แยกชิบูย่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (6,390)
  • By Webmaster
  • 03:51:43 | 2 ก.พ. 2566

แยกชิบูย่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

Shibuya Crossing, Tokyo, Japan


ผู้คนจำนวนมากเดินข้ามแยกชิบูย่าไปยังจุดหมายปลายทางที่แตกต่างกันไปตลอดทั้งวัน

               Shibuya Crossing หรือ แยกชิบูย่า คือ เส้นทางสัญจรใจกลางย่านธุรกิจสำคัญของกรุงโตเกียว ซึ่งเชื่อกันว่าเป็น สถานที่ที่มีความพลุกพล่านมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังหลายต่อหลายเรื่อง เช่น Fast and the Furious และ Resident Evil


กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

           ว่ากันว่าในบางช่วงเวลา บริเวณ 5 แยกชิบูย่านั้นมีผู้คนเดินข้ามถนนจากทิศทางต่างๆพร้อมกันสูงสุดกว่า 3,000 คน และไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใด พื้นที่แห่งนี้ก็เต็มไปด้วยผู้คนเสมอ ด้วยบรรยากาศของความวุ่นวาย บวกกับความหลากหลายของวิถีชิวิตผู้คน รวมไปถึงการเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้ามากมาย และร้านรวงแบรนด์ดังจากทั่วโลก ทั้งหมดนี้จึงกลายเป็นสน่ห์ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างต้องการมาเยือนสถานที่แห่งนี้


บรรยากาศของแยกชิบูย่าเมื่อมองจากฝั่งสถานีรถไฟ
 

ประวัติความเป็นมา


บรรดาผู้คนที่เดินผ่านแยกชิบูย่ามีทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น คนทำงาน ไปจนถึงคนชรา

           ย่านชิบูย่าในอดีตเป็นชุมชนธรรมดาที่ไม่มีอะไรโดดเด่นนัก แต่ในปีค.ศ. 1885 เมื่อมีการสร้างเส้นทางรถไฟสาย Yamanote ขึ้น ชิบูย่าก็กลายเป็นสถานีรถไฟสำคัญในฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงโตเกียว ตามมาด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจและความบันเทิงของชุมชนโดยรอบ จนได้ยกฐานะจากระดับหมู่บ้าน เป็นเขตเมืองในปีค.ศ. 1909 และเมื่อมีการสร้างเส้นทางรถไฟสาย Tokyu Toyoko ขึ้นในปีค.ศ. 1932 ยิ่งทำให้สถานีชิบูย่ากลายเป็นสถานีสำคัญซึ่งเชื่อมต่อเส้นทางสายหลักระหว่างโตเกียว และเมืองโยโกฮาม่า ตามมาด้วยเส้นทางรถไฟสายต่างๆอีกมากมาย เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ย่านชิบูย่าเป็นย่านที่ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศต่างใช้สัญจรผ่านไปมาตลอดเวลา


บรรยากาศภายในสถานีรถไฟชิบูย่า

           ผลพวงจากการเติบโตในฐานะย่านเศรษฐกิจมาโดยตลอด ทำให้ย่านชิบูย่ากลายเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับเหล่าวัยรุ่นในญี่ปุ่น พร้อมๆกับเริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะย่านแฟชั่นในช่วงปี ค.ศ. 1980 ซึ่งมีการเปิดศูนย์การค้าแฟชั่นจำนวนมากขึ้นในบริเวณนี้ ซึ่งรวมไปถึง 109 Shibuya ศูนย์รวมแฟชั่นชื่อดังและหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของย่านชิบูย่าในปัจจุบัน ตามมาด้วยศูนย์การค้าชื่อดังแทบทุกแห่งในญี่ปุ่นที่ทยอยมาเปิดสาขาหลักในบริเวณนี้ รวมไปถึงแบรนด์ดังระดับโลกมากมายที่ใช้ชิบูย่าเป็นที่ตั้งสาขาระดับ Flagship ของตนเอง
 

การเดินทางไปยังแยกชิบูย่า

               - รถไฟ  สถานีชิบูย่าถือเป็นศูนย์รวมของเส้นทางรถไฟมากถึง 9 สาย จนกลายเป็นสถานีรถไฟที่มีความพลุกพล่านมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก แต่ก็ถือว่าเป็นวิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวในการมาเยือน แยกชิบูย่า เนื่องจากเป็นสถานีของรถไฟสายหลักในโตเกียวทั้งสาย Yamanote สายรถไฟใต้ดินหลักอีก 3 สายคือ Ginza, Hanzomon และ Fukutoshin และยังมีรถไฟสาย Narita Express ที่วิ่งตรงทั้งไปและกลับจากสนามบินนาริตะอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลการเดินทางโดยรถไฟอย่างละเอียดได้ที่ http://www.hyperdia.com/en/

               - รถแท็กซี่ รถแท็กซี่ในกรุงโตเกียวนั้นมีค่ามิเตอร์เริ่มต้นที่ 550-800 เยน ต่อระยะทาง 2 กิโลเมตรแรก ค่าโดยสารทั้งหมดขึ้นอยู่กับระยะทางจากจุดขึ้นรถของนักท่องเที่ยว โดยสามารถคำนวณค่าโดยสารเบื้องต้นได้ที่ https://www.numbeo.com/taxi-fare/in/Tokyo
 

