- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- 9 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น
9 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น

- อ่าน (251)
- By Webmaster Webmaster
- 02:29:00 | 30 ม.ค. 2566
9 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น
Top 9 Travel Destinations in Oita, Japan
จังหวัดโออิตะ (Oita) นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องน้ำพุร้อนออนเซ็น โดยเมืองเด่นอย่าง เบปปุ (Beppu) และ ยูฟุอิน (Yufuin) เป็นจุดหมายหลักสำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว จังหวัดในภูมิภาคคิวชูแห่งนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกหลายแห่ง ทั้งสวนดอกไม้ น้ำตก ทะเลสาบ ไปจนถึงกระเช้าลอยฟ้า
แผนที่แสดงตำแหน่งของ 9 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองโออิตะ
บ่อนรกจิโกกุเมืองเบปปุ (Beppu Jigoku Meguri)
บ่อนรก หรือ จิโกกุ (Jigoku) ที่เมืองเบปปุ (Beppu) ในจังหวัดโออิตะ เป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เกิดขึ้นภายหลังการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 1,200 ปีที่แล้ว บ่อนรกที่ว่านี้มีอยู่ทั้งหมด 7 บ่อด้วยกัน ส่วนแรกตั้งอยู่ในเขตคันนาว่า (Kannawa) มีอยู่ 5 บ่อ แต่ละบ่อตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน ใช้เวลาไม่นานนักก็เดินครบ ส่วนที่สองมีอยู่ 2 บ่อ ตั้งอยู่ที่เขตชิบาเซกิ (Shibaseki) อยู่ห่างจากกลุ่ม 5 บ่อแรกออกไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร น้ำพุร้อนธรรมชาติเหล่านี้แต่ละบ่อจะมีลักษณะและสีของน้ำที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแร่ธาตุในบ่อนั้นๆ สิ่งนี้เองที่สร้างความสวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับการเที่ยวชมให้ครบทุกบ่อ จิโกกุเรียกได้ว่าเป็นแหล่งออนเซนที่มีชื่อเสียงลำดับต้นๆ ของญี่ปุ่น และที่นี่ยังถูกยกให้เป็นแหล่งทิวทัศน์แห่งชาติในวันที่ 23 กรกฎาคม ค.ศ.2009 อีกด้วย
ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชม 400 เยนต่อบ่อ หรือ ซื้อบัตรเข้าชมรวมทุกบ่อ ราคา 2000 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น.
พิกัด GPS : 33°18'57.3"N 131°28'11.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บ่อนรกจิโกกุเมืองเบปปุ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1111
กระเช้าลอยฟ้าเบปปุ – ภูเขาสึรุมิ (Beppu Ropeway Tsurumi-dake)
ภูเขาสึรุมิ (Tsurumi - dake) ภูเขาสูง 1,375 เมตรที่สามารถเข้าถึงได้โดยกระเช้าลอยฟ้าเบปปุ (Beppu Ropeway) ซึ่งจะพานักท่องเที่ยวไต่ระดับทางลาดชันเกือบ 800 เมตรขึ้นไปยังสวนสาธารณะขนาดเล็กใกล้กับยอดเขา และเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจากมุมสูง โดยบริเวณสวนสาธารณะมีดาดฟ้าชมวิวหลายแห่งพร้อมทิวทัศน์มุมกว้างของเมืองเบปปุ ภูเขายุฟุ และยังสามารถมองเห็นได้ไกลถึงเทือกเขาคุจูในวันที่ทัศนวิสัยดี สวนสาธารณะขนาดเล็กแห่งนี้ครอบคลุมเส้นทางเดินเท้าที่ทอดยาวไปสู่จุดชมวิวต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียง และนักท่องเที่ยวสามารถเดินถึงยอดเขาสึรุมิได้ภายใน 15 นาทีจากสถานีกระเช้าด้านบนนี้ด้วย
ค่าเข้าชม : ตั๋วไป-กลับ ราคา 1,600 เยน ตั๋วเที่ยวเดียว ราคา 1,000 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 9.00 – 16.30 น.
