- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ปราสาทหิมะเมืองเคมิ ประเทศฟินแลนด์
ปราสาทหิมะเมืองเคมิ ประเทศฟินแลนด์

- อ่าน (3,286)
- By Webmaster
- 10:53:16 | 13 ส.ค. 2563
ปราสาทหิมะเมืองเคมิ ประเทศฟินแลนด์
Kemi Snow Castle, Kemi, Finland
ปราสาทหิมะเมืองเคมิ (Kemi Snow Castle) ได้ชื่อว่าเป็นปราสาทหิมะที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองเคมิที่จะสร้างขึ้นมาเฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้น โดยแต่ละปีนั้นจะใช้เวลาในการสร้างมากกว่า 5 สัปดาห์ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวแลปแลนด์จึงไม่อาจพลาดไปได้ด้วยประการทั้งปวง
ประวัติ
ทุกๆ ฤดูหนาวปราสาทหิมะที่เมืองเคมิจะถูกสร้างขึ้นใหม่ด้วยรูปแบบที่แตกต่างกัน โดยการสร้างปราสาทหิมะแต่ละครั้งนั้นจะใช้เวลาในการสร้างมากกว่า 5 สัปดาห์ ขั้นตอนในการสร้างคือใช้ Snow Machine แปลงน้ำจากทะเลให้กลายเป็นหิมะเพื่อนำมาทำเป็นโครงสร้างของปราสาท และเมื่อหมดฤดูกาลท่องเที่ยวปราสาทน้ำแข็งที่สวยงามของเคมิ ปราสาทน้ำแข็งที่สร้างด้วยความงดงามอลังการเหล่านี้ก็จะถูกปล่อยให้ค่อยๆ ละลายไปเองเมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาถึง
ปราสาทหิมะเมืองเคมิสร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.1996 การปรากฏตัวของปราสาทหิมะนี้ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เดินทางมาเที่ยวชมมากกว่า 300,000 คน โดยก่อนนี้เป็นเวลาหลายปีปราสาทหิมะจะถูกสร้างขึ้นที่บริเวณท่าเรือของเมืองเคมิ (Kemi City Harbour) และภายหลังจึงได้ย้ายมายังสถานที่ปัจจุบันคือบริเวณ Mansikkanokankatu 15 มานับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017 เป็นต้นมา
พื้นที่ที่ใช้สำหรับสร้างปราสาทหิมะเหล่านี้กว้างขนาด 1,300 – 20,000 ตารางเมตร โดยปราสาทที่สูงที่สุด มีความสูงถึง 20 เมตร ผนังที่ยาวที่สูดมีความยาวกว่า 1,000 เมตร และปราสาทก็มีความสูงถึง 3 ชั้น โดยปราสาทหิมะนี้จะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ ด้วยกัน ได้แก่ โบสถ์ ภัตตาคาร และโรงแรม
หลังจากซื้อตั๋วเสร็จแล้วนักท่องเที่ยวจะได้รับสติ๊กเกอร์สำหรับติดที่เสื้อ โดยระหว่างการเที่ยวชมภายในปราสาทหิมะนี้ก็จะมีไกด์ที่คอยแนะนำที่มาและเรื่องราวของการก่อสร้างปราสาทหิมะแห่งนี้ รวมถึงมีบริการเครื่องดื่มที่รวมอยู่ในค่าตั๋วเข้าชมให้บริการ เมื่อเข้ามาส่ภายในก็จะพบกับภัตตาคารน้ำแข็งเป็นอันดับแรกซึ่งสามารถเดินทะลุไปมากับห้องอื่นๆ ให้ถ่ายรูปได้อย่างเพลิดเพลิน
ภัตตาคาร (Snow Restaurant) ทุกอย่างทำขึ้นจากการแกะสลักน้ำแข็ง ทั้งโต๊ะและเก้าอี้ โดยเก้าอี้นั้นจะปูด้วยขนกวางเรนเดียร์อีกครั้ง เพื่อป้องกันความเย็นยะเยือกจากน้ำแข็ง ภายในภัตตาคารมีบริการอาหารสแกนดิเนเวียทั้งร้อนและเย็นด้วย ราคาขึ้นอยู่กับเมนูที่เลือก มื้อเที่ยง 26 ยูโร/ คน, มื้อค่ำ 51- 58 ยูโร / คน โดยค่าอาหารนี้ไม่ได้รวมอยู่ในค่าผ่านประตูเข้ามา
โบสถ์ (Snow Chapel) ซึ่งมีที่นั่งประมาณ 50 -100 ที่นั่ง เป็นสถานที่ที่นิยมใช้จัดงานแต่งของนักท่องเที่ยว อาทิ นักท่องเที่ยวที่มาจากญี่ปุ่น และฮ่องกง
โรงแรม (Snow Hotel) มีห้องพักให้บริการ 2 แบบ ได้แก่ ห้องพักแบบเตียงคู่ (Double Rooms) และห้องพักแบบเตียงฮันนีมูน สวีท (Honeymoon Suit) ซึ่งตกแต่งโดยศิลปินท้องถิ่น ตัวโรงแรมน้ำแข็ง ตั้งแต่ล้อบบี้ แก้วน้ำ เคาน์เตอร์ต้อนรับ โต๊ะ เตียง เก้าอี้ แชนเดอร์เลีย โคมไฟ ทุกอย่างล้วนทำด้วยน้ำแข็ง ห้องมีการออกแบบการโดยแกะสลักหิมะเป็นลวดลายที่แตกต่างกันไป โดยเตียงนอนที่แกะสลักจากน้ำแข็งนั้นจะปูด้วยขนกวางเรนเดียร์ และมีถุงนอน (Sleeping Bag) ให้อีกชั้นหนึ่งเพื่อให้ความอบอุ่นเพียงพอ ส่วนอุณหภูมิก็จะอยู่ที่ประมาณ -5 องศา เป็นอุณหภูมิที่สามารถควบคุมการละลายของน้ำแข็งได้ทว่าไม่หนาวจนเกินไปและยังปลอดภัยอยู่
