อาสนวิหารแม่พระบังเกิด จังหวัดสมุทรสงคราม ประเทศไทย

  • อ่าน (4,820)
  • ByWebmaster
  • 19:09:59 | 20 ส.ค. 2564

อาสนวิหารแม่พระบังเกิด จังหวัดสมุทรสงคราม ประเทศไทย

Nativity of Our Lady Cathedral, Samutsongkhram, Thailand

             อาสนวิหารแม่พระบังเกิด (Nativity of Our Lady Cathedral) สถานที่สักการะอันศักดิ์สิทธิ์ขอคริสต์ชนนิกายโรมันคาทอลิกประจำจังหวัดสมุทรสงคราม อีกหนึ่งศาสนสถานที่มีสถาปัตยกรรมงดงามแบบตะวันตกท่ามกลางวิถีชีวิตลุ่มแม่น้ำแม่กลอง อาสนวิหารพระแม่บังเกิดที่บางนกแขวกแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่สวยงาม และเก่าแก่ที่สุดของชาวคาทอลิกในประเทศไทย


ประวัติ

             อาสนวิหารแม่พระบังเกิด ตั้งอยู่หมู่ที่ 7 ตำบลบางนกแขวก จังหวัดสมุทรสงคราม สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2433 เพื่อเป็นเกียรติแก่การบังเกิดของพระแม่มารีย์ อาสนวิหารแห่งนี้ถือเป็นสถานที่สักการะอันศักดิ์สิทธิ์ของคริสต์ชนนิกายโรมันคาทอลิกที่อาศัยอยู่โดยรอบ นับเป็นโบสถ์ที่มีความสวยงามและอยู่ไม่ไกลจากริมฝั่งแม่น้ำ

             อาสนวิหารแม่พระบังเกิดสร้างโดยบาทหลวงเปาโล ซัลมอน มิชชันนารีชาวฝรั่งเศส ใช้เวลาก่อสร้างถึง 6 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์หลังจากผ่านอุปสรรคมากมาย ทั้งดินที่เป็นเลนอ่อนริมแม่น้ำทำให้ผนังของโบสถ์ทรุดตัวลง หรือการขาดแคลนทุนทรัพย์ รวมถึงความห่างไกลจากเมืองหลวงที่ทำให้การขนส่งวัสดุก่อสร้างเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยเมื่อสร้างเสร็จก็ได้กลายเป็นแลนด์มาร์กขนาดใหญ่ริมแม่น้ำแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม

             ตัวอาคารของอาสนวิหารแม่พระบังเกิดที่บางนกแขวกแห่งนี้ เป็นสถาปัตยกรรมกอธิก (Gothic) สร้างด้วยอิฐเผา ผนังฉาบด้วยปูนตำกับน้ำเชื่อมจากอ้อยใสสีดำ ภายในประดับด้วยกระจกสี Stain Glass สวยงามจากประเทศฝรั่งเศสซึ่งถือเป็นไฮไลต์สำคัญของอาสนวิหารแห่งนี้ แสดงเป็นเรื่องราวกับพระนางมารีย์พรหมจารีและภาพของบรรดานักบุญทั้งชายและหญิง โดยกระจกเหล่านี้แบ่งออกเป็น 2 ตอน ได้แก่

             ช่วงเหนือหน้าต่างแสดงภาพประวัติของพระนางมารีย์ พระมารดาของพระเยซูคริสต์ ตามนามของโบสถ์ โดยเริ่มตั้งแต่เหตุการณ์บังเกิดของแม่พระที่ตำแหน่งกลางโบสถ์ ในภาพเป็นรูปนักบุญอันนากับโยอาคิมกำลังอุ้มแม่พระ มีเทวดาบินอยู่รอบๆ ถือแผ่นป้ายมีข้อความว่า “พระนางพรหมจารีคือแสงทองอรุโณทัย” เป็นการเปรียบเทียบว่าการบังเกิดของพระนางมารีย์นั้นเสมือนเวลาเช้าของพันธสัญญาใหม่ หรือห้วงเวลาที่พระคริสต์กำลังจะเสด็จลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ และถัดมาจึงเป็นฉากประสูติของพระคริสต์ และช่วงชีวิตของพระนางมารีย์ที่ติดตามลูกชายไปเทศนายังที่ต่างๆ จนมาถึงกระจกสองบานสุดท้ายคือเหตุการณ์การสิ้นชีพของพระนาง ก่อนจะพระเป็นเจ้าจะทรงรับพระนางขึ้นสวรรค์ทั้งร่างกาย หรือที่เรียกเหตุการณ์การขึ้นสวรรค์นี้ว่า “อัสสัมชัญ” นับเป็นกระจกสีภาพประวัติของพระแม่มารีย์ที่ครบสมบูรณ์ที่สุดในไทย