พิกัด GPS : 33°16'40.4"N 131°26'56.4"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กระเช้าลอยฟ้าเบปปุ – ภูเขาสึรุมิ ได้ที่ : https://palanla.com/en/abroadLocation/detail/1273
บ่อทรายร้อนชายหาดเบปปุ (Beppu Beach Sand Bath)
นอกจากเมืองเบปปุในจังหวัดโออิตะจะขึ้นชื่อเรื่องบ่อน้ำพุร้อนที่มีกระจายอยู่รอบตัวเมืองแล้ว บ่อทรายร้อนที่ชายหาดเบปปุก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คนนิยมมาอบทรายร้อนกัน การอบทรายร้อนนั้นช่วยส่งผลในด้านสุขภาพ ความงามของผิวพรรณ และผ่อนคลายความเมื่อยล้าเทียบเท่ากับการเข้าออนเซ็นเลยก็ว่าได้ ซึ่งการอบทรายร้อนที่ชายหาดเบปปุนี้นักท่องเที่ยวจะได้รับแจกชุดยูกาตะซึ่งเป็นชุดกิโมโนสำหรับหน้าร้อน พร้อมด้วยผ้าขนหนูไว้ห่มระหว่างที่อบทราย โดยปกติแล้วจะถูกกลบด้วยทรายจนถึงคอ จากนั้นร่างกายจะค่อยๆ รู้สึกร้อนระอุ หลังจากที่อบทรายร้อนเสร็จก็จะเป็นออนเซ็นน้ำร้อนเพื่อล้างทรายออกจากตัว การอบทรายร้อนใช้เวลาประมาณ 15 นาที โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่คนละ 1,040 เยน บรรยากาศริมหาด เสียงคลื่นทะเล กับการอบทรายร้อนเป็นสิ่งที่ต้องลองสักครั้งหากมาเที่ยวเบปปุ
ค่าบริการ : 1,040 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เดือนมีนาคม - พฤศจิกายน เปิดทุกวัน เวลา 8.30-18.00 น. เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ เปิดทุกวัน เวลา 9.00-17.00 น.
พิกัด GPS : 33°18'43.2"N 131°30'06.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บ่อทรายร้อนชายหาดเบปปุ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1134
หมู่บ้านยูฟุอิน ฟลอรัล (Yufuin Floral Village)
หมู่บ้านยูฟุอิน ฟลอรัล (Yufuin Floral Village) หมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางหุบเขาในจังหวัดโออิตะ ที่กรุ่นกลิ่นอายสไตล์ยุโรป ด้วยบ้านอิฐหลังน้อยที่ด้านในเป็นทั้งร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ของกระจุกกระจิกเรียงรายตลอดสองข้างถนนและตกแต่งด้วยดอกไม้สวยๆ หลากชนิด ให้บรรยากาศที่สวยงาม อบอุ่น สบายๆ ใครที่มายูฟุอินต่างก็จะต้องมาเดินเล่นถ่ายรูปกันที่หมู่บ้านน่ารักๆ แห่งนี้ โดยร้านค้าแต่ละร้านภายในหมู่บ้านตกแต่งได้อย่างน่าสนใจและสินค้ามักไม่ค่อยซ้ำกัน นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินชมเข้าร้านนี้ออกร้านนั้นได้อย่างเพลิดเพลิน หากเดินไปจนสุดทางของย่านร้านค้าก็จะเป็นทะเลสาบคินริน (Kinrin Lake) อีกหนึ่งจุดห้ามพลาดเมื่อมายูฟุอิน
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 9.30 – 17.30 น.
