เที่ยว 9 วัด อยุธยา : ไหว้พระเสริมมงคล ยลพุทธศิลป์ถิ่นกรุงเก่า

  • อ่าน (19,864)
  • ByWebmaster
  • 15:17:44 | 18 ต.ค. 2565

เที่ยว 9 วัด อยุธยา

ไหว้พระเสริมมงคล ยลพุทธศิลป์ถิ่นกรุงเก่า

             จังหวัดพระนครศรีอยุธยาราชเป็นธานีเก่าที่เคยเป็นศูนย์กลางของสยามประเทศมายาวนานถึง 417 ปี ปัจจุบันได้ชื่อว่าเป็นเมืองประวัติศาสตร์และยังเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ โดยเฉพาะทริปไหว้พระและชมโบราณสถานสำคัญต่างๆ นั้นถือเป็นกิจกรรมยอดนิยมของการท่องเที่ยวอยุธยาเลยทีเดียว วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวมวัดจำนวน 9 แห่งที่เป็นหนึ่งในวัดสำคัญของอยุธยามาฝากทุกท่าน โดยเราจะเดินทางไปตามเส้นทางที่ต่อเนื่องกันเพื่อความสะดวกและเพื่อที่จะได้ใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าที่สุดอีกด้วย


แผนที่เที่ยว 9 วัดอยุธยา ไหว้พระเสริมมงคล ยลพุทธศิลป์ถิ่นกรุงเก่า


1. วัดใหญ่ชัยมงคล

             วัดใหญ่ชัยมงคล (Wat Yai Chai Mongkhon) ตั้งอยู่ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา บริเวณนอกเกาะเมือง ภายในวัดใหญ่ชัยมงคลเป็นที่ตั้งของเจดีย์องค์ใหญ่อายุหลายร้อยปีที่สูงที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจดีย์องค์นี้มีนามว่าเจดีย์ชัยมงคลซึ่งเป็นเจดีย์ที่สันนิษฐานว่าได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะครั้งใหญ่หลังจากทรงรบชนะมังกะยอชวาพระมหาอุปราชาของหงษาวดี นักท่องเที่ยวนิยมเดินขึ้นไปสักการะบริเวณด้านบนองค์เจดีย์ และเดินชมวิวเมืองอยุธยาบริเวณระเบียงด้านบน ซึ่งนอกจากองค์เจดีย์ชัยมงคลแล้วนักท่องเที่ยวก็ยังนิยมเข้าไปกราบสักการะพระพุทธชัยมงคลที่ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถ รวมถึงองค์พระนอนที่ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารพระพุทธไสยาสน์ และศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 

การเดินทาง : จาก กรุงเทพฯ ไปยัง วัดใหญ่ชัยมงคล มีระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07:00 น. – 17:00 น.

พิกัด GPS : 14°20'44.1"N 100°35'32.8"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดใหญ่ชัยมงคล ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=103


2. วัดพนัญเชิงวรวิหาร

             วัดพนัญเชิงวรวิหาร (Wat Phanan Choeng Worawihan) เป็นวัดที่ตั้งอยู่ตำบลคลองสวนพลูเช่นกัน วัดแห่งนี้เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร เอกลักษณ์แห่งนี้คือ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อซำปอกง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา องค์พระพุทธรูปนี้มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยที่มีขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 20 เมตร สูงประมาณ 19 เมตร ถือเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่แรกสร้างกรุง นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญอีกหลายอย่างที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะไปสักการะขอพร เช่น พระพุทธรูปทองคำสามองค์ในพระอุโบสถซึ่งเป็นพระพุทธรูปโบราณในสมัยสุโขทัย และศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมากที่นิยมมาขอพรเรื่องความรัก

การเดินทาง : จาก วัดใหญ่ชัยมงคล ไปยัง วัดพนัญเชิงวรวิหาร มีระยะทางประมาณ 1.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07:00 น. – 17:00 น.

