- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น

- อ่าน (2,745)
- By Webmaster
- 17:39:36 | 13 มี.ค. 2564
สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
Jigokudani Snow Monkey Park, Nagano, Japan
ลิงหิมะนั่งอยู่บนโขดหินท่ามกลางไอน้ำริมบ่อน้ำพุร้อนของสวนลิง
สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ (Jigokudani Snow Monkey Park) เป็นเหมือนแดนสวรรค์ของฝูงลิงป่าที่อาศัยอยู่ในหุบเขาจิโกคุดานิ และยังเป็นที่เดียวในโลกที่มีลิงแช่ออนเซ็นซึ่งเป็นภาพที่สร้างชื่อเสียงให้ที่นี่กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกโดยฝูงลิงมักจะมาแช่ออนเซ็นที่จัดไว้ให้กลางแจ้งเพื่อคลายความหนาว ก่อให้เกิดภาพที่น่ารักน่าเอ็นดู และหาชมได้ยาก โดยสวนลิงแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ของหุบเขาจิโกคุดานิ ยาเอ็นโคเอ็น (Jigokudani Yaen-koen) ซึ่งแปลว่า หุบเขานรก เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้จะมีหิมะปกคลุมยาวนานถึงหนึ่งในสามของปี และมีสภาพอากาศหนาวอย่างรุนแรง รวมถึงสภาพพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นหุบเขาที่มีหน้าผาสูงชัน และมีไอน้ำพวยพุ่งจากธารน้ำพุร้อนที่ไหลรินอยู่เกือบตลอดเวลา คนญี่ปุ่นโบราณจึงเปรียบเปรยว่ามีสภาพเหมือนหุบเขานรกนั่นเอง แต่ปัจจุบันนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
แผนที่ตั้ง สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ (Jigokudani Snow Monkey Park) จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
ประวัติ
สวนลิงหิมะจิโกคุดานิก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1964 ในพื้นที่ของหุบเขาจิโกคุดานิ ยาเอ็นโคเอ็น มีความสูง 850 เมตรจากระดับน้ำทะเล ใกล้กับอุทยานแห่งชาติโจชิเนสึ โคเก็น (Joshinetsu Kogen) สวนแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออนุรักษ์พันธุ์ลิงป่าหรือที่นิยมเรียกกันว่าลิงหิมะหลากหลายช่วงอายุที่อาศัยอยู่ในบริเวณภูเขาแถบนี้ตามธรรมชาติ และด้วยความที่ลิงเป็นสัตว์ที่ฉลาดและเรียนรู้ได้เร็ว พวกมันจึงรู้ว่าอาหารที่เจ้าหน้าที่จัดหาให้ที่สวนแห่งนี้ค่อนข้างดีกว่าอาหารที่พวกมันจะหาได้เองจากภูเขา และรู้ว่ามนุษย์ในสวนไม่ทำอันตรายพวกมัน พวกมันจึงพากันเข้ามาอาศัยอยู่ในสวนนี้ นักท่องเที่ยวจึงสามารถเห็นฝูงลิงในสวนจิโกคุดานิอยู่กันอย่างเป็นธรรมชาติและมีชีวิตชีวา ซึ่งแตกต่างจากชีวิตในสวนสัตว์อย่างสิ้นเชิง
