พระมหาธาตุนภเมทนีดล - นภพลภูมิสิริ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

  • อ่าน (3,997)
  • ByWebmaster
  • 14:16:34 | 20 ม.ค. 2565

พระมหาธาตุนภเมทนีดล - นภพลภูมิสิริ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

Phramahathat Napamathanidol & Phramahathat Napaphol Bhumisiri, Chiangmai Province, Thailand

             พระมหาธาตุนภเมทนีดล และ พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ (Phramahathat Napamathanidol & Phramahathat Napaphol Bhumisiri) ปูชนียสถานสำคัญ 2 แห่งเคียงคู่กัน ณ กิโลเมตรที่ 41.5  บนยอดดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้ที่มาเยือนจะได้สักการะและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ท่ามกลางทัศนียภาพสวยงามที่โอบล้อมพระมหาสถูปเจดีย์ทั้งสององค์นี้อยู่


ประวัติ

             พระมหาธาตุนภเมทนีดล และ พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ สร้างขึ้นโดยกองทัพอากาศร่วมกับพสกนิกรชาวไทย น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศล และเทิดพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อเป็นปูชนียสถานสำคัญเคียงคู่กัน ให้ประชาชนที่มาเยี่ยมชมและสักการะ ได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของทั้ง 2 พระองค์  

             พระมหาธาตุนภเมทนีดล สร้างถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ 9 เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อปี พ.ศ. 2530 โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนิน ในปีพ.ศ. 2531 มาทรงรับและทรงเปิดพระมหาสถูปเจดีย์ฯ ที่กองทัพอากาศร่วมใจบริจาคทรัพย์สร้างเป็นอนุสรณ์ น้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล และพระราชทานชื่อพระมหาสถูปเจดีย์องค์นี้ว่า “พระมหาธาตุนภเมทนีดล” มีความหมายว่า “พระสถูปเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุที่ยิ่งใหญ่เพียงฟ้าจรดดิน” ถือเป็นพระมหาสถูปเจดีย์องค์แรกที่ตั้งอยู่บนแผ่นดินที่สูงที่สุดในประเทศไทย มีความสูง 60 เมตร

             องค์พระมหาสถูปเจดีย์มีสีน้ำตาล สัณฐานทรงระฆัง 8 เหลี่ยม มีลวดลายแบ่งออกเป็น 3 ช่วง แทนพระบารมี 3  ขั้นตอนที่พระพุทธเจ้าได้ทรงบำเพ็ญ อันประกอบด้วย บารมีขั้นแรก 10 ขั้น อุปบารมี 10 ขั้น และปรมัตถบารมี 10 ขั้น รวมเป็นบารมี 30 ทัศ ส่วนของยอดพระมหาสถูปเจดีย์หรือยอดปลีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ รูปทรงเจดีย์และฐานมีลักษณะหนักแน่น มั่นคง แข็งแรง มีท่วงท่าสง่าแบบทหาร  

             ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานพร มีขนาดหน้าตัก 60 นิ้ว สูง 7.3 ฟุต นาม พระพุทธบรมศาสดา นวมินทรมหาจักรีราชานุสรณ์ สัฐิพรรษาสถาพรพิพัฒน์ มีความหมายว่า “พระพุทธเจ้าบรมศาสดา สร้างเป็นอนุสรณ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ พระชนมพรรษา 60” ผนังห้องโถงประดับด้วยภาพศิลาจำหลัก แบบนูนต่ำ 4 ภาพใหญ่ แสดงพุทธประวัติ 4 ตอนสำคัญ คือ ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน


พระมหาธาตุนภเมทนีดล


ภาพจิตรกรรมนูนต่ำรอบๆ ฐานองค์พระมหาธาตุนภเมทนีดล


พระพุทธบรมศาสดา นวมินทรมหาจักรีราชานุสรณ์ สัฐิพรรษาสถาพรพิพัฒน์

 

             พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ (พระยศในขณะนั้น) ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อปี พ.ศ. 2535 พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ มีความหมายว่า “เป็นกำลังแห่งฟ้า เป็นสิริแห่งดิน” ด้วยกองทัพอากาศตระหนักในพระจริยาวัตรของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงอุตสาหะบำเพ็ญมาโดยต่อเนื่องนับแต่ได้ทรงดำรงพระอิสริยยศ เป็นที่ประจักษ์แจ้งถึงความมุ่งมั่นแน่วแน่ในพระราชหฤทัยที่จะทรงจำเริญรอยพระยุคลบาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

             พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ มีรูปทรง 12  เหลี่ยม องค์เจดีย์ประดับโมเสกแก้วสีม่วงอมชมพูสีเดียวกันตลอดทั้งองค์ ที่ส่วนยอดขององค์เจดีย์เป็นยอดปลี ล้อมด้วยกลีบดอกบัวตูม ประดับด้วยโมเสกแก้วสีทอง เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ กั้นด้วยฉัตรสีเงิน 9 ชั้น  

             ภายในเจดีย์มีพระพุทธรูปหินหยกสีขาว ปางรำพึง ประทับยืนบนดอกบัว มีขนาดความสูง 3 เมตร 20 เซนติเมตร นาม “พระพุทธสิริกิติทีฆายุมงคล” มีความหมายว่า พระพุทธเจ้าทรงเป็นสิริมงคลและทรงเจริญพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ประดิษฐานอยู่ ซึ่งเป็นพระประจำวันศุกร์ อันเป็นวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9


พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ


ภาพจิตรกรรมนูนต่ำรอบๆ องค์พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ


พระพุทธสิริกิติทีฆายุมงคล

             นอกจากผู้ที่มาเยี่ยมชมพระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ จะได้ชมสถาปัตยกรรมที่งดงาม และกราบสักการะพระมหาธาตุทั้งสองเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว บริเวณรอบๆ ยังจัดตกแต่งภูมิทัศน์เป็นสวนสวยงาม โดยเฉพาะในยามที่มีหมอกลงนั้นเป็นบรรยากาศที่สวยงามและสดชื่น


บรรยากาศสวยงามสดชื่นภายในสวน 


การเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่

             - รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ มีระยะทาง 696 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 - 12 ชั่วโมง 

             - รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ ใช้เวลาประมาณ 11 - 13 ชั่วโมง

             - เครื่องบิน(Flight) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปสนามบินเชียงใหม่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที  


การเดินทางไปพระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ

             พระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากตัวจังหวัดเชียงใหม่ 104 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 2 ชั่วโมง


เวลาทำการเปิด – ปิด

             เปิดให้บริการทุกวัน  เวลา 05.00 - 17.00 น.


อัตราค่าเข้าชม

            ชาวไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว
พระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ

            ชมสถาปัตยกรรมที่งดงามของพระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ

             กราบสักการะ “พระพุทธบรมศาสดา นวมินทรมหาจักรีราชานุสรณ์ สัฐิพรรษาสถาพรพิพัฒน์” และ“พระพุทธสิริกิติทีฆายุมงคล”

             ดื่มด่ำกับบรรยากาศโดยรอบที่สวยงามและสดชื่นจากยอดดอยอินทนนท์


ภูมิทัศน์สวยๆ โดยรอบพระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

 

             นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม พระมหาธาตุเมทนีดล - นพพลภูมิสิริ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         พระมหาธาตุนภเมทนีดล - นภพลภูมิสิริ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

                         (Phramahathat Napamathanidol & Phramahathat Napaphol Bhumisiri, Chiang Mai Province, Thailand)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท

                         เวลาเปิด – ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 05.00 - 17.00 น.

                         ตั้งอยู่ที่ : อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่

                         โทรศัพท์ : (+66) 064 354 4868

                         เว็บไซต์ : -

                         ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com 

                                         การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ http://www.tourismchiangmai.org 

                                         สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ https://chiangmai.mots.go.th 

                                         ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว

อ่านต่อ

ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน

อ่านต่อ

วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย

วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