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจคือการแกะสลักน้ำแข็งและหิมะสำหรับมือใหม่ เป็นคอร์สสั้นๆ 1 ชั่วโมง ราคา 49 ยูโร / คน ที่สอนโดยผู้ชำนาญการแกะสลักน้ำแข็งที่จะมาถ่ายทอดเทคนิคต่างๆและใช้เครื่องมือในการแกะสลักน้ำแข็งอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ กิจกรรมสอนแกะสลักน้ำแข็งนี้มีแค่บางวันเท่านั้น หากสนใจนักท่องเที่ยวควรตรวจสอบตารางเวลาโดยตรงอีกครั้งก่อนไป
ทั้งนี้แม้ว่าต้นกำเนิดของโรงแรมน้ำแข็งจะอยู่ที่สวีเดน ทว่าโรงแรมน้ำแข็งที่ฟินแลนด์กลับดูเหมือนจะมีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากกว่า โดยในแต่ละปีในช่วงฤดูหนาวที่มีการเนรมิตปราสาทและโรงแรมน้ำแข็งแห่งนี้ขึ้นมานั้น จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมมากถึง 100,000 คน และมีนักท่องเที่ยวเข้าพักค้างคืนที่โรงแรมน้ำแข็ง (Snow Hotel) เป็นจำนวนกว่า 1,500 คน
การสร้างปราสาทหิมะแต่ละปีจะใช้เวลาในการสร้างมากกว่า 5 สัปดาห์
บริเวณที่จำหน่ายตั๋ว
ปราสาทหิมะเมืองเคมิสร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.1996
ที่นั่งในภัตตาคาร
ที่นั่งจะปูด้วยหนังกวางเรนเดียร์เพื่อความอบอุ่น
นอกจากน้ำแข็งแกะสลักแล้วยังงดงามด้วยไฟประดับตกแต่ง
บรรยากาศรอบๆ ส่วนที่เป็นภัตตาคาร
น้ำแข็งแกะสลักเป็นเก้าอี้และปราสาท
การเดินทางจาก Helsinki ไป Rovaniemi
ปราสาทหิมะเมืองเคมิ (Kemi Snow Castle) ตั้งอยู่ที่เมืองเคมิ (Kemi) นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวเมืองเคมิโดยมากนิยมนั่งเครื่องจากเฮลซิงกิมาลงที่สนามบินเมือง Rovaniemi ซึ่งเป็นเมืองใกล้เคียงกันที่เป็นเมืองใหญ่ มีเที่ยวบินและที่พักให้เลือกเยอะกว่า จากนั้นจึงเดินทางไปเที่ยวเมืองเคมิโดยการซื้อทัวร์หรือเช่ารถขับ โดยเมือง Rovaniemi ซึ่งเป็นเมืองหลักของภูมิภาคแลปแลนด์นั้นอยู่ห่างจากเฮลซิงกิเมืองหลวงของประเทศฟินแลนด์ ราว 690 กิโลเมตร จากประเทศไทยไม่มีเที่ยวบินตรง นักท่องเที่ยว ต้องต่อเครื่องไปจากเฮลซิงกิ ส่วนการเดินทางโดยรถยนต์และรถไฟนั้นใช้เวลาที่ยาวนาน
- เครื่องบิน (Plane) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบิน Vantaa เฮลซิงกิ (HEL) ไปยังสนามบิน Rovaniemi (RVN) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที โดยเส้นทางนี้จะมีสายการบินที่ให้บริการทั้งหมด 3 สายการบิน ให้บริการถึง 70 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
- รถยนต์ (Car) การเดินทางจากเฮลซิงกิไปโรวาเนียมีทางรถยนต์โดยใช้ถนนสาย E75 มีระยะระยะทาง 690 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง
- รถไฟ (Train) การเดินทางจากเฮลซิงกิไปโรวาเนียมีโดยรถไฟขบวน Inter City 274 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 ชั่วโมง
การเดินทางจาก Rovaniemi Airport เข้าเมือง
- รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จากสนามบินโรวาเนียมี (Rovaniemi Airport) เข้าเมืองโดยปักหมุดที่สถานีขนส่งโรวาเนียมี (Rovaniemi Bussterminal) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะ มีระยะทาง 9.2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 10 นาที
