ถ้ำผานางคอย จังหวัดแพร่ ประเทศไทย

  • อ่าน (6,153)
  • ByWebmaster
  • 17:33:42 | 20 ม.ค. 2565

ถ้ำผานางคอย จังหวัดแพร่ ประเทศไทย

Pha Nang Khoi Cave, Phrae, Thailand

             ถ้ำผานางคอย (Pha Nang Khoi Cave) เป็นถ้ำหินงอกหินย้อยที่มีความสวยงาม วิจิตร อลังการที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้น โดดเด่นด้วยก้อนหินรูปร่างคล้ายหญิงสาวนั่งอุ้มลูกน้อยรอคอยคนรัก เชื่อมโยงกับตำนานความรักพื้นบ้านที่เล่าขานต่อกันมาหลายชั่วอายุคน


ประวัติ

             ถ้ำผานางคอย เป็นส่วนหนึ่งของภูเขาหินปูน ตั้งตระหง่านกลางป่าอันอุดมสมบูรณ์ในตำบลร้องกวาง อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ เป็นถ้ำที่มีลักษณะเป็นหน้าผาสูง ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อย และมีก้อนหินรูปร่างคล้ายหญิงสาวนั่งอุ้มลูกน้อย คนท้องถิ่นเรียกหินก้อนนี้ว่า “หินนางคอย”

             มีตำนานพื้นบ้านเล่าต่อกันมาว่าเมื่อ 800 ปีก่อน อาณาจักรแสนหวีมีกษัตริย์องค์หนึ่ง ปกครองด้วยทศพิธราชธรรม พระองค์มีพระราชธิดาที่ทรงพระสิริโฉมและทรงมีพระทัยโอบอ้อมอารีย์ นามว่า “อรัญญาณี” ครั้งหนึ่งพระนางทรงสำราญทางชลมาพร้อมด้วยข้าราชบริพาร ทว่า เรือพระที่นั่งถูกพายุพัดกระหน่ำจมลง เหล่าข้าราชบริพารพากันหนีเอาตัวรอดตามลำพัง เว้นแต่ “คะนองเดช” หัวหน้าฝีพายหนุ่มได้เข้าช่วยพระนางไว้ทันและพาพระนางเข้าฝั่งอย่างปลอดภัย ด้วยความใกล้ชิดและสำนึกในบุญคุณ จึงเกิดเป็นความรัก ซึ่งความรักนี้ถือเป็นการประพฤติล่วงราชประเพณีผิดกฎมณเฑียรบาล พระนางจึงถูกลงโทษขณะทรงตั้งครรภ์ คะนองเดชก็ได้เสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยพระนางและหนีไปพร้อมกัน เมื่อทหารหลวงออกติดตามมาจนพบทั้งสองและเล็งธนูหมายจะยิงคะนองเดช แต่ลูกธนูพลาดไปถูกลางพระอุระของพระนาง คะนองเดชจึงอุ้มพระนางเข้ามายังถ้ำแห่งนี้ ด้วยความรักพระนางจึงทรงรับสั่งให้คะนองเดชรีบหนีไปและตั้งจิตอธิษฐานว่าจะทรงรออยู่ที่นี่ชั่วกัลปาวสาน ด้วยแรงอธิษฐานทำให้ร่างของพระนางกลายเป็นหิน รูปร่างคล้ายหญิงสาวนั่งอุ้มลูกน้อยรอคอยคนรักมา

             ภายในถ้ำแบ่งออกเป็น 13 จุด แต่ละจุดมีชื่อเรียกที่ไพเราะแตกต่างกันไป ได้แก่ 1. คูหาสวรรค์วิเศษ 2. เทพอารักษ์นครา 3. นาคาสถิต 4. งามพิศอนงค์สนาน 5. หิมพานต์พิจิตร 6. เนรมิตม่านแก้ว 7. มรกตเพริดแพร้ววิจิตรา 8. บูชาพระมุนี 9. นทีชลเนตร 10. ธารเทพอธิษฐาน  11. คชสารพิทักษ์  12.ลานรักพระนาง 13. อลังการแห่งรักอรัญญณี การชมหินนางคอยซึ่งเป็นจุดสำคัญของถ้ำนักท่องเที่ยวควรยืนอยู่ห่างจากหินประมาณ 10 เมตร จึงจะที่เห็นได้ชัดว่ามีรูปร่างเหมือนผู้หญิงอุ้มลูก ระยะทางจากปากถ้ำจนถึงทางออกอีกด้านหนึ่งของถ้ำผานางคอยมีความยาวประมาณ 150 เมตร ทางเดินมีทั้งส่วนที่กว้างและแคบสลับกันไป ตลอดทางเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยหินงดงามให้ได้ชม