พิกัด GPS : 14°20'39.1"N 100°34'44.0"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดพนัญเชิงวรวิหาร ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=98


3. วัดมหาธาตุ

             วัดมหาธาตุ (Wat Mahathat) เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในเกาะเมือง ในพื้นที่ของตำบลท่าวาสุกรี ภายในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีกลุ่มโบราณสถานสำคัญอยู่หลายแห่ง โดยวัดมหาธาตุก็เป็นหนึ่งในนั้น เนื่องจากในอดีตวัดมหาธาตุเป็นวัดที่ประดิษฐานพระบรมธาตุใจกลางพระนคร และเป็นที่พำนักของสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายคามวาสีอีกด้วย จึงเป็นวัดที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งนอกจากเราจะได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดนี้เพื่อความเป็นสิริมงคลกันแล้ว เรายังสามารถเดินชมโบราณสถานที่ยังคงเหลือเค้าโครงความยิ่งใหญ่ของสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ให้ได้เห็น เช่น พระปรางค์องค์ใหญ่ พระปรางค์องค์กลาง พระปรางค์องค์เล็ก เจดีย์แปดเหลี่ยม และวิหาร นอกจากนี้ อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือ เศียรพระหน้าวิหารเล็ก ที่มีลักษณะเป็นเศียรพระที่ถูกปกคลุมด้วยรากต้นไม้ขนาดใหญ่ที่สร้างความอัศจรรย์ใจให้กับผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมาก

การเดินทาง : จาก วัดพนัญเชิงวรวิหาร ไปยัง วัดมหาธาตุ มีระยะทางประมาณ 4.2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:00 น. – 18:30 น.

พิกัด GPS : 14°21'25.1"N 100°34'03.0"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดมหาธาตุ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=101


4. วัดพระศรีสรรเพชญ์

             วัดพระศรีสรรเพชญ์ (Wat Phra Si Sanphet) ตั้งอยู่ที่ตำบลประตูชัย เป็นวัดอีกแห่งหนึ่งภายในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาซึ่งเป็นโบราณสถานสำคัญ เพราะในอดีตนั้นวัดแห่งนี้มีฐานะเป็นวัดหลวงของกรุงศรีอยุธยา ความยิ่งใหญ่ของวัดนี้จึงเทียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดารามของกรุงเทพมหานครในยุครัตนโกสินทร์นั่นเอง สิ่งที่โดดเด่นที่สุดภายในวัดแห่งนี้ก็คือ องค์พระเจดีย์สามองค์ ซึ่งมีลักษณะเป็นเจดีย์ใหญ่ทรงลังกาจำนวนสามองค์ที่ทอดตัวเรียงกันจากทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตก ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์กของวัดพระศรีสรรเพชญ์ และเมื่อเราสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดเสร็จแล้วก็ยังสามารถเดินชมความงดงามทางสถาปัตยกรรมของกลุ่มโบราณสถานอื่นๆ ที่อยู่โดยรอบได้อีกด้วย เช่น อุโบสถ วิหาร พระพุทธรูปเก่าแก่ และแนวกำแพงเก่า

การเดินทาง : จาก วัดมหาธาตุ ไปยัง วัดพระศรีสรรเพชญ์ มีระยะทางประมาณ  1.3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:00 น. – 18:30 น.

พิกัด GPS : 14°21'20.8"N 100°33'29.3"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=100


5. วิหารพระมงคลบพิตร

             วิหารพระมงคลบพิตร (Wihan Phra Mongkhon Bophit) ตั้งอยู่ใกล้กับวัดพระศรีสรรเพชญ์ในระยะที่เดินถึงกันได้ วิหารพระมงลบพิตรมีฐานะเป็นวัดอารามหลวง เอกลักษณ์ของวัดแห่งนี้คือ วิหารเก่าแก่ในเขตกำแพงเมืองที่ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ไว้เป็นอย่างดีมาหลายยุคหลายสมัย ภายในบริเวณมีทางเดินทอดยาวเข้าสู่วิหารสีขาว นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมเข้าไปกราบสักการะพระพุทธรูปพระมงคลบพิตร ซึ่งเป็นพระประธานที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวเมืองมาอย่างช้านาน โดยพระมงคลบพิตรนี้เป็นพระพุทธรูปโบราณปางมารวิชัยองค์ใหญ่ที่สร้างขึ้นด้วยศิลปะสุโขทัยในสมัยสมเด็จพระไชยราชา มีความสูงประมาณ 12.54 เมตร หน้าตักกว้าง 9.55 เมตร นอกจากนี้ภายในบริเวณยังมีจุดบริการนั่งช้างชมเมืองเก่าอีกด้วย

การเดินทาง : จาก วัดพระศรีสรรเพชญ์ ไปยัง วิหารพระมงคลบพิตร มีระยะทางประมาณ 300 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07:00 น. – 17:00 น.