             ส่วนกระจกด้านล่างนั้น แบ่งเป็น 2 ฝั่งซ้าย-ขวา ด้านขวาเป็นนักบุญอัครสาวกทั้ง 12 ซึ่งเป็นผู้ชายทั้งหมด ขณะที่ด้านซ้ายเป็นภาพนักบุญสตรีที่สำคัญ โดยเฉพาะนักบุญหญิงในยุคแรกเริ่มของคริสต์ศาสนา เช่น นักบุญอากาธา นักบุญเยโนเวฟา นักบุญเซซีลีอา เป็นต้น นอกจากกระจกสีที่แสดงเรื่องราวต่างๆ ที่น่าสนใจแล้ว ภายในอาสนวิหารยังมีมีรูปปั้น ธรรมาสน์ อ่างล้างบาป ขาเทียนลักษณะต่างๆ และรูปแกะสลักประดับบานประตู บรรยายเกร็ดประวัติในพระคัมภีร์คริสต์ศาสนาบางตอน

             ด้านหน้าอาสนวิหาร มีประติมากรรมที่โดดเด่นเป็นรูปนักบุญอันนา มารดาของพระนางมารีย์ กำลังโอบแม่พระในวัยเด็ก และประติมากรรมรูปนักบุญเปโตรและเปาโลที่อยู่ด้านบนสุด 2 คือ ผู้เป็นเสาหลักของพระศาสนจักร นอกจากนี้ภาพด้านหน้าของโบสถ์ยังมีอักษรจีนที่แปลว่า “บ้านของพระเจ้า” หรือ “โบสถ์” ปรากฏอยู่ เหตุที่มีภาจีนอยู่ด้วยนั้นสืบเนื่องมาจากชุมชนคาทอลิกแห่งนี้มีเชื้อสายจีนเป็นส่วนใหญ่ ดังที่ปรากฏศาลเจ้าประจำชุมชนริมคลองมากมาย


อาสนวิหารแม่พระบังเกิด ลักษณะเด่นคือเป็นอาคารหลังสีขาว ฟ้า มียอดแหลมด้วยรูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบกอธิก


อาสนวิหารแม่พระบังเกิดใช้เวลาก่อสร้างถึง 6 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์


อนุสรณ์บาทหลวงเปาโล ซัลมอน มิชชันนารีชาวฝรั่งเศสผู้สร้างอาสนวิหารแม่พระบังเกิด 


การเดินทางไปจังหวัดสมุทรสงคราม

             - รถยนต์ (Car) จากกรุงเทพมหานครไปจังหวัดสมุทรสงคราม มีระยะทาง 83 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที

             - รถไฟ (Train) จากสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ไปจังหวัดสมุทรสงคราม ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง


การเดินทางไปอาสนวิหารแม่พระบังเกิด

             อาสนวิหารแม่พระบังเกิด ตั้งอยู่ที่ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ห่างจากสถานีขนส่งประจำจังหวัด 17 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 24 นาที


เวลาทำการเปิด – ปิด

             เปิดให้เข้าชม วันพุธ-อาทิตย์ เวลา 09.00 - 16.00 น.