             ปัจจุบันถ้ำผานางคอยได้รับการปรับปรุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีการปรับภูมิทัศน์ พัฒนาเส้นทาง ติดไฟ และป้ายบอกถึงความเป็นมาประวัติศาสตร์และตำนาน "ผานางคอย" ไว้รับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ และในเดือนเมษายนช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีการจัดงานถ้ำผานางคอยเป็นประจำทุกปี


บรรยากาศร่มรื่นรอบๆ บริเวณถ้ำผานางคอย


ทางเข้าถ้ำ


บรรยากาศภายในถ้ำมีทางเดินทอดยาวและตกแต่งด้วยไฟสีสันสวยงาม


พระพุทธรูปที่ประดิษฐานภายในถ้ำผานางคอย


จุดต่างๆ มีชื่อเรียกที่ไพเราะแตกต่างกันตามเหตุการณ์ในตำนาน และมีป้ายให้ข้อมูลเกี่ยวกับจุดนั้นๆ อยู่


ทางเดินทอดยาวและไฟตกแต่งสวยงามภายในถ้ำ


การเดินทางไปจังหวัดแพร่

             - รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปแพร่ มีระยะทาง 558 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 7 ชั่วโมง 

             - รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปแพร่ ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง

             - เครื่องบิน (Flight) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปสนามบินแพร่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที  


การเดินทางไปถ้ำผานางคอย

             ถ้ำผานางคอย ตั้งอยู่ที่ตำบลร้องกวาง อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ห่างจากตัวจังหวัด 34 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 35 นาที


เวลาทำการเปิด – ปิด

             เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น.


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม


ความงดงามของประติมากรรมธรรมชาติภายในถ้ำผานางคอย 


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวถ้ำผานางคอย

             ชมหินงอกหินย้อยที่งดงามทั้ง 13 จุดภายในถ้ำผานางคอย โดยเฉพาะ “หินนางคอย” ซึ่งมีรูปร่างเหมือนผู้หญิงอุ้มลูก อันเป็นหัวใจสำคัญของถ้ำแห่งนี้


หินนางคอย หนึ่งในจุดสำคัญที่สุดภายในถ้ำ 


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             สามารถเที่ยวได้ตลอดปี


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม ถ้ำผานางคอย สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                      ถ้ำผานางคอย จังหวัดแพร่ ประเทศไทย

                      (Pha Nang Khoi Cave, Phrae, Thailand)

                      ระดับความนิยม : 

                      อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม     

                      เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น.

                      ตั้งอยู่ที่ : ตำบลร้องกวาง อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่

                      โทรศัพท์ : (+66) 0 5567 1466

                      เว็บไซต์ : -

                      ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                       ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ https://phrae.mots.go.th/

                                       ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดแพร่ http://www.phrae.go.th/Tourist/communication.htm

                                       ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพะเยา ประเทศไทย

จังหวัดพะเยาเป็นจังหวัดทางภาคเหนือที่เต็มไปด้วยวัดสวยๆ หลายแห่งที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมล้านนาอย่างงดงาม และยังเป็นที่ตั้งของวนอุทยานภูลังกาที่มีธรรมชาติอันสวยงามและอุดมสมบูรณ์ รวมถึงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อย่างกว๊านพะเยาให้เที่ยวชมอีกด้วย วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดพะเยามาฝากทุกท่านเพื่อเป็นแนวทางในการจัดทริปเที่ยวเหนือกันในวัดหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้

อ่านต่อ

วัดพระนั่งดิน จังหวัดพะเยา ประเทศไทย

วัดพระนั่งดิน (Wat Phra Nang Din) เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดพะเยา ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้อยู่ที่องค์พระประธานภายในวิหารของวัด นามว่าพระเจ้านั่งดินที่ประดิษฐานอยู่บนพื้น ซึ่งต่างจากพระพุทธรูปทั่วไปที่ต้องประดิษฐานอยู่บนฐาน ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากในอดีตเกิดเหตุการณ์อัศจรรย์ที่ไม่มีใครสามารถยกพระพุทธรูปขึ้นได้ แม้ต่อมาในยุคสมัยใหม่จะสามารถยกขึ้นประดิษฐานบนฐานได้ แต่หลังจากนั้นก็เกิดฟ้าผ่าลงหลังคาวิหารถึงสามครั้งจนต้องอัญเชิญพระพุทธรูปนี้ลงมาประดิษฐานไว้บนพื้นเช่นเดิม วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและผู้มีจิตศรัทธาเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