พิกัด GPS : 33°16'02.9"N 131°21'56.3"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ หมู่บ้านยูฟุอิน ฟลอรัล ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1137
ทะเลสาบคินริน (Kinrin Lake)
ทะเลสาบคินริน (Kinrin Lake) ทะเลสาบเล็กๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองยูฟุอิน (Yufuin) จังหวัดโออิตะ (Oita) นอกจากความสวยงามของธรรมชาติแล้ว ความพิเศษของทะเลสาบแห่งนี้คือน้ำในทะเลสาบที่ไหลมาจากน้ำพุร้อน จึงทำให้น้ำในทะเลสาบอุ่นอยู่ตลอดเวลา โดยในตอนเช้าบริเวณผิวน้ำจะมีไอน้ำลอยขึ้นมา ทะเลสาบคินรินถือเป็นอีกหนึ่งทะเลสาบที่มีทัศนียภาพรอบๆ ที่สวยงามเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูหนาว รอบๆ ทะเลสาบมีทางให้เดินไปท่ามกลางธรรมชาติ บางจุดก็ยื่นเข้าไปในทะเลสาบ เหมาะแก่การมาเดินเล่น ถ่ายรูปสวยๆ โดยมีทะเลสาบแห่งนี้กับภูเขายุฟุดาเกะตั้งตระหง่านเป็นฉากหลังเป็นฉากหลัง
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 33°16'00.2"N 131°22'09.3"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ทะเลสาบคินริน ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1133
ถนนช้อปปิ้งยูโนะสึโบะ (Yunotsubo Streets)
ถนนช้อปปิ้งยูโนะสึโบะ (Yunotsubo Streets) ถนนช้อปปิ้งความยาวกว่า 700 เมตร อยู่ติดกันกับหมู่บ้านยูฟุอิน ฟลอรัล ตลอดสองข้างถนนยูโนะสึโบะเรียงรายไปด้วยร้านค้าต่างๆ และบ้านเรือนของผู้คนสลับกันไป บรรยากาศโดยรอบนั้นทำให้เดินได้เพลินเลย เพราะแต่ละร้านตกแต่งได้อย่างน่ารักลงตัว สินค้าโดยมากจะเป็นประเภทของกิ๊ฟท์ช้อปน่ารักๆ ของที่ระลึกกระจุกกระจิก รวมถึงร้านขายของที่ระลึกจากสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยร้านขายขนมอร่อยๆ ซึ่งล้วนเป็นของขึ้นชื่อประจำจังหวัด และที่นี่เองคือต้นแบบไอเดียสินค้า OTOP หรือ “1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์” ในเมืองไทย
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 33°16'02.4"N 131°21'46.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ถนนช้อปปิ้งยูโนะสึโบะ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1132
สะพานแขวนยูเมะ (Kokonoe Yume Suspension Bridge)
สะพานแขวนยูเมะ (Kokonoe Yume Suspension Bridge) ตั้งอยู่แถบคุซู ในจังหวัดโออิตะ สะพานแห่งนี้ถือเป็นสะพานแขวนสำหรับคนเดินที่ยาวและสูงที่สุดในโลก โดยมีความสูง 173 เมตร และความยาว 375 เมตร นอกจากความเย็นจากป่าที่อุดมสมบูรณ์โดยรอบขนาดที่ได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่ที่มีสีเขียวมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นแล้ว ที่ตั้งของสะพานแขวนยูเมะซึ่งอยู่ระหว่างช่องเขาก็ทำให้บริเวณสะพานมีลมพัดเย็นตลอด โดยระหว่างทางเดินข้ามสะพานยังสามารถมองเห็นน้ำตกขนาดใหญ่ 2 แห่ง ซึ่งน้ำตกที่มองเห็นก่อนเข้าสะพานแขวนยูเมะคือน้ำตก “ชินโดโนตากิ” (Shindonotaki) เป็นน้ำตกที่ติด 1 ใน 100 น้ำตกที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่นด้วย
ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชม 500 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เดือนมกราคม - มิถุนายน และเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม เปิดทุกวัน เวลา เวลา 8.30 – 17.00 น. เดือนกันยายน – ตุลาคม เปิดทุกวัน เวลา 8.30 – 18.00 น.
