วัดเซนโซจิ (ศาลเจ้าอาซากุสะ) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (10,255)
  • By Webmaster
  • 03:51:21 | 2 ก.พ. 2566

วัดเซนโซจิ (ศาลเจ้าอาซากุสะ) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

Sensoji (Asakusa Kannon Temple) Tokyo, Japan


นักท่องเที่ยวจำนวนมากหลั่งไหลมาเยี่ยมชมวัดอาซากุสะตลอดทั้งวัน

               วัดเซนโซจิ เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

           ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน และชื่อเสียงความศักดิ์สิทธิ์ที่สั่งสมมานับตั้งแต่อดีต ทำให้วัดเซนโซจิเป็นทั้งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวญี่ปุ่น และเป็นทั้งแลนด์มาร์คสำหรับนักท่องเที่ยวไปพร้อมกัน ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์คันนน หรือเจ้าแม่กวนอิม และเป็นที่ตั้งของเจ้าอาซากุสะอันขึ้นชื่อ รวมไปถึงศาลเจ้าชินโต และเจดีย์ห้าชั้นอีกด้วย

ร้านขายอาหาร งานฝีมือ และร้านของที่ระลึกมากมายเรียงรายอยู่บริเวณทางเข้าวัด

           แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นวัด แต่ภายในวัดเซนโซจิยังมีถนนที่เต็มไปด้วยร้านขายอาหาร งานฝีมือ และของที่ระลึกมากมาย นอกจากนี้ ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนของวัด นักท่องเที่ยวก็จะมองเห็นโตเกียว สกายทรี สิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดของญี่ปุ่นเป็นฉากหลังอยู่เสมอ ถือเป็นภาพอันน่าประทับใจของการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ เข้ากับสัญลักษณ์แห่งยุคสมัยใหม่ของญี่ปุ่นได้อย่างกลมกลืน
 

ประวัติของวัดเซนโซจิ

วัดเซนโซจิเป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์กวนอิม จึงมีรูปเคารพจำนวนมากทั้งภายในและรอบๆบวัด

           ตามตำนานเล่าว่า ในปีค.ศ. 628 พี่น้องสองคนชื่อว่า ฮิโนคุมะ ฮามานาริ และฮิโนคุมะ ทาเคนาริ มักจะออกหาปลาในแม่น้ำสุมิดะทุกวัน มีอยู่วันหนึ่งสองพี่น้องจับปลาในแม่น้ำไม่ได้เลยสักตัว ด้วยความหิวโหย ทั้งสองคนจึงอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้จับปลาได้สักตัวไปเป็นอาหารเย็น ภายหลังจากอธิษฐาน ทั้งสองคนได้เหวี่ยงแหออกไป แต่ปรากฏว่าสิ่งที่ติดมานั้นคือรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมทองคำ สูง 5 นิ้ว


ศาลเจ้าเก่าแก่ภายในบริเวณวัดเซนโซจิ

           หลังจากนั้น ทั้งสองพี่น้องได้เปลี่ยนบ้านของพวกตนซึ่งอยู่ในเขตอาซากุสะเป็นวัดขนาดเล็ก และนำพระพุธรูปเจ้าแม่กวนอิมทองคำที่พบมาประดิษฐานไว้เพื่อให้คนในหมู่บ้านมากราบไหว้บูชา ซึ่งบรรดาผู้ที่มาขอพรนั้นต่างก็สมปรารถนาเสมอ จนชื่อเสียงด้านความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุธรูปเจ้าแม่กวนอิมทองคำองค์นี้ค่อยๆแผ่ขยายไปทั่วประเทศญี่ปุ่น มีผู้คนหลั่งใหลมากราบไหว้บูชามากมาย และเมื่อโชกุนโทคุกาวะ อิเอมิทซึรู้เข้า จึงมีบัญชาให้ปรับปรุงตัวอาคารวัด รวมถึงพื้นที่รอบๆเรื่อยมาจนกลายเป็นวัดเซนโซจิอย่างที่เราเห็นทุกวันนี้
 

การเดินทางไปวัดเซนโซจิ

               - รถไฟ เป็นวิธีการเดินทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว โดยสามารถขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Ginza ( สีส้ม ) มาลงที่สถานี Asakusa ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 170 เยน ออกทางออกหมายเลข 6 หรือ 7 จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 450 เมตร ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ก็จะพบกับวัดเซนโซจิ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลการเดินทางโดยรถไฟอย่างละเอียดได้ที่ http://www.hyperdia.com/en/