พิกัด GPS : 14°21'17.8"N 100°33'27.9"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วิหารพระมงคลบพิตร ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=175


6. วัดธรรมิกราช

             วัดธรรมิกราช (Wat Thammikarat) ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าวาสุกี ใกล้กับพระราชวังโบราณในพื้นที่ของเกาะเมือง สันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นก่อนที่จะสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการพบเศียรพระธรรมิกราชซึ่งเป็นเศียรพระพุทธรูปสำริดที่มีขนาดใหญ่สุด และมีความสำคัญมากที่สุดองค์หนึ่งในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมเข้าไปกราบสักการะองค์พระนอนภายในวิหารเพื่อความเป็นสิริมงคล และเดินชมโบราณสถานสำคัญต่างๆ อย่างเช่น วิหารเก้าห้อง พระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเจดีย์ทรงกลมที่บริเวณฐานประดับด้วยปูนปั้นรูปสิงห์ล้อมที่หาชมได้ยาก เพราะในสมัยโบราณนิยมสร้างเป็นรูปปั้นช้างล้อมมากกว่า      

การเดินทาง : จาก วิหารพระมงคลบพิตร ไปยัง วัดธรรมิกราช มีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:00 น. – 17:00 น.

พิกัด GPS : 14°21'33.9"N 100°33'41.4"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดธรรมิกราช ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=1019


7. วัดหน้าพระเมรุ

             วัดหน้าพระเมรุ (Wat Na Phra Meru) หรือวัดหน้าพระเมรุราชิการามวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ตำบลลุมพลี บริเวณนอกเกาะเมือง ทางด้านคูเมืองฝั่งเหนือ วัดหน้าพระเมรุเป็นวัดแห่งเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ถูกทำลายเมื่อตอนที่เสียกรุงครั้งที่ 2 และยังมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวนิยมเข้าไปกราบสักการะพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ภายในพระอุโบสถเพื่อความเป็นสิริมงคลกันก่อน หลังจากนั้นสามารถเดินชมความงดงามของสถาปัตกรรมและศิลปกรรมภายในวัด เช่น บริเวณหน้าบันของพระอุโบสถที่แกะสลักเป็นรูปนารายณ์ทรงครุฑและเหล่าเทวดา และลูกกรงมะหวดเหลี่ยมบริเวณผนังของวิหารที่ใช้ศิลปะอยุธยาตอนต้น

การเดินทาง : จาก วัดธรรมิกราช ไปยัง วัดหน้าพระเมรุ มีระยะทางประมาณ  650 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07:00 น. – 17:00 น.

พิกัด GPS : 14°21'45.2"N 100°33'31.6"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดหน้าพระเมรุ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=102


8. วัดภูเขาทอง

             วัดภูเขาทอง (Wat Phu Khao Thong) ตั้งอยู่ตำบลภูเขาทอง วัดแห่งนี้เป็นวัดโบราณอีกแห่งหนึ่งของอยุธยา สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระราเมศวร มีอายุราวหกร้อยปี ชื่อของวัดตั้งตามเอกลักษณ์ของวัดแห่งนี้ซึ่งก็คือมหาเจดีย์สีขาวที่มีนามว่า เจดีย์ภูเขาทอง องค์เจดีย์มีความสูงประมาณ 90 เมตร ตั้งอยู่บริเวณกลางทุ่ง ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากในระยะไกล สามารถเดินขึ้นไปกราบสักการะสิงศักดิ์สิทธิ์และเดินชมทัศนียภาพของท้องทุ่งนาจากบริเวณระเบียงแต่ละชั้นได้โดยรอบ นอกจากนี้ยังสามารถแวะสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงม้าบริเวณหน้าวัดได้อีกด้วย

การเดินทาง : จาก วัดหน้าพระเมรุ ไปยัง วัดภูเขาทอง มีระยะทางประมาณ 4.4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07:00 น. – 17:00 น.