พิกัด GPS : 33°10'21.1"N 131°13'32.2"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สะพานแขวนยูเมะ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1136
สวนดอกไม้คูจู (Kuju Hana Koen)
สวนดอกไม้คูจู (Kuju Hana Koen) อยู่บริเวณเชิงเขาทางทิศใต้ของเทือกเขาคูจู (Kuju Mountain) จังหวัดโออิตะ สวนดอกไม้แห่งนี้เป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะคิวชู บนพื้นที่กว่า 130 ไร่ โดยมีดอกไม้มากกว่า 3 ล้านดอก จากกว่า 500 สายพันธุ์ที่จะเบ่งบานตามฤดูกาลเผยความงามให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมและเก็บเกี่ยวความประทับใจ ภายในสวนดอกไม้คูจูมีทางเดินขนาดใหญ่วนรอบไปทั่วทุ่งที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ซึ่งการจัดแปลงดอกไม้นั้นทางสวนจัดโดยรวมเอาชนิดที่บานพร้อมๆ กันมาไว้ด้วยกัน ทำให้กลายเป็นสีสันที่ต่อเนื่อง สวยงาม นอกจากนี้ภายในสวนดอกไม้คูจูยังมีเรือนกระจกที่จัดแสดงดอกไม้เมืองร้อนอื่นๆ ร้านขายของที่ระลึก ร้านขนม และหากมาเที่ยวในวันเสาร์หรืออาทิตย์ก็จะได้ชมสินค้าสวดๆ จากไร่ทั้งผักและผลไม้ต่างๆ ที่ชาวสวนท้องถิ่นนำมาขายด้วย
ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชม 1300 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.30-17.30 น. ปิดทำการในฤดูหนาว ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์
พิกัด GPS : 33°02'53.2"N 131°14'37.4"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สวนดอกไม้คูจู ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1135
น้ำตกฮาราจิริ (Harajiri Fall)
น้ำตกฮาราจิริ (Harajiri Fall) น้ำตกอายุร่วม 90,000 ปีที่เกิดจากการไหลของลาวาเมื่อครั้งภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso) ในจังหวัดคุมาโมโตะ (Kumamoto) ซึ่งเป็นจังหวัดใกล้เคียงกันปะทุ ลักษณะอันโดดเด่นของน้ำตกแห่งนี้คือเป็นน้ำตกความสูง 20 เมตรและกว้างกว่า 120 เมตร หากมองจากด้านบน น้ำตกจะเรียงตัวกันเป็นทรงโค้งสวยงาม โผล่ขึ้นมาบนพื้นที่ราบที่ล้อมรอบด้วยทุ่งนาข้าวอันกว้างใหญ่ เรียกได้ว่าเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ สวยงามแปลกตา และมีลักษณะคล้ายน้ำตกไนแองการาที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในขนาดย่อส่วน จึงทำให้ที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็นน้ำตกไนแองการาของญี่ปุ่นและโลกตะวันออก และยังติดอันดับ 1 ใน 100 น้ำตกที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 32°57'52.5"N 131°27'03.2"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ น้ำตกฮาราจิริ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/1274
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดโออิตะ https://www.discover-oita.com/
เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนญี่ปุ่น http://www.hyperdia.com/
สกุลเงินที่ใช้ : เยน (JPY)
ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ https://www.xe.com/currencyconverter/
สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย https://www.th.emb-japan.go.jp/
แอปพลิเคชั่นแนะนำสำหรับเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ในเมืองโออิตะ
- Uber สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
- JapanTaxi สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) ลิงค์ และ Play Store (Android)
อัตราค่าบริการ (TAXI FARE)
อัตราค่าครองชีพ (DAILY COST)
สภาพอากาศ (WEATHER)
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

“Changi Airport” สุดยอดสนามบินที่ดีที่สุดในโลกปี 2023
การประกาศรางวัล World Airport Awards ซึ่งจัดขึ้นที่ Passenger Terminal EXPO ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2023 “ท่าอากาศยานนานาชาติชางงี” ประเทศสิงคโปร์ คว้าตำแหน่งสนามบินที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งในอดีตนั้นสนามบินแห่งนี้เคยเป็นแชมป์ติดต่อกันถึง 8 ปีซ้อน ก่อนที่ในปี 2021- 2022 รางวัลชิ้นนี้จะตกเป็นของท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ และในปี 2023 นี้ ท่าอากาศยานนานาชาติชางงีก็ได้กลับมาทวงบัลลังก์อีกครั้ง