               - รถแท็กซี่ รถแท็กซี่ในกรุงโตเกียวนั้นมีค่ามิเตอร์เริ่มต้นที่ 410-800 เยน ต่อระยะทาง 2 กิโลเมตรแรก ค่าโดยสารทั้งหมดขึ้นอยู่กับระยะทางจากจุดขึ้นรถของนักท่องเที่ยว โดยสามารถคำนวณค่าโดยสารเบื้องต้นได้ที่ https://www.numbeo.com/taxi-fare/in/Tokyo
 

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ


เจดีย์ 5 ชั้นสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากบริเวณประตูวัด

           บริเวณตัวอาคารหลักของวัด เปิดทำการทุกวันตั้งแต่ 06.00น. – 17.00น. ในช่วงเดือนเมษายน – กันยายน และเปิดทำการตั้งแต่ 06.30น. ในช่วงเดือนตุลาคม – มีนาคม

           ส่วนบริเวณพื้นที่โดยรอบ เปิดทำการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
 

อัตราค่าเข้าชม

           ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม


บริเวณอาคารหลักของวัดเซนโซจิเนืองแน่นไปด้วยผู้คนตั้งแต่ตอนเช้า
 

จุดที่มีชื่อเสียงในบริเวณวัดเซนโซจิ


ประตูคามินาริมง ซึ่งมีตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นเขียนว่า แปลว่า”สายฟ้า”

               ประตูคามินาริมง – เป็นประตูหลักของวัดเซนโซจิ และยังเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย บริเวณประตูจะมีโคมแดงขนาดมหึมาที่เขียนด้วยตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นว่า อ่านว่า “คามานาริ” ซึ่งแปลว่าสายฟ้า ประตูแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ประตูสายฟ้า”


ถนนนากามิเสะที่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อขนมและของฝากต่างๆได้อย่างเพลิดเพลิน

               ถนนนากามิเสะ เมื่อนักท่องเที่ยวเดินผ่านประตูคามินาริมงเข้าไป จะพบกับถนนที่ทอดยาวเข้าไปสู่ตัววัด โดย ตลอดสองข้างทางของถนนเส้นนี้จะเต็มไปด้วยร้านรวงต่างๆทั้งร้านขนม ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก ไปจนถึงร้านเช่าและขายชุดกิโมโน ถือเป็นย่านช้อปปิ้งสำคัญที่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อสินค้าต่างๆเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นได้อย่างหลากหลาย


ประตูโฮโซมง ประตูชั้นสุดท้ายก่อนที่นักท่องเที่ยวจะพบกับอาคารหลักของวัดเซนโซจิ

               ประตูโฮโซมง – เมื่อเดินมาจนสุดถนนนากามิเสะ นักท่องเที่ยวจะพบกับประตูขนาดใหญ่อีกแห่งก่อนเข้าไปสู่บริเวณวัด ประตูโฮโซมงนั้นมีขนาดใหญ่กว่าประตูคามินาริมงเกือบเท่าตัว โดยมีความสูงถึง 22.7 เมตร ชื่อประตูมีความหมายว่า “ประตูคลังสมบัติ” ด้านในของประตูยังมี Nio หรือรูปปั้นเทพเจ้า 2 องค์ที่ทำหน้าที่ปกปักรักษาองค์พระพุทธเจ้า

           เมื่อเข้าสู่บริเวณตัววัด นักท่องเที่ยวจะได้พบกับตัวอาคารหลักที่เป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์ เจดีย์ 5 ชั้น รวมไปถึงศาลาสำหรับเสี่ยงเซียมซี และศาลาสำหรับจำหน่ายเครื่องราง
 

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว


ต้นซากุระโบราณภายในวัดเซนโซจิผลิบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

           เนื่องจากวัดเซนโซจิตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตเกียว นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินทางมายังวัดได้อย่างสะดวกสบายตลอดทั้งปี

           แต่หากนักท่องเที่ยวต้องการบรรยากาศที่พิเศษออกไป วัดเซนโซจินั้นมีการจัดงานเทศกาลต่างๆตลอดทั้งปี โดยงานเทศกาลที่ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดของวัดคือเทศกาล Sanja Matsuri และยังถือเป็น 1 ใน 3 งานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดในศาสนาชินโตอีกด้วย โดยเทศกาลนี้จะจัดขึ้นระหว่างสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคมในทุกปี


โคมไฟแบบญี่ปุ่นที่ถูกนำมาใช้ประดับประดา

           จุดประสงค์ของเทศกาล Sanja Matsuri คือการจัดงานเฉลิมฉลองให้แก่ผู้ก่อตั้งวัด เชื่อกันว่าเทศกาลนี้จัดขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 7 โดยพิธีในวันแรกจะเริ่มจากการอัญเชิญเทพเจ้าขึ้นสู่เกี้ยวหรือศาลเจ้าจำลองที่เรียกว่า “mikoshi” ทั้งสามหลังของศาลเจ้าอาซากุสะ โดยเกี้ยวแต่ละด้านต้องใช้คนหามถึง 40 คน วันที่สองจะเป็นวันที่ผู้คนต่างมาร่วมสนุกสนานไปกับดนตรี ขบวนแห่ ขับร้องเพลงและร่ายรำกันอย่างสนุกสนานที่บริเวณถนนสายหลักหน้าวัด และในวันสุดท้ายถือเป็นไฮไลท์ของเทศกาล ซึ่งจะมีการแห่เกี้ยวทั้งสามไปทั้ง 44 เขตของย่านอาซากาสะ ก่อนจะแห่กลับมาทำพิธีใหญ่เพื่อปิดเทศกาลในคืนนั้น
 

ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้


นักท่องเที่ยวปัดควันธูปเข้าตัวด้วยความเชื่อว่าจะนำพาความโชคดีมาให้

           วัดเซนโซจิมีธรรมเนียมเช่นเดียวกับวัดแห่งอื่นๆในประเทศญี่ปุ่น นั่นคือต้องล้างหน้า ล้างมือ และล้างปากก่อนเข้าวัด ซึ่งนอกจากจะเป็นการชำระร่างกาย ยังสื่อถึงการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ โดยภายในวัดจะมีบ่อน้ำและกระบวยตักน้ำอยู่ใกล้กับประตูโฮโซมง และนอกจากนี้ยังมีธรรมเนียมการปัดควันธูปเข้าหาตัว ซึ่งเชื่อกันว่าจะนำพาสิ่งดีๆมาให้อีกด้วย
 

           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดเซนโซจิ (ศาลเจ้าอาซากุสะ) สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

วัดเซนโซจิ ( ศาลเจ้าอาซากุสะ )

Sensoji (浅草寺, Asakusa Kannon Temple)

อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าบริการเข้าชม

เวลาเปิด-ปิด : อาคารหลักของวัดเปิดให้บริการระหว่าง 06.00น. – 17.00น. ในช่วงเดือนเมษายน – กันยายน

               และเปิดทำการตั้งแต่ 06.30น. ในช่วงเดือนตุลาคม – มีนาคม

           พื้นที่อื่นรอบบริเวณวัด เปิดทำการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

สถานที่ตั้ง : ย่านอาซากุสะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

โทรศัพท์ : (+81) 3-3842-0181

เว็บไซต์ : http://www.senso-ji.jp/

ระดับความนิยม : 

ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                    เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/

                                    เว็บไซต์การท่องเที่ยวโตเกียว https://www.gotokyo.org/en/

                                    เว็บไซต์ศูนย์รวมจุดบริการนักท่องเที่ยวในโตเกียว http://www.tourist-information-center.jp/tokyo/en/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น

จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) เป็นเขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ใน ภูมิภาคคันโต ของประเทศญี่ปุ่น จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายเมืองด้วยกัน อาทิ คามาคุระ (Kamakura) โยโกฮาม่า (Yokohama) และฮาโกเน่ (Hakone)…Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ตั้งแต่ชายหาด พระใหญ่ วัดเก่าแก่ ศาลเจ้า ไชน่าทาวน์ สวนสนุก อควาเรียม ทะเลสาบ ไปจนถึงกระเช้าลอยฟ้าและจุดชมภูเขาไฟฟูจิ มาไว้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000

อ่านต่อ

สวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997

อ่านต่อ

เนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย

อ่านต่อ

ทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

ถนนซานถัง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ถนนซานถัง (Shantang Street) ถนนโบราณที่มีความเก่าแก่เกือบ 1,200 ปี ครั้งหนึ่งถนนสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ปัจจุบันซานถังยังคงเป็นถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพย่อของซูโจวเก่า” และยังถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ

อ่านต่อ

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น (Grand Canal National Culture Park) เป็นส่วนหนึ่งของคลองต้ายุ่นซึ่งทอดตัวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมสำคัญในประเทศจีนมานานกว่า 2,500 ปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