โดยฝูงลิงจะประกอบด้วยลิงตัวผู้ที่โตเต็มวัย กับลิงตัวเมียที่โตเต็มวัยเป็นจำนวนสองหรือสามเท่าของจำนวนตัวผู้ รวมถึงบรรดาลูกลิงน้อย และจะมีลิงจ่าฝูงเป็นหัวหน้าคอยดูแลฝูง สาเหตุที่ลิงมาแช่ออนเซ็นนั้นเป็นเพราะบ่อน้ำร้อนช่วยคลายความหนาวเย็นได้ ซึ่งลิงส่วนใหญ่มักจะแช่บ่อน้ำร้อนกันในช่วงที่มีสภาพอากาศหนาวจัดราวเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ โดยแต่เดิมนั้นช่วงที่ก่อตั้งสวนลิงแห่งนี้ขึ้นใหม่ๆ จะมีลิงบางตัวลงไปแช่ออนเซ็นของคนระหว่างที่มารออาหารจากเจ้าหน้าที่ และพวกมันก็ลงไปแช่กันเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่จึงสร้างออนเซ็นส่วนตัวให้ลิงใช้โดยเฉพาะซึ่งเป็นบ่อที่เห็นกันในปัจจุบัน เพื่อให้ลิงใช้บ่อน้ำร้อนแยกกับมนุษย์จะได้ถูกสุขอนามัย ตั้งแต่นั้นมาลิงก็จะมาแช่ออนเซ็นบริเวณนี้กันจากรุ่นสู่รุ่น
ในส่วนของสภาพทางธรรมชาติของหุบเขานั้นมีทิวทัศน์ที่สวยงามสะดุดตาจากหน้าผาสูงชันและก้อนหินมากมาย มีธารน้ำโยโคยุ (Yokoyu) ที่มาจากน้ำพุเกลือร้อนที่มีความใสสะอาดซึ่งผุดออกมาจากรอยแตกของชั้นหินควอตซ์ไดโอไรต์ (Quarts diorite) ซึ่งเป็นชั้นหินหนืดใต้ดินที่แข็งตัวหลังจากการประทุของภูเขาไฟ โดยน้ำร้อนจากแหล่งธรรมชาติแห่งนี้ยังได้ถูกผันไปยังชิบุออนเซ็นและคันบายาชิออนเซ็นในบริเวณใกล้เคียงเพื่อให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจสามารถไปใช้บริการได้
ข้อมูลที่จำเป็นต้องรู้
1. สวนลิงหิมะจิโกคุดานินั้นตั้งอยู่ด้านบนของหุบเขา จึงต้องเดินเท้าจากบริเวณเชิงเขาด้านล่างลัดเลาะไปตามทางเดินประมาณ 1.6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมงในแบบที่ค่อยๆ เดินชมวิวไปเรื่อยๆ เพื่อขึ้นไปยังด้านบน ซึ่งอาจจะมีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่รู้สึกท้อใจและตัดสินใจไม่เดินขึ้นไป แต่อันที่จริงแล้วการเดินขึ้นไปนั้นไม่ได้ลำบากอย่างที่คิด เนื่องจากทัศนียภาพสองข้างทางระหว่างที่เดินขึ้นไปนั้นมีความสวยงาม และสร้างความเพลิดเพลินให้จนสามารถลืมเรื่องระยะทางไปได้ เช่น บรรยากาศของต้นสนที่ปกคลุมด้วยหิมะ ลำธารข้างทาง และบ่อออนเซ็น อีกทั้งด้วยสภาพเส้นทางที่ไม่ได้ลาดชันมากนัก และสภาพอากาศที่ไม่มีแดดจัดจึงสามารถเดินได้อย่างสบายๆ ถ้าเตรียมตัวมาพร้อม
ทางเดินปกคลุมด้วยหิมะ
บริเวณทางขึ้นมีป้ายบอกระยะทางและแผนที่เส้นทาง
2. การเตรียมตัวให้พร้อมท่องเที่ยวท่ามกลางหิมะ และสภาพอากาศที่หนาวเย็นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะทำให้เที่ยวได้อย่างสนุกและปลอดภัย ดังนั้น นักท่องเที่ยวจึงควรเตรียมเสื้อผ้า ถุงมือ ที่ปิดหู หมวก และเครื่องกันหนาวต่างๆ ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและสภาพร่างกายของตนเอง และที่ขาดไม่ได้คือ “รองเท้าสำหรับเดินบนหิมะ” ซึ่งมีความแตกต่างจากรองเท้าธรรมดาตรงที่พื้นรองเท้าสำหรับเดินบนหิมะจะมีแผงหมุดช่วยยึดเกาะพื้นและกันลื่นได้ดีกว่า เนื่องจากหิมะที่ตกสะสมในบางพื้นที่นั้นมีความลื่น โดยเฉพาะในช่วงที่หิมะกำลังละลาย หากใส่รองเท้าสำหรับเดินบนหิมะโดยเฉพาะ ก็จะช่วยให้เดินได้อย่างสบายขึ้น ไม่ต้องกลัวหรือกังวลเรื่องลื่นล้ม ทำให้เที่ยวชมบรรยากาศสองข้างทางได้อย่างมีความสุข
3. มีจุดเช่ารองเท้าสำหรับเดินบนหิมะไว้บริการนักท่องเที่ยว หากนักท่องเที่ยวต้องการเดินขึ้นไปยังสวนลิงหิมะด้านบนหุบเขาแต่ไม่ได้เตรียมรองเท้าสำหรับเดินบนหิมะมาด้วย ก็สามารถทำการเช่ารองเท้าสำหรับเดินบนหิมะได้ที่บริเวณใกล้กับเชิงเขาทางขึ้น
รองเท้าสำหรับเดินบนหิมะวัสดุที่ใช้จะมีความทนทานต่อสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิติดลบ
พื้นรองเท้าด้านล่างจะมีลักษณะเป็นแผงหมุดไว้ยึดเกาะพื้นหิมะหรือพื้นที่ที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็งเพื่อช่วยกันลื่นและเพิ่มแรงเสียดทานในการก้าวเดินให้ทรงตัวได้ดี
รองเท้าผ้าใบทั่วไป
พื้นรองเท้าผ้าใบทั่วไปจะไม่มีแผงหมุดไว้ยึดเกาะหิมะและพื้นน้ำแข็ง
บริเวณทางเดินไปยังสวนลิงหิมะ พื้นอาจมีความลื่นจากหิมะที่ละลายไปบ้างแล้วบางส่วน
เส้นทางท่ามกลางธรรมชาติที่ปกคลุมด้วยหิมะ
หากเตรียมตัวมาพร้อมก็สามารถเดินชมทัศนียภาพได้อย่างสบายๆ
ทิวทัศน์อันสวยของงามของหุบเขาที่มีหิมะปกคลุม
มีลำธารสายเล็กๆ ภายในหุบเขา
กองหิมะใกล้กับลำธารกำลังละลาย
บรรยากาศเมืองเล็กๆ ภายในหุบเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ
ระหว่างทางจะพบบ่อน้ำพุร้อนอยู่เป็นระยะ
บันไดทางขึ้นเขาสู่สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ
บริเวณทางเข้าไปยังที่ทำการด้านในอาคาร
ภายในอาคารยังมีการจัดแสดงป้ายข้อมูลของลิง และมีห้องน้ำไว้บริการนักท่องเที่ยวที่มาเยือน
สะพานทางเดินทอดยาวไปยังสวนลิงหิมะ
ธารน้ำจากบ่อน้ำร้อนที่ไหลอยู่ในบริเวณนี้ และทางด้านซ้ายคือออนเซ็นของลิง
เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเป็นอย่างมาก
ลิงตัวเล็กและลิงตัวใหญ่นั่งเล่นคลายหนาวอยู่ริมบ่อออนเซ็น
ไอน้ำร้อนช่วยคลายหนาวให้ลิงรู้สึกสบายตัว
บางตัวก็ชอบปลีกวิเวกไปนั่งอยู่ตัวเดียว
ลิงวัยรุ่นกำลังเล่นกัน
ลูกลิงจะอยู่ไม่ห่างแม่ลิง
ลิงแม่ลูกนั่งกอดกันอย่างน่าเอ็นดู และธรรมชาติของแม่ลิงจะค่อนข้างหวงลูก
การเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ (Narita International Airport) ไปยังสถานีรถไฟนากาโนะ (Nogano Station)