บรรยากาศส่วนต่างๆ รอบๆ อาสนวิหาร


อัตราค่าเข้าชม

            ไม่เสียค่าเข้าชม


อนุสรณ์ ฯพณฯ กาเยตาโน ปาชอตตี ซ.ด.บ. ผู้นำธรรมทูตซาเลเซียนกลุ่มแรกที่เข้ามาในประเทศไทย


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวอาสนวิหารแม่พระบังเกิด

             ชมสถาปัยตยกรรมที่งดงามแบบกอธิกของอาสนวิหารแม่พระบังเกิด  และชมภาพกระจกสี Stain Glass แสดงประวัติของพระแม่มารีย์ที่ครบสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย


อนุสรณ์คุณพ่อนิโคราส บุญเกิด กฤษบำรุง ผู้ซึ่งเป็นพระสงฆ์และมรณสักขี  


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             สามารถเดินทางไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี


อาสนวิหารพระแม่บังเกิดได้ชื่อว่าเป็นวัดที่สวยงามและเก่าแก่ที่สุดของชาวคาทอลิกในประเทศไทย 


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้

             การเข้าชมอาสนวิหารแม่พระบังเกิดควรติดต่อขออนุญาตจากบาทหลวง เข้าชมด้านในด้วยความสงบและสำรวม ผู้หญิงควรใส่กระโปรงหรือชุดสุภาพ


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม อาสนวิหารแม่พระบังเกิด สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         อาสนวิหารแม่พระบังเกิด จังหวัดสมุทรสงคราม ประเทศไทย

                         (Nativity of Our Lady Cathedral, Samutsongkhram, Thailand)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม     

                         เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดให้เข้าชม วันพุธ-อาทิตย์ เวลา 09.00 - 16.00 น.

                         ตั้งอยู่ที่ : ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม

                         โทรศัพท์ : (+66) 03476 1347      

                         เว็บไซต์ : -

                         ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                       ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรสงคราม https://samutsongkhram.mots.go.th/

                                       ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดสมุทรสงคราม https://www.dlt.go.th/site/samutsongkhram/m-about/2916/

                                       ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม (Muang Photharam Municipal Public Park) เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ริมเขื่อนแม่น้ำแม่กลองในอำเภอโพธาราม ภายในสวนมีบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ และยังมีส่วนของจุดชมวิว สนามหญ้า ทางวิ่งออกกำลังกาย ลานกีฬา เครื่องออกกำลังกาย และสนามเด็กเล่น สวนสาธาณะแห่งนี้เหมาะกับคนทุกวัยที่ต้องการมาเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และชมวิวแม่น้ำแม่กลองที่เป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดราชบุรี และที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานกิจกรรมและงานประเพณีต่างๆ ของเมืองโพธารามอีกด้วย

อ่านต่อ

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี (Ratchaburi National Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์จากการใช้ศาลากลางหลังเก่าของจังหวัดราชบุรีมาก่อตั้งขึ้นเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อาคารแห่งนี้เป็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและอยู่คู่กับจังหวัดราชบุรีมาอย่างนาวนาน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติอีกด้วย ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรีมีนิทรรศการท้องถิ่นที่น่าสนใจของจังหวัดราชบุรีให้เที่ยวชม โดยจัดแสดงเรื่องราวทางสภาพภูมิศาสตร์และธรรมชาติวิทยา ประวัติศาสตร์และโบราณคดี ชนเผ่าชาติพันธุ์วิทยา มรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม และบุคคลสำคัญ ไปจนถึงคลังโบราณวัตถุที่หาชมได้ยากตั้งแต่เครื่องปั้นดินเผาไปจนถึงพระพุทธรูปในยุคต่างๆ

อ่านต่อ

น้ำตกเก้าชั้น จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

น้ำตกเก้าชั้น (Kaew Chan Waterfalls) เป็นน้ำตกกลางหุบเขาที่มีความสูง 9 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป ชั้นที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดคือบริเวณชั้นที่ 6 น้ำตกเก้าชั้นสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะมีน้ำไหลทุกฤดูกาล โดยจะมีน้ำมากที่สุดและสวยที่สุดในช่วงฤดูฝน เพราะจะมองเห็นสายน้ำตกสีขาวขนาดใหญ่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงท่ามกลางป่าไม้อันเขียวขจีและเสียงของน้ำตก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งของอำเภอสวนผึ้ง

