขอนำเสนอ 15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ที่มัดรวมเข้าด้วยกันแล้วรับรองว่าจะสามารถบอกเล่าเรื่องราวของความเป็น “ไซ่ง่อน” ได้อย่างดีเยี่ยม
อ่านต่อ
8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม
เว้ (Thua Thien Hue) เป็นหนึ่งในเมืองอันดับต้นๆ ของเวียดนามที่รวบรวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเป็นชาติเวียดนามเอาไว้มากมาย ผ่านสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีนัยยะสำคัญทางความหมาย ทั้งจากอดีตและในปัจจุบัน หากต้องการรู้จักเวียดนาม แน่นอนว่าเราจึงไม่อาจปฏิเสธการมาเยี่ยมชมเมืองเว้ไปได้ Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนามพร้อมๆ กัน
อ่านต่อ
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
จังหวัดหล่าวกายเป็นจังหวัดในพื้นที่ภูเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม พื้นที่บริเวณนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะในเมืองซาปาอันโด่งดังที่โอบล้อมด้วยภูเขา และมีทิวทัศน์ของท้องนาขั้นบันไดอันงดงามท่ามกลางป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ วันนี้ทาง Palanla จึงได้คัดสรรสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดหล่าวกายมาฝากทุกท่าน โดยมีทั้งจุดชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจไปจนถึงแลนด์มาร์กสำคัญที่ต้องไปเช็คอินให้ได้ โดยรวบรวมสถานที่สำคัญทั้งหมดสิบแห่งไว้ในบทความนี้เพื่อเป็นแนวทางท่องเที่ยวหล่าวกายในช่วงวันหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้
อ่านต่อ
หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากทิวทัศน์ของภูเขาและนาขั้นบันได นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวม้ง เที่ยวชมบ้านเรือนที่สร้างด้วยไม้แบบดั้งเดิม และตื่นตาตื่นใจไปกับทัศนียภาพอันน่าทึ่งของหมู่บ้านที่จะสวยงามแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล รวมทั้งได้เที่ยวชมตลาดท้องถิ่นที่มีสินค้าแฮนด์เมดสวยๆ และอาหารท้องถิ่นที่น่าลิ้มลอง นอกจากนี้ อีกหนึ่งโซนที่พลาดไม่ได้ภายในหมู่บ้านคือบริเวณน้ำตกกั๊ตกั๊ตที่มีความสวยงามและร่มเย็นเป็นอย่างมาก ซึ่งน้ำจะไหลตลอดทั้งปี และจะไหลแรงที่สุดในช่วงฤดูฝนประมาณเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน
อ่านต่อ
หมู่บ้านเมืองฮัว จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
หมู่บ้านเมืองฮัว (Muong Hoa Village) เป็นหมู่บ้านชาวม้งที่ตั้งอยู่ในหุบเขาเมืองฮัวของเมืองซาปา ไฮไลท์ของที่นี่คือทิวทัศน์ทางธรรมชาติอันสวยงามของนาข้าวขั้นบันไดท่ามกลางภูเขาและป่าไม้ โดยจะมีความสวยงามที่สุดในช่วงเดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงที่รวงข้าวสุกงอมเป็นสีทองอร่ามไปทั้งไหล่เขาท่ามกลางภูเขาที่โอบล้อม และในบางช่วงเวลาจะมีสายหมอกปกคลุม เป็นจุดชมวิวธรรมชาติที่สวยงามและมีบรรยากาศที่เงียบสงบ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นและที่พักแบบโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
อ่านต่อ
สะพานแก้วมังกรเมฆ จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
สะพานแก้วมังกรเมฆ (Glass Bridge Rong May) เป็นสะพานกระจกแก้วแห่งแรกของเวียดนามที่สร้างขึ้นบนเทือกเขาฮว่างเลียนเซิน ไฮไลท์ของสะพานกระจกแก้วนี้คือความสูงราวสองพันเมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นจุดชมวิวที่น่าตื่นเต้นจากการได้เดินชมวิวบนสะพานพื้นกระจกใส ท่ามกลางสายหมอกและเมฆที่ลอยอยู่ ซึ่งมองไปจะเห็นวิวอันน่าทึ่งภูเขานับพันลูก ทุ่งนาขั้นบันได และถนนคดเคี้ยวด้านล่าง โดยการเดินทางขึ้นมายังสะพานแก้วมังกรเมฆนี้มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมากจากบริการลิฟต์แก้วที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการขึ้นไปถึงสะพานแก้วบนยอดเขา
อ่านต่อ
วัดตรักลัมไดเกียกเซน จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
วัดตรักลัมไดเกียกเซน (Truc Lam Dai Giac Zen Monastery) เป็นวัดพุทธแห่งแรกที่สร้างขึ้นในเมืองซาปา ภายในวัดประกอบด้วยหมู่อารามหลายหลังที่สร้างขึ้นอย่างงดงาม สามารถเดินชมสถาปัตยกรรมของวัดและทิวทัศน์จากด้านบนเนินเขาได้อย่างเพลิดเพลิน รวมทั้งแวะสักการะพระพุทธรูปปางต่างๆ ภายในวัดเพื่อความเป็นสิริมงคลได้อีกด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางในเส้นทางท่องเที่ยวเมืองซาปาและจังหวัดหล่าวกายที่ไม่ควรพลาด
อ่านต่อ
ภูเขาฮามรอง จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
ภูเขาฮามรอง (Ham Rong Mountain) เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่กลางเมืองซาปา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีทุ่งดอกไม้สีสันสดใสนานาพันธุ์ให้เที่ยวชม และมีจุดชมวิวที่น่าประทับใจอยู่หลายแห่ง โดยจุดชมวิวที่เป็นไฮไลท์คือจุดชมวิวที่สถานีโทรคมนาคมซาปาที่สามารถชมวิวของภูเขาฟานซีปันซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี และจุดชมวิวคลาวด์ยาร์ดที่สามารถเห็นกลุ่มมวลเมฆและสายหมอกล่องลอยอยู่เหนือเมืองซาปา และมองเห็นหุบเขาเมืองฮัว หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต และทุ่งนาขั้นบันได ภูเขาฮามรองจึงเป็นจุดท่องเที่ยวและจุดถ่ายภาพยอดนิยมของเมืองซาปาที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