อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ ประเทศไทย

  • อ่าน (4,739)
  • ByWebmaster
  • 11:12:02 | 25 ม.ค. 2565

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ ประเทศไทย

Phu Soi Dao National Park, Uttaradit, Thailand

 
ขอบคุณภาพประกอบจาก https://thai.tourismthailand.org/

             อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว (Phu Soi Dao National Park) นอกจากจะเป็นภูเขาที่สูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทยที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และสวยงาม ยังได้ชื่อว่าเป็นแหล่งชมทุ่งดอกหงอนนาคที่สวยที่สุดในเมืองไทย

 


ประวัติ

             อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นภูเขาที่สูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย ด้วยความสูง 1,633 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทั่วทั้งบริเวณของภูสอยดาวปกคลุมไปด้วยทุ่งหญ้า มีดอกไม้ป่าหลากหลายชนิดออกดอกหมุนเวียนอวดความงามตลอดทั้งปี โดยในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค. - ปลายเดือน ก.ย. เป็นช่วงเวลาของดอกหงอนนาค เจ้าของฉายา “นางเอกแห่งภูสอยดาว” ภูสอยดาวยังได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งทุ่งดอกหงอนนาคที่ใหญ่ที่สุดและสวยงามที่สุดในเมืองไทย นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวยังเป็นพื้นที่ที่มีป่าสนสามใบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทยด้วย ภายในพื้นที่ของอุทยานฯ มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจด้วยกันหลายจุด อาทิ ลานสนสามใบภูสอยดาว น้ำตกสายทิพย์ และน้ำตกภูสอยดาว

             ลานสนสามใบภูสอยดาว เป็นพื้นที่ป่าธรรมชาติ มีพื้นที่ประมาณ 1,000 กว่าไร่ สภาพพื้นที่ของลานสนสามใบจะเป็นเนินสูงต่ำสลับกันไป ช่วงฤดูฝนกลางทุ่งหญ้ามีดอกไม้ดินชูช่อแย่งกันออกดอกเป็นกลุ่มหนาแน่น เช่น ดอกหงอนนาคจะมีดอกสีม่วง ดอกสร้อยสุวรรณาจะมีดอกสีเหลือง และดอกหญ้ารากหอมจะมีดอกสีม่วงเข้มสวยงาม

             น้ำตกสายทิพย์ ตั้งอยู่บนรอยต่อระหว่างป่าดิบชื้นกับป่าสนเขา เป็นน้ำตกขนาดเล็ก มีสายน้ำไหลลดหลั่นลงมาตามชั้นเตี้ยๆ รวม 7 ชั้น ความสูงแต่ละชั้นประมาณ 5-10 เมตร ฤดูฝนน้ำจะไหลแรง มองดูสวยงามมากและมีน้ำไหลตลอด เมื่อขึ้นเที่ยวบนลานสนสามใบภูสอยดาวสามารถเที่ยวน้ำตกแห่งนี้ได้ด้วย

             น้ำตกภูสอยดาว เป็นน้ำตกขนาดกลางในลำห้วยน้ำพายไหลลงสู่แม่น้ำปาดที่อำเภอน้ำปาด มีน้ำไหลตลอดปี น้ำตกมีทั้งหมด 5 ชั้น แต่ละชั้นมีชื่อที่ไพเราะ ได้แก่ ภูสอยดาว สกาวเดือน เหมือนฝัน กรรณิการ์ และสุภาภรณ์

             แต่ละปีภูสอยดาวจะแบ่งช่วงเวลาขึ้นภูเป็น 2 ช่วงคือ ช่วงที่ดอกหงอนนาคบาน (กรกฎาคม – ต้นตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงหน้าฝน ไม่สามารถพิชิตยอดได้เนื่องจากอันตราย) และช่วงพิชิตยอด (พฤศจิกายน – กลางเดือนมกราคม) การเดินทางขึ้นไปบนลานสนภูสอยดาวซึ่งเป็นจุดกางเต็นท์นั้น นักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้าจากตีนภูขึ้นไปยังลานสนระยะทาง 6.5 กม. โดยต้องผ่านเนินต่างๆ ทั้งหมด 5 เนินจึงจะถึงลานสน บนลานสนไม่มีไฟฟ้าและร้านค้า ร้านอาหาร นักท่องเที่ยวต้องเตรียมไฟฉาย เสบียงอาหาร น้ำดื่มและเครื่องใช้ต่างๆ ไปเอง โดยทางอุทยานฯ คิดค่าลูกหาบกิโลกรัมละ 30 บาท ด้านบนมีให้เช่าเตาถ่าน เตาแก๊ส และมีห้องน้ำไว้บริการ ทว่าต้องเช่าถังน้ำเพื่อไปตักน้ำจากลำธารมาใช้เอง นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 095 629 9528, 091 024 7633 และ 095 625 8839 หรือสอบถามทาง inbox เพจ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว -  Phu soi dao National Park

 
สนสามใบที่ภูสอยดาว ขอบคุณภาพประกอบจาก http://park.dnp.go.th/

 
น้ำตกสายทิพย์ ขอบคุณภาพประกอบจาก http://park.dnp.go.th

 
น้ำตกภูสอยดาว ขอบคุณภาพประกอบจาก http://park.dnp.go.th


การเดินทางไปจังหวัดอุตรดิตถ์

 

             - รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุตรดิตถ์ มีระยะทาง 500 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง

             - รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุตรดิตถ์ ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง 40 นาที ทั้งนี้ระยะเวลาในการเดินทางขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ

             จังหวัดอุตรดิตถ์ไม่มีสนามบิน สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางโดยเครื่องบินนิยมนั่งไปลงที่จังหวัดใกล้เคียงคือจังหวัดพิษณุโลก แล้วเดินทางโดยรถยนต์ต่อมาที่จังหวัดอุตรดิตถ์


การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว

             อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อยู่ที่ ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 150 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 2 ชั่วโมง 30 นาที

             นักท่องเที่ยวนิยมใช้บริการรถรับส่งที่ติดต่อจองกับทางเพจของอุทยาน (เพจ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว -  Phu soi dao National Park) มีทั้งรถเก๋งสำหรับ 4 คน  ราคาเที่ยวละประมาณ 1,500 บาท รวมถึงรถแวนสำหรับ 7 คน รถตู้สำหรับ 10 คน และรถสองแถวสำหรับ 12 คน


เวลาทำการเปิด – ปิด

             ในช่วงขึ้นภู เปิดให้ขึ้นอุทยานแห่งชาติภูสอยดาวได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 14.00 น.


อัตราค่าเข้าชม

             ค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว

             ชมความงามของทุ่งดอกหงอนนาค ดื่มด่ำกับบรรยากาศของต้นสนสูงชะลูดและทัศนียภาพที่สวยงามโดยรอบลานสนภูสอยดาว เที่ยวน้ำตกสายทิพย์ และน้ำตกภูสอยดาว 


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             แต่ละปีภูสอยดาวจะแบ่งช่วงเวลาขึ้นภูเป็น 2 ช่วงคือ ช่วงที่ดอกหงอนนาคบาน (กรกฎาคม – ต้นตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงหน้าฝน ไม่สามารถพิชิตยอดได้เนื่องจากอันตราย) และช่วงพิชิตยอด (พฤศจิกายน – กลางเดือนมกราคม)


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้

             นอกจากค่าเข้าอุทยานฯ แล้ว ยังมีค่ามัดจำขยะ 200 บาท โดยขาลงนักท่องเที่ยวต้องนำขยะใส่ถุงลงมาด้วยเพื่อรับเงินคืน และเมื่อชำระค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติแล้วนักท่องเที่ยวต้องพกบัตรค่าบริการติดตัวไว้ด้วยเผื่อสำหรับเจ้าหน้าที่ตรวจ

 
ขอบคุณภาพประกอบจาก https://th.wikipedia.org/


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ ประเทศไทย

                         (Phu Soi Dao National Park, Uttaradit, Thailand)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : ค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท

                         เวลาทำการเปิด – ปิด : ในช่วงขึ้นภู อุทยานแห่งชาติเปิดให้ขึ้นลานสนภูสอยดาวทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 14.00 น.

                         ตั้งอยู่ที่ : ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์

                         โทรศัพท์ : (+66) 095 629 9528   

                         เว็บไซต์ : -

                         ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                       ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดอุตรดิตถ์ https://uttaradit.mots.go.th

                                       ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดอุตรดิตถ์ http://www.uttaradit.go.th/journey/index2.htm

                                       ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพะเยา ประเทศไทย

จังหวัดพะเยาเป็นจังหวัดทางภาคเหนือที่เต็มไปด้วยวัดสวยๆ หลายแห่งที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมล้านนาอย่างงดงาม และยังเป็นที่ตั้งของวนอุทยานภูลังกาที่มีธรรมชาติอันสวยงามและอุดมสมบูรณ์ รวมถึงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อย่างกว๊านพะเยาให้เที่ยวชมอีกด้วย วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดพะเยามาฝากทุกท่านเพื่อเป็นแนวทางในการจัดทริปเที่ยวเหนือกันในวัดหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้

อ่านต่อ

วัดพระนั่งดิน จังหวัดพะเยา ประเทศไทย

วัดพระนั่งดิน (Wat Phra Nang Din) เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดพะเยา ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้อยู่ที่องค์พระประธานภายในวิหารของวัด นามว่าพระเจ้านั่งดินที่ประดิษฐานอยู่บนพื้น ซึ่งต่างจากพระพุทธรูปทั่วไปที่ต้องประดิษฐานอยู่บนฐาน ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากในอดีตเกิดเหตุการณ์อัศจรรย์ที่ไม่มีใครสามารถยกพระพุทธรูปขึ้นได้ แม้ต่อมาในยุคสมัยใหม่จะสามารถยกขึ้นประดิษฐานบนฐานได้ แต่หลังจากนั้นก็เกิดฟ้าผ่าลงหลังคาวิหารถึงสามครั้งจนต้องอัญเชิญพระพุทธรูปนี้ลงมาประดิษฐานไว้บนพื้นเช่นเดิม วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและผู้มีจิตศรัทธาเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