อ่านต่อ

ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก (Lao Tuk Luck Floating Market) เป็นตลาดน้ำแห่งแรกของจังหวัดราชบุรีที่ก่อตั้งขึ้นมาก่อนตลาดน้ำดำเนินสะดวก มีลักษณะเป็นตลาดน้ำขนาดย่อมที่ตั้งอยู่บนเรือนไม้ริมน้ำที่ชุมชนชาวไทย-จีนอาศัยอยู่ ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลักมีบรรยากาศเรียบง่ายและคลาสสิก แต่มีความพลุกพล่านน้อยกว่าตลาดน้ำดำเนินสะดวก การเดินทางก็แสนง่าย แค่เพียงแค่ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำจากฝั่งตลาดน้ำดำเนินสะดวกมายังฝั่งตรงข้าม ก็จะได้พบกับเรือนไม้โบราณของชุมชนชาวจีนและลำคลองที่ตัดผ่าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอาหารทานง่ายอร่อยๆ ให้เลือกมากมาย และมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เก็บความประทับใจ นอกจากนี้ในวันหยุดจะมีเสียงดนตรียุค 80 คลอเคล้าสร้างความเพลิดเพลินในการเดินตลาดอีกด้วย

อ่านต่อ

ตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

ตลาดน้ำอโยธยา (Ayothaya Floating Market) ตลาดน้ำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองเก่าแห่งนี้

อ่านต่อ

วัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

วัดราชบูรณะ (Wat Ratchaburana) อนุสรณ์สถานแห่งการแย่งชิงราชบัลลังค์ เป็นอีกหนึ่งในวัดที่ใหญ่ และเก่าแก่มากที่สุดในพระนครศรีอยุธยา สร้างโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือ เจ้าสามพระยา เมื่อปี พ.ศ. 1967

อ่านต่อ

วัดมเหยงคณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

วัดมเหยงคณ์ (Wat Mahaeyong) อดีตพระอารามหลวง และกลายเป็นวัดร้างไปภายหลังกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อ พ.ศ. 2310 ปัจจุบันวัดแห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นสถานปฏิบัติธรรม ใจกลางโบราณสถานที่เก่าแก่ของอยุธยาอีกด้วย

อ่านต่อ

10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

จังหวัดนครสวรรค์ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนบน เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เป็นแหล่งเกษตรกรรมของไทย อีกทั้งยังได้รับสมญานามว่าเป็นประตูสู่ภาคเหนือ และเป็นพื้นที่ต้นกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ จังหวัดนครสวรรค์จึงมีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายโดยเฉพาะวัดและตลาดที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของชาวนครสวรรค์ได้เป็นอย่างดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดนครสวรรค์มาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

หอชมเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

หอชมเมืองนครสวรรค์ (Nakhon Sawan Observation Tower) เป็นหอชมเมืองที่ตั้งอยู่บนเขาคีรีวงศ์ จุดชมวิวจะตั้งอยู่บริเวณชั้น 10 ของหอชมเมืองซึ่งสามารถชมวิวเมืองนครสวรรค์จากมุมสูงได้โดยรอบ และมองเห็นทิวทัศน์ของธรรมชาติที่อยู่ไกลออกไปได้อย่างเต็มตา นอกจากนี้บริเวณชั้น 1 ยังมีร้านขายของที่ระลึกซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นให้เลือกซื้ออีกด้วย หอชมเมืองนครสวรรค์จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองปากน้ำโพที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

พาสาน อาคารสัญลักษณ์ต้นน้ำเจ้าพระยา จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

พาสาน อาคารสัญลักษณ์ต้นน้ำเจ้าพระยา (Pasaan, The Headwaters of the Chao Phraya River Symbol Building) ตั้งอยู่บริเวณแหลมเกาะยม ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำปิง วัง ยม น่านมาบรรจบกันและก่อกำเนิดเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา พาสานถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของนครสวรรค์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชม เดินเล่น ชมวิว ดูพระอาทิตย์ตกดิน และถ่ายภาพความสวยงามของอาคารและทิวทัศน์แม่น้ำโดยรอบกันอย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