- รถยนต์ (Car) จาก Narita International Airport ไปยัง Nagano Station โดยขึ้นทางด่วน มีระยะทางประมาณ 314 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง 10 นาที
- รถไฟ (Train) จาก Narita International Airport ไปยัง Nagano Station โดยรถไฟนั้น จะต้องไปเปลี่ยนขบวนรถไฟที่ Tokyo Station โดยมีวิธีการเดินทางตามความสะดวกอยู่ 2 วิธี ดังนี้
วิธีแรก เริ่มจาก Narita International Airport ให้เดินมายัง Narita Airport Terminal 2-3 Station เพื่อขึ้นรถไฟด่วนไปลงยัง Tokyo Station จากนั้นต่อรถไฟด่วนสายที่ไปเมืองนากาโนะไปลงยัง Nagano Station ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 2 ชั่วโมง 55 นาที
วิธีที่สอง เริ่มจาก Narita International Airport ให้เดินมายัง Narita Airport Terminal 1 เพื่อขึ้นรถบัส Airport Limousine Bus ไปลงยัง Tokyo Station จากนั้นต่อรถไฟด่วนสายที่ไปเมืองนากาโนะไปลงยัง Nagano Station ใช้เวลาเดินทางมากกว่าวิธีแรกประมาณสิบห้านาที
หมายเหตุ 1. สามารถตรวจสอบข้อมูลสายรถไฟ ตารางเวลา และราคาค่าโดยสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Japan Transit Planner https://world.jorudan.co.jp/mln/en/?sub_lang=nosub
2. สามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถและค่าโดยสารของ Airport Limousine Bus เพิ่มเติมได้ที่ https://webservice.limousinebus.co.jp/web/en/
การเดินทางจากสถานีรถไฟนากาโนะ (Nogano Station) ไปยังสวนลิงหิมะจิโกคุดานิ (Jigokudani Snow Monkey Park)
- รถยนต์ (Car) จาก Nagano Station ไปยังบริเวณที่จอดรถของสวนลิงหิมะจิโกคุดานิ ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้น ต้องเดินเท้าต่อไปตามทางเดินขึ้นหุบเขาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะถึงยัง Jigokudani Snow Monkey Park ใช้เวลาโดยรวมทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง และมีระยะทางโดยรวมประมาณ 35 กิโลเมตร
- รถประจำทาง (Bus) จาก Nagano Station ให้เดินไปขึ้นรถบัสบริเวณประตูทางออกสถานี Nagano Station East Exit และลงป้าย Snow Monkey Park ใช้เวลาเดินทางโดยรถบัสประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นต้องเดินเท้าต่อไปตามทางเดินขึ้นหุบเขาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะถึงยัง Jigokudani Snow Monkey Park ใช้เวลาโดยรวมทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง และมีระยะทางโดยรวมประมาณ 35 กิโลเมตร
เวลาทำการเปิด-ปิด
เดือนพฤศจิกายน – เดือนมีนาคม เปิดทำการ เวลา 9.00 น. – 16.00 น.
เดือนเมษายน – เดือนตุลาคม เปิดทำการ เวลา 8.30 น. – 17.00 น.