หากนักท่องเที่ยวไม่ได้เดินทางโดยการเช่ารถขับเอง และไม่ได้มีความประสงค์ที่จะเดินทางเข้าเมือง โดยทั่วไปแล้วโรงแรมต่างๆ นั้นมีบริการรถรับส่งจากสนามบินไปยังโรงแรมโดยตรง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถแจ้งแก่ทางโรงแรมได้เมื่อทำการจองห้องพัก (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
การเดินทางไป Kemi Snow Castle
- รถยนต์ (Car) เส้นทางรถยนต์จากสถานีขนส่งโรวาเนียมี (Rovaniemi Bussterminal) ไป Kemi Snow Castle เมืองเคมิ โดยใช้ถนนสาย E75 จะมีระยะทาง 118 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 28 นาที
ทั้งนี้ การเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ในแลปแลนด์นั้น วิธีที่สะดวกที่สุดคือการเดินทางไปกับทัวร์หรือเช่ารถขับ เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นนั้นจะเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางอย่างยิ่งหากต้องเดินทางโดยรถสาธารณะ ซึ่งตารางเวลาการเดินทางนั้นไม่ได้มีเยอะและเส้นทางการเดินรถไม่ได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรอรถท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นโดยที่ไม่มีเครื่องทำความอุ่นเหมือนเดินทางไปกับทัวร์หรือรถเช่าส่วนตัวนั้นจะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวถูกลดทอนความสนุก และเสียเวลาไปมากกว่าที่ควรจะเป็น
เวลาทำการเปิด – ปิด
ปราสาทน้ำแข็งเมืองเคมิเปิดให้เข้าชมทุกวันในช่วงปลายเดือนธันวาคม – เมษายน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 18.00 น.
อัตราค่าเข้าชม
บัตรผ่านประตู ราคา 17 ยูโร
บรรยากาศรอบๆ ด้านนอก
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Kemi Snow Castle
สิ่งที่ไม่ควรพลาดคือ เยี่ยมชมส่วนต่างๆ ภายในปราสามหิมะให้ครบทั้งหมดได้แก่ ภัตตาคาร (Snow Restaurant) โบสถ์ (Snow Chapel) และโรงแรม (Snow Hotel) ท่ามกลางอุณหภูมิติดลบห้าองศาเซลเซียส
ส่วนที่เป็นโรงแรม อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ -5 องศา ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่สามารถควบคุมการละลายของน้ำแข็งได้ทว่าไม่หนาวจนเกินไปและยังปลอดภัยอยู่
แต่ละห้องจะได้รับการออกแบบและแกะสลักเป็นลวดลายที่แตกต่างกัน
เตียงนอนที่แกะสลักจากน้ำแข็งนั้นจะปูด้วยขนกวางเรนเดียร์เพื่อให้ความอบอุ่น
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยว Kemi Snow Castle ได้ในช่วงฤดูหนาว ราวๆ ปลายเดือนมกราคม – เมษายนโดยประมาณ ทั้งนี้ช่วงเวลาที่แน่นอนอาจมีการคลาดเคลื่อนเล็กน้อยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสภาพอากาศประเทศฟินแลนด์ในแต่ละปี
ปราสาทน้ำแข็งที่สร้างด้วยความงดงามอลังการเหล่านี้ก็จะค่อยๆ ละลายไปเองเมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาถึง
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
บริเวณรอบๆ ปราสาทน้ำแข็งเคมิยังแวดล้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ อาทิ อ่าวบอธเนียน (Bothnian Bay) ที่น้ำในทะเลจะแข็งตัวกลายเป็นน้ำแข็ง เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงสำหรับการเล่นสกีข้ามประเทศ (Cross – Country Ski) หรือว่าจะเป็นการขับสโนวโมบิล (Snowmobile) หรือนั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์ (Reindeer Sleigh Ride) สำหรับผู้ที่ต้องการหลบอากาศหนาวเย็นเข้าไปชมสิ่งสวยๆ งามๆ สักพัก ใกล้ๆ กันกับปราสาทหิมะก็มีแกลเลอรี่อัญมณี (Gemstone Gallery) ที่ตั้งอยู่ติดกัน