พิกัด GPS : 14°22'08.8"N 100°32'23.1"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดภูเขาทอง ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=260


9. วัดไชยวัฒนาราม

             วัดไชยวัฒนาราม (Wat Chaiwatthanaram) ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านป้อม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา วัดแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งวัดสำคัญของพระนครศรีอยุธยา โดยจะเห็นปราฏอยู่ในหลายฉากของละครและภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์หลายเรื่อง วัดไชยวัฒนารามเป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยาตอนปลายที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เพื่ออุทิศผลบุญให้กับพระราชมารดาของพระองค์ และเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะหลังรบชนะเขมร ด้วยเหตุนี้สถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของวัดส่วนหนึ่งจึงมีรูปแบบมาจากปราสาทนครวัดนั่นเอง โดยหลังจากสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลกันแล้ว ก็ไม่ควรพลาดเดินชมโบราณสถานสำคัญต่างๆ เช่น พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ และพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยที่เรียงรายอยู่ตามแนวระเบียงคต นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการล่องเรือชมวิวได้อีกด้วย โดยเฉพาะในช่วงใกล้ค่ำก็จะได้ชมบรรยากาศของวัดไชยวัฒนารามที่สวยงามไปอีกแบบหนึ่ง

การเดินทาง : จาก วัดภูเขาทอง ไปยัง วัดไชยวัฒนาราม มีระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07:00 น. – 17:00 น.

พิกัด GPS : 14°20'34.9"N 100°32'30.7"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดไชยวัฒนาราม ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=87


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
: เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com

                            เว็บไซต์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา https://www.ayutthaya.go.th

                            การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) https://thai.tourismthailand.org

                            บริการขนส่ง (รถทัวร์ประจำทาง) http://www.busticket.in.th , http://www.thairoute.com

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม (Muang Photharam Municipal Public Park) เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ริมเขื่อนแม่น้ำแม่กลองในอำเภอโพธาราม ภายในสวนมีบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ และยังมีส่วนของจุดชมวิว สนามหญ้า ทางวิ่งออกกำลังกาย ลานกีฬา เครื่องออกกำลังกาย และสนามเด็กเล่น สวนสาธาณะแห่งนี้เหมาะกับคนทุกวัยที่ต้องการมาเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และชมวิวแม่น้ำแม่กลองที่เป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดราชบุรี และที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานกิจกรรมและงานประเพณีต่างๆ ของเมืองโพธารามอีกด้วย

อ่านต่อ

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี (Ratchaburi National Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์จากการใช้ศาลากลางหลังเก่าของจังหวัดราชบุรีมาก่อตั้งขึ้นเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อาคารแห่งนี้เป็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและอยู่คู่กับจังหวัดราชบุรีมาอย่างนาวนาน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติอีกด้วย ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรีมีนิทรรศการท้องถิ่นที่น่าสนใจของจังหวัดราชบุรีให้เที่ยวชม โดยจัดแสดงเรื่องราวทางสภาพภูมิศาสตร์และธรรมชาติวิทยา ประวัติศาสตร์และโบราณคดี ชนเผ่าชาติพันธุ์วิทยา มรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม และบุคคลสำคัญ ไปจนถึงคลังโบราณวัตถุที่หาชมได้ยากตั้งแต่เครื่องปั้นดินเผาไปจนถึงพระพุทธรูปในยุคต่างๆ

อ่านต่อ

น้ำตกเก้าชั้น จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

น้ำตกเก้าชั้น (Kaew Chan Waterfalls) เป็นน้ำตกกลางหุบเขาที่มีความสูง 9 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป ชั้นที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดคือบริเวณชั้นที่ 6 น้ำตกเก้าชั้นสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะมีน้ำไหลทุกฤดูกาล โดยจะมีน้ำมากที่สุดและสวยที่สุดในช่วงฤดูฝน เพราะจะมองเห็นสายน้ำตกสีขาวขนาดใหญ่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงท่ามกลางป่าไม้อันเขียวขจีและเสียงของน้ำตก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งของอำเภอสวนผึ้ง