จุดชมวิวภูลังกา จังหวัดพะเยา ประเทศไทย

จุดชมวิวภูลังกา (Phu Lanka Viewpoint) เป็นจุดชมวิวภายในวนอุทยานภูลังกาซึ่งเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอำเภอเชียงคำและอำเภอปง ไฮไลท์ของจุดชมวิวนี้อยู่ที่สามารถชมทัศนียภาพของภูเขาและหน้าผาต่างๆ ได้แบบพาโนรามา มีความสวยงามแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาลและชมวิวได้ไกลถึงฝั่งลาว โดยช่วงเวลาที่ได้รับการยอมรับว่าสวยที่สุดคือช่วงปลายฝนต้นหนาวที่มีทะเลหมอกล่องลอยท่ามกลางยอดดอยและหน้าผา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมที่สุดในจังหวัดพะเยา

อ่านต่อ

๑๒ วัดสวยในภาคเหนือ พุทธศิลป์แห่งอาณาจักรล้านนา

ภาคเหนือ เป็นหนึ่งในภูมิภาคของประเทศไทย ที่มีวิถีชีวิตของชาวพื้นเมือง และขนบธรรมเนียมประเพณีที่เรียบง่าย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ และมีชื่อเสียงอยู่มากมาย รวมไปถึงมีผลงานพุทธศิลป์แบบล้านนาสุดแสนจะวิจิตร ที่สะท้อนออกมาในรูปแบบของสถาปัตยกรรมและประติมากรรมในวัดวาอารามต่าง ๆ เป็นเอกลักษณ์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะมากราบสักการะ พร้อมชื่นชมผลงานศิลปะล้านนาที่อ่อนช้อย และทรงคุณค่า วันนี้ Palanla จึงจะขอชวนออกเดินทางไปเที่ยวชม และรับสิริมงคลกับ 12 วัดสวยในภาคเหนือกันค่ะ

อ่านต่อ

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (Doi Inthanon National Park) สถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงประจำจังหวัดเชียงใหม่ อุทยานที่สวยงาม และแวดล้อมไปด้วยทิวเขาสูงสลับซับซ้อน น้ำตก ถ้ำ ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนในทุกๆปี

อ่านต่อ

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (Phu Chi Fa National Park) ผืนป่าบนยอดดอยที่มีจุดชมทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ที่มีความสวยงามติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

อ่านต่อ

วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน ประเทศไทย

วัดจามเทวี (Wat Chamdhevi) วัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำพูน ภายในวัดมีเจดีย์บรรจุอัฐิของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทยด้วย

อ่านต่อ

กู่ช้าง กู่ม้า จังหวัดลำพูน ประเทศไทย

กู่ช้าง กู่ม้า (Khu Chang – Khu Ma) เป็นโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดลำพูน โดยเชื่อว่ากู่ช้าง เป็นสุสานช้างศึกคู่บารมีของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย ส่วนกู่ม้า เป็นสุสานม้าทรงของพระโอรสในพระนางจามเทวี

อ่านต่อ

พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชราชานุสรณ์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชราชานุสรณ์ (King Naresuan Stupa) เป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นในรูปแบบของสถูปเจดีย์พร้อมกับพระบรมรูปเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และรำลึกเหตุการณ์ครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเคยเสด็จมาประทับแรมที่เมืองงายแห่งนี้ก่อนกรีฑาทัพต่อไปยังเมืองอังวะของพม่าเมื่อปี พ.ศ. 2147 โดยสร้างขึ้นในบริเวณที่เคยเป็นเส้นทางเดินทัพเมื่อในอดีต นักท่องเที่ยวและชาวเมืองเชียงใหม่นิยมมาสักการะและขอพร นอกจากนี้ ภายในบริเวณยังมีส่วนนิทรรศการค่ายหลวงจำลองที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชซึ่งกรมศิลปากรจัดสร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เที่ยวชมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์อีกด้วย

อ่านต่อ

น้ำตกแม่สา จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

น้ำตกแม่สา (Mae Sa Waterfall) เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยมในอำเภอแม่ริม น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 10 ชั้น สามารถเดินขึ้นไปชมความงดงามในแต่ละชั้นได้ตามทางเดินที่ทางอุทยานจัดทำไว้ให้ และหากใครสนใจเล่นน้ำคลายร้อนก็สามารถลงเล่นน้ำได้เช่นกัน โดยชั้นที่เป็นที่นิยมคือชั้นที่ 3-6 เพราะค่อนข้างปลอดภัยและสามารถเล่นได้ทั้งครอบครัว นอกจากนี้ภายในบริเวณยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และห้องน้ำให้บริการอีกด้วย

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