ลูกลิงกำลังเล่นหิมะ
อัตราค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ ราคา 800 เยน
เด็กอายุ 6-17 ปี ราคา 400 เยน
เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าชมฟรี
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
บรรยากาศของหุบเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ
กฎระเบียบที่ควรรู้
ที่สวนนี้มีกฎระเบียบข้อบังคับเพื่อความปลอดภัยของทั้งลิงและตัวนักท่องเที่ยวเอง ดังนี้
1. ห้ามให้อาหารลิง หรือเอาอาหารมาล่อให้ลิงเข้ามาใกล้
2. ห้ามสัมผัส อย่าจับลิงหรือตะโกนใส่ลิง อย่ารบกวนให้ลิงหงุดหงิด เพราะคุณอาจถูกกัด โดยเฉพาะลูกลิงเพราะพวกมันอาจจะขอความช่วยเหลือจากลิงตัวโตเมื่อรู้สึกไม่ปลอดภัย ดังนั้น อย่าแตะต้องลิงแม้ว่าพวกมันจะอยู่ใกล้ชิดกับคุณก็ตาม
3. ห้ามจ้องตาลิง การจ้องตาลิงอย่างใกล้ชิดพร้อมพูดด้วย สำหรับลิงแล้วจะมองอากัปกิริยาเช่นนี้เป็นศัตรูทันที ดังนั้นอย่าเข้าใกล้พวกมันมากเกินไปนัก และจงรักษาระยะห่างอยู่เสมอ
4. ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในบริเวณนี้
5. การถ่ายภาพและวีดีโอควรเป็นไปด้วยความระมัดระวัง
6. ห้ามใช้ไม้เซลฟี่ และห้ามรบกวนลิงกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ
ภาพลิงริมออนเซ็นที่หาชมได้แค่เพียงที่สวนลิงหิมะจิโกคุดะนิเท่านั้น
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว Jigokudani Snow Monkey Park สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
(Jigokudani Snow Monkey Park, Nagano, Japan)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ ราคา 800 เยน / เด็กอายุ 6-17 ปี ราคา 400 เยน / เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เดือนพฤศจิกายน – เดือนมีนาคม เปิดทำการ เวลา 9.00 น. – 16.00 น.
เดือนเมษายน – เดือนตุลาคม เปิดทำการ เวลา 8.30 น. – 17.00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
โทรศัพท์ : (+81) 269-33-4379
เว็บไซต์ : https://jigokudani-yaenkoen.co.jp/
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/en/jp/nagano-shi/224701/weather-forecast/224701
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งเมืองนากาโนะ http://en.nagano-cvb.or.jp/
เว็บไซต์องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

“Changi Airport” สุดยอดสนามบินที่ดีที่สุดในโลกปี 2023
การประกาศรางวัล World Airport Awards ซึ่งจัดขึ้นที่ Passenger Terminal EXPO ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2023 “ท่าอากาศยานนานาชาติชางงี” ประเทศสิงคโปร์ คว้าตำแหน่งสนามบินที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งในอดีตนั้นสนามบินแห่งนี้เคยเป็นแชมป์ติดต่อกันถึง 8 ปีซ้อน ก่อนที่ในปี 2021- 2022 รางวัลชิ้นนี้จะตกเป็นของท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ และในปี 2023 นี้ ท่าอากาศยานนานาชาติชางงีก็ได้กลับมาทวงบัลลังก์อีกครั้ง
อ่านต่อ
3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
ญี่ปุ่น ประเทศที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและมีการจัดอันดับให้กับที่ต่างๆ อยู่มากมาย และแน่นอนว่าการจัดอันดับให้กับจุดชมวิวระดับท็อปของประเทศก็เป็นสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นไม่อาจพลาดไปได้เช่นกัน วันนี้ Palanla จะพาไปชม 3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น หรือที่ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ”Nihon Sankei” ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 โดย Hayashi Razan นักปรัชญาในสมัยรัฐบาลเอโดะ จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นทั้ง 3 แห่งที่ว่านี้ ได้แก่ 1. อามาโนะ ฮาชิดาเตะ (Amanohashidate) จังหวัดเกียวโต 2. เกาะมิยาจิมะ (Miyajima) จังหวัดฮิโรชิมะ และ 3. อ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) จังหวัดมิยางิ
