พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง จังหวัดขอนแก่น ประเทศไทย

  • อ่าน (8,586)
  • ByWebmaster
  • 12:01:59 | 28 ต.ค. 2563

พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง จังหวัดขอนแก่น ประเทศไทย

Phuwiang Dinosaur Museum, Khon Kaen Province, Thailand

             พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง (Phuwiang Dinosaur Museum) ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดขอนแก่นที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย ที่มีทั้งความเพลิดเพลิน น่าตื่นตาตื่นใจ และความรู้มอบให้ในขณะเดียวกัน


ประวัติ

             พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง ตั้งอยู่ที่อำเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2544 เน้นการจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับซากดึกดำบรรพ์และเรื่องราวในพ.ศ.2519 ซึ่งเป็นปีที่ประเทศไทยได้มีการค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์เป็นครั้งแรกบริเวณห้วยประตูตีหมาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาในภูเวียง

             โดยฟอสซิลที่พบนั้นมีความกว้างยาวประมาณ 1 ฟุต จากการศึกษาวิจัยพบว่ามีฟอสซิลชิ้นนี้มีลักษณะใกล้เคียงกับซอโรพอด (Sauropods) ไดโนเสาร์กินพืชขนาดใหญ่ ซึ่งมีขนาดใหญ่ยาวประมาณ 15 เมตร และจากการตรวจสอบพบอีกว่าว่าเป็นส่วนปลายล่างสุดของกระดูกต้นขาของไดโนเสาร์จำพวกกินพืช

             ซึ่งจากการค้นพบในครั้งนี้เองที่นำไปสู่การเริ่มต้นการสำรวจไดโนเสาร์ที่ภูเวียงอย่างต่อเนื่องและจริงจังในปี พ.ศ. 2524 และทำให้พบกระดูกไดโนเสาร์ชนิดกินพืชขนาดใหญ่ ฟันจระเข้ กระดองเต่า ฟันและเกล็ดปลาโบราณในปีเดียวกัน

             การค้นพบแหล่งไดโนเสาร์บนเทือกเขาภูเวียง ถือเป็นการค้นพบที่สร้างชื่อเสียงให้กับเทือกเขาภูเวียงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งไดโนเสาร์ซอโรพอดสกุลและชนิดใหม่จากภูเวียงที่ชื่อว่า ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรนี ที่ใช้ชื่อภูเวียงเป็นชื่อสกุล และใช้นามาภิไธยของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ขณะนั้น) เป็นชื่อชนิดนั้น ยิ่งทำให้ผู้คนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศกล่าวขวัญกันอย่างกว้างขวาง ทำให้หน่วยงานภาครัฐหลายหน่วยงานมีความเห็นว่าสมควรก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียงขึ้น

             ภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ประกอบด้วยส่วนต่างๆ หลายส่วนด้วยกัน ทั้งส่วนสำรวจและวิจัย ส่วนอนุรักษ์และทำเทียมชิ้นส่วนตัวอย่างซากดึกดำบรรพ์ ส่วนคลังตัวอย่าง ห้องสมุด ส่วนบริหารจัดการ และพื้นที่บริการไม่ว่าจะเป็นโรงอาหาร ร้านขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่ม ร้านขายของที่ระลึก รวมถึงยังมีห้องประชุมขนาด 140 ที่นั่งด้วย ทั้งนี้ส่วนที่เป็นไฮไลต์สำคัญที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คงจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากส่วนนิทรรศการถาวรอันน่าตื่นตาตื่นใจ โดยนิทรรศการภายในพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียงแบ่งออกเป็น 5 โซนด้วยกัน ได้แก่

             โซน 1 กำเนิดจักรวาล วิวัฒนาการสิ่งมีชีวิต และเรื่องราวของไดโนเสาร์ทั่วโลก

             โซน 2 ไดโนเสาร์ในแหล่งเทือกเขาภูเวียง เป็นโซนที่นำเสนอซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์ชิ้นแรกในประเทศไทย รวมถึงไดโนเสาร์ที่พบในประเทศไทยโดยเฉพาะที่พบในแหล่งขุดค้นภูเวียง

             โซน 3 ห้องปฏิบัติการด้านซากดึกดำบรรพ์ ธรณีวิทยาและซากดึกดำบรรพ์ในจังหวัดขอนแก่น โดยผู้เข้าสมสามารถมองเห็นห้องปฏิบัติการของนักธรณีวิทยาผ่านกระจกใส