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม Kemi Snow Castle สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ปราสาทหิมะเคมิ เมืองเคมิ ประเทศฟินแลนด์
(Kemi Snow Castle, Kemi, Finland)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : บัตรผ่านประตู ราคา 17 ยูโร
เวลาทำการเปิด – ปิด : ปราสาทน้ำแข็งเมืองเคมิเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 10.00 – 18.00 น. ในช่วงปลายเดือนมกราคม – เมษายนโดยประมาณ
ตั้งอยู่ที่ : Lumilinnankatu 15, 94100 Kemi, ฟินแลนด์
โทรศัพท์ : (+358) 16 258878
เว็บไซต์ : https://experience365.fi/snowcastle
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแลปแลนด์ https://www.visitlapland.com
เว็บไซต์การท่องเที่ยวประเทศฟินแลนด์ https://www.visitfinland.com
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

15 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
กรุงลอนดอน (London) เป็นเมืองหลวงของประเทศอังกฤษ และสหราชอาณาจักร และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรป นอกจากมหานครแห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ลอนดอนยังเต็มไปด้วยสีสันแห่งแฟชั่น และศิลปะ ทำให้ที่นี่เป็นเมืองที่มีอิทธิพลไปทั่วโลก และเป็นที่เข้าใจกันว่าปัจจุบันลอนดอนกลายเป็นเมืองสากลหลักของโลก วันนี้ Palanla จะพาไปชม 15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในลอนดอน ประเทศอังกฤษที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
อ่านต่อ
หอนาฬิกาบิ๊กเบน กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)
หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben) เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในลอนดอนที่มีชื่อเสียงก้องโลก และเป็นสมบัติล้ำค่าของประเทศอังกฤษมานานกว่า 160 ปี โดยแต่เดิมนั้นคำว่าบิ๊กเบนเป็นชื่อของระฆังใบที่ใหญ่ที่สุดในหอนาฬิกา เรียกอีกอย่างว่า “มหาระฆัง” หรือ “เดอะเกรทเบลล์” มีน้ำหนักถึง 13 ตัน
อ่านต่อ
ทัวร์รถบัสฮอฟออน ฮอฟออฟ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)
ทัวร์รถบัสฮอฟออน ฮอฟออฟ (Hop-On Hop-Off) ในลอนดอน เป็นวิธีท่องเที่ยวที่จะเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และชมแลนด์มาร์กสำคัญต่างๆ ของกรุงลอนดอนได้อย่างเรียกว่าน่าจะครบถ้วนมากที่สุดรูปแบบหนึ่งจากบนรถบัสเปิดประทุน พร้อมหูฟังที่สามารถเลือกเสียงบรรยายได้ถึง 5 ภาษา โดยสามารถขึ้นและลงรถบัสนี้ ณ จุดจอดใดก็ได้ที่กำหนดไว้ กี่ครั้งก็ได้ตามที่ต้องการ
อ่านต่อ
ถนนออกซ์ฟอร์ด กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)
ถนนออกซ์ฟอร์ด (Oxford Street ) หนึ่งในถนนช้อปปิ้งที่คึกคักมากที่สุดของลอนดอน มีร้านขายสินค้าแบรนด์เนมขนาดใหญ่หลายแห่ง และยังมีร้านค้าขนาดใหญ่มากมายบนถนนสายนี้มากกว่า 300 ร้านค้า
อ่านต่อ
จัตุรัสรัฐสภา กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)
จัตุรัสรัฐสภา (Parliament Square) เป็นจัตุรัสที่มีสนามหญ้าขนาดใหญ่ อาคารโดยรอบสวยงาม และมีรูปปั้นของบุคคลสำคัญของอังกฤษอยู่ทั่วจัตุรัส
อ่านต่อ
โซโห กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)
มีคำกล่าวที่ว่า “หากมาลอนดอนเเล้วไม่ได้มาช้อปปิ้งที่ Soho ถือว่ายังเที่ยวไม่ครบ” เพราะย่านนี้รวมไว้ด้วยแหล่งช้อบปิ้งชั้นนำ และยังโดดเด่นด้วยร้านบูติกที่เรียกได้ว่าน่าสนใจที่สุดในลอนดอน
อ่านต่อ
เกล็นฟินแนน เวียดัคท์ เขตอินเวอร์เนส-ไชร์ ประเทศสกอตแลนด์