อ่านต่อ
อามาโนะฮาชิดาเตะ วิวแลนด์ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
อามาโนะฮาชิดาเตะ วิวแลนด์ (Amanohashidate View Land) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี โดยมีชื่อปรากฏอยู่ในบทกวีโบราณตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1020 ด้านบนของจุดชมวิวแห่งนี้ยังมีสวนสนุกเล็กๆ อยู่ด้วย
อ่านต่อ
หมู่บ้านโบราณมิยามะ คายาบุกิโนะซาโตะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
หมู่บ้านโบราณมิยามะ คายาบุกิโนะซาโตะ (Miyama Kayabuki no Sato) เป็นหมู่บ้านเกษตรกรรมท้องถิ่นเล็กๆ ในชนบทเมืองมิยามะ (Miyama) เกียวโต (Kyoto) บ้านเรือนมีลักษณะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยหลังคาทรงสูงและมุงหลังคาด้วยหญ้าคายะ (Kaya) และมีของขึ้นชื่อคือไข่ไก่และถั่วดำ นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปรอบๆ และเพลิดเพลินกับบรรยากาศอันน่าทึ่งของหมู่บ้านโบราณแห่งนี้ที่มีฉากหลังเป็นภูเขา และสัมผัสวิถีชีวิตของคนในหมู่บ้านได้อย่างแท้จริง
อ่านต่อ
วัดนาริอาอิจิ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดนาริอาอิจิ (Nariaiji Temple) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดหากมีโอกาสได้ไปเยือนแถบอามาโนะฮาชิดาเตะ จุดน่าสนใจที่เป็นไฮไลต์ของวัดแห่งนี้คือเจดีย์ห้าชั้น งามสง่า และโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
อ่านต่อ
วัดชิออนจิ จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดชิออนจิ (Chion-Ji Temple) วัดพุทธนิกายเซ็นที่มีประตูทางเข้าวัดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคแทงโก้ เป็นที่รู้จักกันในฐานะ 1 ใน 3 วัดพุทธพระโพธิสัตว์แห่งปัญญาในญี่ปุ่น นักเรียนนักศึกษานิยมมากราบขอพรเพื่อให้สอบได้
อ่านต่อ
วัดเบียวโดอิน เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple) สถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงโด่งดังของเมืองอุจิ จังหวัดเกียวโต ซึ่งมีวิหารปรากฏอยู่บนเหรียญ 10 เยนของญี่ปุ่น และยังได้รับคัดเลือกจากองค์การยูเนสโก (Unesco) ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกของญี่ปุ่นด้วย
อ่านต่อ
ซันโจ เมเทนไก ช้อปปิ้ง อาร์เคด จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
ซันโจ เมเทนไก ช้อปปิ้ง อาร์เคด (Sanjo Meitengai Shopping Arcades ) เป็นหนึ่งในแหล่งช้อปปิ้งที่เก่าแก่ที่สุดของเกียวโต เรียกว่าเป็นโซนช้อปปิ้งที่เพลิดเพลิน เต็มไปด้วยร้านค้าและโครงสร้างเก่าแก่ ควบคู่ไปกับโลกของอาคารและร้านบูติกสมัยใหม่
อ่านต่อ
หอคอยเกียวโต จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
เกียวโตทาวเวอร์ (Kyoto Tower) หอคอยความสูง 328 ฟุต โครงสร้างสีแดง – ขาว ที่เป็นเสมือนแลนด์มาร์กหนึ่งของเมืองเกียวโต ภายในมีจุดชมวิวเมืองที่สวยงามแบบ 360 องศา และยังสามารถมองเห็นได้ไกลถึงเมืองโอซาก้าในวันที่อากาศดี
อ่านต่อ
สะพานโทเง็ตสึเคียว จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
สะพานโทเง็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) เป็นสะพานไม้เก่าแกจากยุคเฮอันที่พาดข้ามแม่น้ำคัตสึระ โดยมีภูเขาอาราชิยาม่าเป็นฉากหลัง อีกหนึ่งจุดเช็กอินของคนที่มาเที่ยวเกียวโต
อ่านต่อ