ผาชมตะวัน จังหวัดขอนแก่น ประเทศไทย

  • อ่าน (5,428)
  • ByWebmaster
  • 11:38:32 | 28 ต.ค. 2563

ผาชมตะวัน จังหวัดขอนแก่น ประเทศไทย

Pha Chom Tawan, Khon Kaen Province, Thailand

             ผาชมตะวัน (Pha Chom Tawan) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดขอนแก่น มีความโดดเด่นในเรื่องของการเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่มีทัศนียภาพสวยงาม ทั้งบางช่วงยังมีทะเลหมอกที่น่าตื่นตาตื่นใจให้ได้ชมด้วย


ประวัติ

             ผาชมตะวันตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูเวียง อำเภอเวียงเก่า (อุทยานแห่งชาติภูเวียง ครอบคลุมพื้นที่ในอำเภอภูเวียง อำเภอชุมแพ และอำเภอสีชมพู) ผาแห่งนี้มีลักษณะเป็นหน้าผาหินที่เกิดจากการยกตัวของแผ่นเปลือกโลกและรอยเลื่อนทำให้เกิดเป็นหน้าผาสูงชันตลอดแนวเทือกเขา หินที่อยู่ในบริเวณนี้มีอายุราว 140 ล้านปีมาแล้ว ซึ่งเป็นหินในหมวดหินพระวิหาร อยู่ในยุคครีเทเชียส (Cretaceous) ซึ่งเป็นยุคที่อยู่ถัดจากยุคจูแรสซิก (Jurassic) เรียกว่าชื่อก็บ่งบอกถึงความเก่าแก่ดึกดำบรรพ์เกือบพอๆ กับยุคไดโนเสาร์เลยทีเดียว

             โดยจุดที่นักท่องเที่ยวมาชมวิวจะอยู่บริเวณเทือกเขาด้านทิศตะวันออกของพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูเวียง เป็นจุดที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามเบื้องล่าง รวมไปถึงมองเห็นอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ที่อยู่ไกลออกไปด้วย ทว่าไฮไลต์สำคัญที่สุดก็คือการมารอชมความงดงามของพระอาทิตย์ในยามเช้าที่โผล่พ้นจากขอบฟ้าที่ผาชมตะวันแห่งนี้ ที่เรียกได้ว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าที่สวยงามอีกจุดหนึ่งของจังหวัดขอนแก่น และหากโชคดีอาจมีโอกาสได้ชมความสวยงามของทะเลหมอกสวยๆ ไปพร้อมๆ กัน


ผาชมตะเป็นเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูเวียง


ป้ายแสดงข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานธรณีขอนแก่น และอุทยานแห่งชาติภูเวียง 


การเดินทางไปจังหวัดขอนแก่น

             - เครื่องบิน (Flight) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปสนามบินจังหวัดขอนแก่นใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 

             - รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดขอนแก่น มีระยะทาง 450 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง  

             - รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดขอนแก่น ใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 7 ชั่วโมง 30 นาที ทั้งนี้อาจใช้เวลานานกว่านี้ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ  


การเดินทางไปผาชมตะวัน

             ผาชมตะวัน ตั้งอยู่ที่อำเภอเวียงเก่า อยู่ห่างจากตัวจังหวัดขอนแก่นประมาณ 90 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที ไม่มีรถสาธารณะไปถึง นักท่องเที่ยวต้องเดินทางโดยรถส่วนตัวเท่านั้น


เวลาทำการเปิด – ปิด

             เปิดทำการทุกวัน เวลา 8.30 – 16.30 น.


ทัศนียภาพที่มองจากผาชมตะวัน


อัตราค่าเข้าชม

             อัตราเข้าชมของอุทยานแห่งชาติภูเวียง

                   - คนไทย ผู้ใหญ่  40 บาท เด็ก 20 บาท

                   - ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวผาชมตะวัน

             หากมีโอกาสไปกางเต็นท์ค้างคืนที่อุทยานฯ สิ่งที่จะพลาดไปไม่ได้ก็คือรอชมพระอาทิตย์อันสวยงามขึ้นในยามเช้าที่ผาชมตะวันแห่งนี้


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             ตลอดทั้งปี


ต้นไม้ฟอร์มสวยๆ ที่ยืนต้นอยู่บริเวณหน้าผา


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้

             สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปกางเต็นท์เพื่อรอชมพระอาทิตย์ขึ้น สามารถกางเต็นต์ได้ที่ลานกางเต็นท์ตาดฟ้า โดยทางอุทยานมีบริการให้เช่าเต็นท์ และมีห้องน้ำบริการ แต่ไม่มีร้านอาหาร นักท่องเที่ยว​ต้องเตรียมไปเอง


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม ผาชมตะวัน สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         ผาชมตะวัน จังหวัดขอนแก่น ประเทศไทย

                         (Pha Chom Tawan, Khon Kaen Province, Thailand)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : คนไทย ผู้ใหญ่  40 บาท เด็ก 20 บาท ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท    

                         เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทำการทุกวัน เวลา 8.30 – 16.30 น.

                         ตั้งอยู่ที่ : อุทยานแห่งชาติภูเวียง ต.ในเมือง อ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น

                         โทรศัพท์ : (+66) 0 4335 8073     

                         เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Phuwiangnp71/

                         ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com

                                       ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น https://khonkaen.mots.go.th

                                       ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดขอนแก่น http://www.khonkaen.go.th/khonkaen6/main.php?cont=journey

                                       ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว

อ่านต่อ

ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน

อ่านต่อ

วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย

วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