อ่านต่อ
3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
ญี่ปุ่น ประเทศที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและมีการจัดอันดับให้กับที่ต่างๆ อยู่มากมาย และแน่นอนว่าการจัดอันดับให้กับจุดชมวิวระดับท็อปของประเทศก็เป็นสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นไม่อาจพลาดไปได้เช่นกัน วันนี้ Palanla จะพาไปชม 3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น หรือที่ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ”Nihon Sankei” ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 โดย Hayashi Razan นักปรัชญาในสมัยรัฐบาลเอโดะ จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นทั้ง 3 แห่งที่ว่านี้ ได้แก่ 1. อามาโนะ ฮาชิดาเตะ (Amanohashidate) จังหวัดเกียวโต 2. เกาะมิยาจิมะ (Miyajima) จังหวัดฮิโรชิมะ และ 3. อ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) จังหวัดมิยางิ
อ่านต่อ
อามาโนะฮาชิดาเตะ วิวแลนด์ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
อามาโนะฮาชิดาเตะ วิวแลนด์ (Amanohashidate View Land) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี โดยมีชื่อปรากฏอยู่ในบทกวีโบราณตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1020 ด้านบนของจุดชมวิวแห่งนี้ยังมีสวนสนุกเล็กๆ อยู่ด้วย
อ่านต่อ
หมู่บ้านโบราณมิยามะ คายาบุกิโนะซาโตะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
หมู่บ้านโบราณมิยามะ คายาบุกิโนะซาโตะ (Miyama Kayabuki no Sato) เป็นหมู่บ้านเกษตรกรรมท้องถิ่นเล็กๆ ในชนบทเมืองมิยามะ (Miyama) เกียวโต (Kyoto) บ้านเรือนมีลักษณะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยหลังคาทรงสูงและมุงหลังคาด้วยหญ้าคายะ (Kaya) และมีของขึ้นชื่อคือไข่ไก่และถั่วดำ นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปรอบๆ และเพลิดเพลินกับบรรยากาศอันน่าทึ่งของหมู่บ้านโบราณแห่งนี้ที่มีฉากหลังเป็นภูเขา และสัมผัสวิถีชีวิตของคนในหมู่บ้านได้อย่างแท้จริง
อ่านต่อ
วัดนาริอาอิจิ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดนาริอาอิจิ (Nariaiji Temple) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดหากมีโอกาสได้ไปเยือนแถบอามาโนะฮาชิดาเตะ จุดน่าสนใจที่เป็นไฮไลต์ของวัดแห่งนี้คือเจดีย์ห้าชั้น งามสง่า และโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
อ่านต่อ
วัดชิออนจิ จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดชิออนจิ (Chion-Ji Temple) วัดพุทธนิกายเซ็นที่มีประตูทางเข้าวัดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคแทงโก้ เป็นที่รู้จักกันในฐานะ 1 ใน 3 วัดพุทธพระโพธิสัตว์แห่งปัญญาในญี่ปุ่น นักเรียนนักศึกษานิยมมากราบขอพรเพื่อให้สอบได้
อ่านต่อ
วัดเบียวโดอิน เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple) สถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงโด่งดังของเมืองอุจิ จังหวัดเกียวโต ซึ่งมีวิหารปรากฏอยู่บนเหรียญ 10 เยนของญี่ปุ่น และยังได้รับคัดเลือกจากองค์การยูเนสโก (Unesco) ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกของญี่ปุ่นด้วย
อ่านต่อ
ซันโจ เมเทนไก ช้อปปิ้ง อาร์เคด จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
ซันโจ เมเทนไก ช้อปปิ้ง อาร์เคด (Sanjo Meitengai Shopping Arcades ) เป็นหนึ่งในแหล่งช้อปปิ้งที่เก่าแก่ที่สุดของเกียวโต เรียกว่าเป็นโซนช้อปปิ้งที่เพลิดเพลิน เต็มไปด้วยร้านค้าและโครงสร้างเก่าแก่ ควบคู่ไปกับโลกของอาคารและร้านบูติกสมัยใหม่
อ่านต่อ
หอคอยเกียวโต จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
เกียวโตทาวเวอร์ (Kyoto Tower) หอคอยความสูง 328 ฟุต โครงสร้างสีแดง – ขาว ที่เป็นเสมือนแลนด์มาร์กหนึ่งของเมืองเกียวโต ภายในมีจุดชมวิวเมืองที่สวยงามแบบ 360 องศา และยังสามารถมองเห็นได้ไกลถึงเมืองโอซาก้าในวันที่อากาศดี
อ่านต่อ
สะพานโทเง็ตสึเคียว จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
สะพานโทเง็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) เป็นสะพานไม้เก่าแกจากยุคเฮอันที่พาดข้ามแม่น้ำคัตสึระ โดยมีภูเขาอาราชิยาม่าเป็นฉากหลัง อีกหนึ่งจุดเช็กอินของคนที่มาเที่ยวเกียวโต
อ่านต่อ