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ

           เปิดทำการทุกวัน ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
 

จุดท่องเที่ยวสำคัญบริเวณแยกชิบูย่า


รูปปั้น”ฮาจิโกะ” สัญลักษณ์แห่งความซื่อสัตย์ของชาวญี่ปุ่น

               รูปปั้นสุนัข “ฮาจิโกะ” : เป็นทั้งจุดนัดพบสำหรับคนญี่ปุ่น และสถานที่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังสำหรับนักท่องเที่ยว ย้อนไปในปี ค.ศ. 1924 ที่มาของรูปปั้นนี้มาจาก”ฮาจิโกะ” สุนัขสายพันธ์อากิตะของศาสตราจารย์อูเอโนะ ฮิเดะซาบุโร่ แห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว ที่มักจะไปรอรับเจ้านายของมันที่สถานีรถไฟชิบูย่าอยู่เสมอ จนกระทั่งวันหนึ่ง ศาสตราจารย์อูเอโนะเสียชีวิตอย่างกะทันหันด้วยภาวะเลือดออกในสมอง แต่ทว่าเจ้าฮาจิโกะยังคงไปรอนายของมันที่สถานีทุกวัน เป็นเวลานานกว่า 9 ปี จนเมื่อฮาจิโกะตายไป คนญี่ปุ่นจึงสร้างรูปปั้นของมันขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความจงรักภักดี


อาคาร 109 Shibuya สัญลักษณ์สำคัญของย่านแฟชั่นในชิบูย่า 

               109 Shibuya : ศูนย์รวมร้านค้าแฟชั่นจำนวนมากมาย ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของย่านแฟชั่นที่อยู่คู่กับชิบูย่ามาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1979 ห้าง 109 นี้บริหารงานโดยบริษัทโตคิว ที่มาของชื่อ 109 ก็มาจากการเล่นคำของชื่อบริษัท โดย “โต” มาจากตัวเลข 10 ที่เขียนคล้ายกับ to ในภาษาอังกฤษ และ”คิว” มาจากเสียงคำอ่านของเลข 9 ในภาษาญี่ปุ่น โดยในปัจจุบันยังมีห้าง 109 Men’s ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กัน โดยเน้นไปที่แฟชั่นสำหรับกลุ่มลูกค้าผู้ชายโดยเฉพาะ
 

ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้

ไม่ใช่แค่เฉพาะบริเวณ 5 แยก แต่บริเวณอื่นๆในย่านชิบูย่าก็เต็มไปด้วยผู้คนเช่นกัน

           นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลวันเวลาเปิดทำการของสถานที่ต่างๆในย่านชิบูย่าได้ที่ https://www.japan-guide.com/e/e3007.html

           บริเวณแยกชิบูย่ามีจุดให้บริการ Free Wifi จำนวนมาก ทั้งในบริเวณสถานีรถไฟ รวมถึงห้างสรรพสินค้า นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบจุดให้บริการและขั้นตอนการใช้งานได้ที่ http://www.wifi-tokyo.jp/index.html

           ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวอาจะต้องใช้ความระมัดระวัง หรือพยายามหลีกเลี่ยงการไปเยือนแยกชิบูย่าในช่วงเวลา 07.00 น. - 09.00 น. และ 17.00 น. - 19.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาเข้างานและเลิกงานของคนญี่ปุ่น เนื่องจากจะมีปริมาณผู้คนทั้งบนรถไฟ สถานีรถไฟ และตามท้องถนนหนาแน่นกว่าปกติหลายเท่าตัว

           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม แยกชิบูย่า สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         แยกชิบูย่า

                         (Shibuya Crossing)

                         อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม

                         เวลาเปิด-ปิด : เปิดทำการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

                         ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                         สถานที่ตั้ง : ย่านชิบูย่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

                         โทรศัพท์ : (+81)3-3463-1146

                         เว็บไซต์ : http://www.city.shibuya.tokyo.jp/eng/

                         ระดับความนิยม :

                         ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                      เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/

                                      เว็บไซต์การท่องเที่ยวโตเกียว https://www.gotokyo.org/en/

                                      เว็บไซต์ศูนย์รวมจุดบริการนักท่องเที่ยวในโตเกียว http://www.tourist-information-center.jp/tokyo/en/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000

อ่านต่อ

สวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997

อ่านต่อ

เนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย

อ่านต่อ

ทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

ถนนซานถัง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ถนนซานถัง (Shantang Street) ถนนโบราณที่มีความเก่าแก่เกือบ 1,200 ปี ครั้งหนึ่งถนนสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ปัจจุบันซานถังยังคงเป็นถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพย่อของซูโจวเก่า” และยังถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ

อ่านต่อ

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น (Grand Canal National Culture Park) เป็นส่วนหนึ่งของคลองต้ายุ่นซึ่งทอดตัวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมสำคัญในประเทศจีนมานานกว่า 2,500 ปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ

รูปปั้นโมอาย ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

รูปปั้นโมอาย (Moai) เป็นรูปปั้นหินซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เด่นชัด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