จุดชมวิวภูลังกา จังหวัดพะเยา ประเทศไทย

จุดชมวิวภูลังกา (Phu Lanka Viewpoint) เป็นจุดชมวิวภายในวนอุทยานภูลังกาซึ่งเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอำเภอเชียงคำและอำเภอปง ไฮไลท์ของจุดชมวิวนี้อยู่ที่สามารถชมทัศนียภาพของภูเขาและหน้าผาต่างๆ ได้แบบพาโนรามา มีความสวยงามแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาลและชมวิวได้ไกลถึงฝั่งลาว โดยช่วงเวลาที่ได้รับการยอมรับว่าสวยที่สุดคือช่วงปลายฝนต้นหนาวที่มีทะเลหมอกล่องลอยท่ามกลางยอดดอยและหน้าผา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมที่สุดในจังหวัดพะเยา

อ่านต่อ

๑๒ วัดสวยในภาคเหนือ พุทธศิลป์แห่งอาณาจักรล้านนา

ภาคเหนือ เป็นหนึ่งในภูมิภาคของประเทศไทย ที่มีวิถีชีวิตของชาวพื้นเมือง และขนบธรรมเนียมประเพณีที่เรียบง่าย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ และมีชื่อเสียงอยู่มากมาย รวมไปถึงมีผลงานพุทธศิลป์แบบล้านนาสุดแสนจะวิจิตร ที่สะท้อนออกมาในรูปแบบของสถาปัตยกรรมและประติมากรรมในวัดวาอารามต่าง ๆ เป็นเอกลักษณ์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะมากราบสักการะ พร้อมชื่นชมผลงานศิลปะล้านนาที่อ่อนช้อย และทรงคุณค่า วันนี้ Palanla จึงจะขอชวนออกเดินทางไปเที่ยวชม และรับสิริมงคลกับ 12 วัดสวยในภาคเหนือกันค่ะ

อ่านต่อ

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (Doi Inthanon National Park) สถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงประจำจังหวัดเชียงใหม่ อุทยานที่สวยงาม และแวดล้อมไปด้วยทิวเขาสูงสลับซับซ้อน น้ำตก ถ้ำ ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนในทุกๆปี

อ่านต่อ

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (Phu Chi Fa National Park) ผืนป่าบนยอดดอยที่มีจุดชมทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ที่มีความสวยงามติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

อ่านต่อ

วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน ประเทศไทย

วัดจามเทวี (Wat Chamdhevi) วัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำพูน ภายในวัดมีเจดีย์บรรจุอัฐิของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทยด้วย

อ่านต่อ

กู่ช้าง กู่ม้า จังหวัดลำพูน ประเทศไทย

กู่ช้าง กู่ม้า (Khu Chang – Khu Ma) เป็นโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดลำพูน โดยเชื่อว่ากู่ช้าง เป็นสุสานช้างศึกคู่บารมีของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย ส่วนกู่ม้า เป็นสุสานม้าทรงของพระโอรสในพระนางจามเทวี

อ่านต่อ

พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชราชานุสรณ์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชราชานุสรณ์ (King Naresuan Stupa) เป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นในรูปแบบของสถูปเจดีย์พร้อมกับพระบรมรูปเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และรำลึกเหตุการณ์ครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเคยเสด็จมาประทับแรมที่เมืองงายแห่งนี้ก่อนกรีฑาทัพต่อไปยังเมืองอังวะของพม่าเมื่อปี พ.ศ. 2147 โดยสร้างขึ้นในบริเวณที่เคยเป็นเส้นทางเดินทัพเมื่อในอดีต นักท่องเที่ยวและชาวเมืองเชียงใหม่นิยมมาสักการะและขอพร นอกจากนี้ ภายในบริเวณยังมีส่วนนิทรรศการค่ายหลวงจำลองที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชซึ่งกรมศิลปากรจัดสร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เที่ยวชมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์อีกด้วย

อ่านต่อ

น้ำตกแม่สา จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

น้ำตกแม่สา (Mae Sa Waterfall) เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยมในอำเภอแม่ริม น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 10 ชั้น สามารถเดินขึ้นไปชมความงดงามในแต่ละชั้นได้ตามทางเดินที่ทางอุทยานจัดทำไว้ให้ และหากใครสนใจเล่นน้ำคลายร้อนก็สามารถลงเล่นน้ำได้เช่นกัน โดยชั้นที่เป็นที่นิยมคือชั้นที่ 3-6 เพราะค่อนข้างปลอดภัยและสามารถเล่นได้ทั้งครอบครัว นอกจากนี้ภายในบริเวณยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และห้องน้ำให้บริการอีกด้วย

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