อ่านต่อ

ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก (Lao Tuk Luck Floating Market) เป็นตลาดน้ำแห่งแรกของจังหวัดราชบุรีที่ก่อตั้งขึ้นมาก่อนตลาดน้ำดำเนินสะดวก มีลักษณะเป็นตลาดน้ำขนาดย่อมที่ตั้งอยู่บนเรือนไม้ริมน้ำที่ชุมชนชาวไทย-จีนอาศัยอยู่ ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลักมีบรรยากาศเรียบง่ายและคลาสสิก แต่มีความพลุกพล่านน้อยกว่าตลาดน้ำดำเนินสะดวก การเดินทางก็แสนง่าย แค่เพียงแค่ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำจากฝั่งตลาดน้ำดำเนินสะดวกมายังฝั่งตรงข้าม ก็จะได้พบกับเรือนไม้โบราณของชุมชนชาวจีนและลำคลองที่ตัดผ่าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอาหารทานง่ายอร่อยๆ ให้เลือกมากมาย และมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เก็บความประทับใจ นอกจากนี้ในวันหยุดจะมีเสียงดนตรียุค 80 คลอเคล้าสร้างความเพลิดเพลินในการเดินตลาดอีกด้วย

อ่านต่อ

ตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

ตลาดน้ำอโยธยา (Ayothaya Floating Market) ตลาดน้ำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองเก่าแห่งนี้

อ่านต่อ

วัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

วัดราชบูรณะ (Wat Ratchaburana) อนุสรณ์สถานแห่งการแย่งชิงราชบัลลังค์ เป็นอีกหนึ่งในวัดที่ใหญ่ และเก่าแก่มากที่สุดในพระนครศรีอยุธยา สร้างโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือ เจ้าสามพระยา เมื่อปี พ.ศ. 1967

อ่านต่อ

วัดมเหยงคณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

วัดมเหยงคณ์ (Wat Mahaeyong) อดีตพระอารามหลวง และกลายเป็นวัดร้างไปภายหลังกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อ พ.ศ. 2310 ปัจจุบันวัดแห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นสถานปฏิบัติธรรม ใจกลางโบราณสถานที่เก่าแก่ของอยุธยาอีกด้วย

อ่านต่อ

10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

จังหวัดนครสวรรค์ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนบน เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เป็นแหล่งเกษตรกรรมของไทย อีกทั้งยังได้รับสมญานามว่าเป็นประตูสู่ภาคเหนือ และเป็นพื้นที่ต้นกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ จังหวัดนครสวรรค์จึงมีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายโดยเฉพาะวัดและตลาดที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของชาวนครสวรรค์ได้เป็นอย่างดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดนครสวรรค์มาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

หอชมเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

หอชมเมืองนครสวรรค์ (Nakhon Sawan Observation Tower) เป็นหอชมเมืองที่ตั้งอยู่บนเขาคีรีวงศ์ จุดชมวิวจะตั้งอยู่บริเวณชั้น 10 ของหอชมเมืองซึ่งสามารถชมวิวเมืองนครสวรรค์จากมุมสูงได้โดยรอบ และมองเห็นทิวทัศน์ของธรรมชาติที่อยู่ไกลออกไปได้อย่างเต็มตา นอกจากนี้บริเวณชั้น 1 ยังมีร้านขายของที่ระลึกซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นให้เลือกซื้ออีกด้วย หอชมเมืองนครสวรรค์จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองปากน้ำโพที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

พาสาน อาคารสัญลักษณ์ต้นน้ำเจ้าพระยา จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

พาสาน อาคารสัญลักษณ์ต้นน้ำเจ้าพระยา (Pasaan, The Headwaters of the Chao Phraya River Symbol Building) ตั้งอยู่บริเวณแหลมเกาะยม ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำปิง วัง ยม น่านมาบรรจบกันและก่อกำเนิดเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา พาสานถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของนครสวรรค์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชม เดินเล่น ชมวิว ดูพระอาทิตย์ตกดิน และถ่ายภาพความสวยงามของอาคารและทิวทัศน์แม่น้ำโดยรอบกันอย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