             โซน 4 สวนไดโนเสาร์ เป็นหนึ่งในโซนที่ได้รับความสนใจมากที่สุด เพราะตกแต่งเป็นสวนป่ายุคดึกดำบรรพ์ มีหุ่นไดโนเสาร์ขนาดเท่าตัวจริงยืนจังก้าอยู่ภายในสวน สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยวที่เข้าเที่ยวชมโดยเฉพาะเด็กๆ ที่จะตื่นเต้นกันมาก

             โซน 5 ยุคเทอร์เชียรี การใช้ประโยชน์หินแร่ และห้องเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี


พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง


บรรยากาศนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียงอย่างคึกคัก


การเดินทางไปจังหวัดขอนแก่น

             - เครื่องบิน (Flight) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปสนามบินจังหวัดขอนแก่นใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง  

             - รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดขอนแก่น มีระยะทาง 450 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง   

             - รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดขอนแก่น ใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 7 ชั่วโมง 30 นาที ทั้งนี้อาจใช้เวลานานกว่านี้ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ


การเดินทางไป
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง

             พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง ตั้งอยู่ที่อำเภอเวียงเก่า อยู่ห่างจากตัวจังหวัดขอนแก่นประมาณ 90 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที ไม่มีรถสาธารณะไปถึง นักท่องเที่ยวต้องเดินทางโดยรถส่วนตัวเท่านั้น


เวลาทำการเปิด – ปิด

             เปิดให้บริการวันอังคาร–วันอาทิตย์ เวลา 9.00 น. - 17.00 น.

             หยุดทุกวันจันทร์ ยกเว้นวันจันทร์ที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์เปิดให้บริการปกติ


บรรยากาศภายในพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงชิ้นส่วนกระดูกและข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับไดโนเสาร์ไว้อย่างน่าสนใจ


หุ่นไดโนเสาร์สไปโนซอรัส (Spinosaurus) เป็นไดโนเสาร์กินเนื้อที่ใหญ่ที่สุดในโลก


บรรยากาศป่ายุคดึกดำบรรพ์ภายในบริเวณโซนสวนไดเสาร์


อัตราค่าเข้าชม

             คนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท

             ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาท


ส่วนจัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับหินยุคต่างๆ ในประเทศไทย


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง

             โซนสวนไดโนเสาร์ ซึ่งตกแต่งเป็นสวนป่ายุคดึกดำบรรพ์ มีหุ่นไดโนเสาร์ขนาดเท่าตัวจริงยืนจังก้าอยู่ภายในสวนให้นักท่องเที่ยวได้ชมและถ่ายรูปกันอย่างเพลิดเพลิน   


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี


ด้านนอกอาคารจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมายืนถ่ายรูปกับหัวไดโนเสาร์เป็นที่ระลึก


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้

             เทอเชียรี (Tertiary) เป็นยุคแรกของมหายุคเซโนโซอิก อยู่ในช่วง 65 - 1.8 ล้านปีก่อน แผ่นธรณีอเมริกาเคลื่อนเข้าหากัน และแผ่นธรณีอินเดียเคลื่อนที่เข้าหาแผ่นธรณีเอเชียทำให้เกิดเทือกเขาหิมาลัยและที่ราบสูงทิเบต


หุ่นไดโนเสาร์พันธุ์ต่างๆ ที่อยู่บริเวณสวนด้านนอกอาคารพิพิธภัณฑ์


สวนหินพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง จังหวัดขอนแก่น ประเทศไทย

                         (Phuwiang Dinosaur Museum, Khon Kaen Province, Thailand)

                         ระดับความนิยม :

                         อัตราค่าเข้าชม : คนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาท   

                         เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดให้บริการวันอังคาร–วันอาทิตย์ เวลา 9.00 น. - 17.00 น.

                                                          หยุดทุกวันจันทร์

                         ตั้งอยู่ที่ : ตำบลในเมือง อำเภอเวียงเก่า จ.ขอนแก่น

                         โทรศัพท์ : (+66) 4343 8204        

                         เว็บไซต์ : http://www.dmr.go.th/main.php?filename=Museum_PW

                         ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com

                                       ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น https://khonkaen.mots.go.th

                                       ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดขอนแก่น http://www.khonkaen.go.th/khonkaen6/main.php?cont=journey

                                       ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว

อ่านต่อ

ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน

อ่านต่อ

วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย

วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