เกล็นฟินแนน เวียดัคท์ (Glenfinnan Viaduct) เป็นสะพานรถไฟคอนกรีตที่ยาวที่สุดของประเทศสกอตแลนด์ เส้นทางรถไฟนี้วิ่งระหว่างเมืองกลาสโกว์กับเมืองมัลเลก บรรยากาศสองข้างมีความสวยงามเป็นอย่างมากจากทิวทัศน์ของหุบเขา โดยเฉพาะบริเวณสะพานรถไฟที่ผ่านหมู่บ้านเกล็นฟินแนนที่จะมองเห็นทั้งหุบเขาและทะเลสาบน้ำจืดล็อกชิเอลอันกว้างใหญ่ สะพานรถไฟเกล็นฟินแนน เวียดัคท์ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยโด่งดังมากที่สุดในภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่พอตเตอร์ที่ใช้เป็นฉากเส้นทางรถไฟไปฮอกวอตส์ ไฮไลท์การท่องเที่ยวที่นี่จะอยู่ในช่วงฤดูร้อนที่จะมีรถไฟจักรไอน้ำให้บริการตลอดเส้นทาง ซึ่งนอกจากจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงามแล้วยังได้บรรยากาศคลาสสิกของรถไฟอีกด้วย
อ่านต่อ
ปราสาทสเตอร์ลิง เมืองสเตอร์ลิง ประเทศสกอตแลนด์
ปราสาทสเตอร์ลิง (Stirling Castle) เป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในสกอตแลนด์ และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และทางสถาปัตยกรรมมากที่สุดอีกด้วย ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมยุคเรอเนซองส์กับสถาปัตยกรรมโกธิกตอนปลาย ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในอาคารที่มีสถาปัตยกรรมน่าประทับใจที่สุดในสกอตแลนด์ และควรค่าแก่การเที่ยวชมเป็นอย่างมาก โดยไฮไลท์ของการเที่ยวชมปราสาทแห่งนี้คือการเดินชมบริเวณโดยรอบอาคารต่างๆ บริเวณห้องโถงใหญ่ ชมพรมทอมือเจ็ดผืนบนผนังห้องโถงชั้นใน สำรวจห้องใต้ดินของพระราชวัง และสวนควีนแอนน์ นอกจากนี้ยังมีส่วนของนิทรรศการปราสาท แกลเลอรี และพิพิธภัณฑ์การทหารให้เที่ยวชมอีกด้วย
อ่านต่อ
7 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
เมืองกลาสโกว์เป็นเมืองท่าริมแม่น้ำไคลด์ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของสกอตแลนด์ เมืองกลาสโกว์มีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมแบบวิกตอเรียนและศิลปะสไตล์อาร์ตนูโว ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากความรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 18-20 ของเมืองอันเนื่องมาจากการค้าและการต่อเรือ ปัจจุบันเมืองกลาสโกว์เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมแห่งชาติ และเป็นที่ตั้งของสถาบันสำคัญต่างๆ และสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าเที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองกลาสโกว์มาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อ
สุสานกลาสโกว์ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
สุสานกลาสโกว์ (Glasgow Necropolis) เป็นสุสานสไตล์วิกตอเรียนที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ ทางทิศตะวันออกของมหาวิหารกลาสโกว์ สุสานแห่งนี้เป็นที่ฝังศพของคนราวห้าหมื่นคน โดยมีทั้งสุสานธรรมดาไปจนถึงสุสานที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบอนุสรณ์ เช่น อนุสาวรีย์จอห์น เฮนรี อเล็กซานเดอร์ และอนุสาวรีย์ชาร์ลส์ เทนแนนต์ สุสานแห่งนี้เป็นหนึ่งในสุสานไม่กี่แห่งที่เก็บบันทึกข้อมูลผู้เสียชีวิต เช่น อาชีพ อายุ เพศ และสาเหตุการเสียชีวิต ปัจจุบันสุสานกลาสโกว์เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองกลาสโกว์ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากไปเยือนในแต่ละปี เพราะเป็นสุสานเก่าที่มีสถาปัตยกรรมในรูปแบบอนุสรณ์สถานให้เที่ยวชมมากมายซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของสุสานแห่งนี้นั่นเอง
อ่านต่อ