วัดเคนโชจิ เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (3,455)
  • By Webmaster
  • 14:30:35 | 13 มี.ค. 2564

วัดเคนโชจิ เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น

Kenchoji Temple, Kamakura, Japan 


บริเวณด้านหน้าพระอุโบสถของวัดเคนโชจิ

             วัดเคนโชจิ (Kenchoji Temple) เป็นวัดเซนที่มีอายุแปดร้อยกว่าปี มีความเก่าแก่และยิ่งใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของเมืองคามาคุระ และยังเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนาของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย โดยนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้ชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของศาลา หอระฆัง และหอปฏิบัติธรรม รวมถึงสวนสไตล์เซน และพลาดไม่ได้กับการสักการะพระพุทธรูปพระกษิติครรภโพธิสัตว์จิโซ โบซัตสุ (Jizo Bosatsu / Bodhidattava) ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ซึ่งชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าสามารถช่วยปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย


แผนที่ตั้ง วัดเคนโชจิ (Kenchoji Temple) เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น


ประวัติ

             วัดเคนโชจิก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ.1253 โดยโฮโจ โทคิโยริ (Hojo Tokiyori) ซึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ของจักรพรรดิโกะฟุคาคุสะ (Emperor Go-Fukakusa) ร่วมกับปรมาจารย์เซนชาวจีนนามว่าหลันซือ เดาหลง (Lanxi Daolong) ซึ่งมีชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า รันเคอิ โดริว (Rankei Doryu) ที่เดินทางมาพำนักอยู่ที่ญี่ปุ่นตั้งปีค.ศ. 1246 และใช้เวลาเผยแผ่ศาสนาอยู่หลายปีในคิวชูและเกียวโตก่อนที่จะมายังเมืองคามาคุระ โดยเมื่อแรกสร้างเสร็จนั้นเป็นยุคที่รุ่งเรืองของวัดเซนเป็นอย่างมาก จนเกิดการสร้างวัดเครือข่ายขึ้นอีกสี่วัดในละแวกเนินเขาเดียวกัน ได้แก่

  • วัดเอนงะคุจิ (Engaku-ji Temple)
  • วัดจูฟูคุจิ (Jufuku-ji Temple)
  • วัดโจชิจิ (Jochi-ji Temple)
  • วัดโจเมียวจิ (Jomyo-ji Temple)

             โดยวัดเคนโชจิมีฐานะเป็นวัดหลักของวัดเซนทั้งห้า และยังเป็นสถานที่ที่ใช้ฝึกและศึกษาเซนอีกด้วย ความรุ่งเรืองของวัดเซนค่อยๆ ถดถอยลงไปในช่วงยุคกลางของญี่ปุ่นที่มีการเปลี่ยนแปลงของระบอบการปกครอง และกลับมาได้รับการฟื้นฟูด้านศิลปวิทยาขึ้นอีกครั้งในช่วงศตวรรษที่ 19

             ปัจจุบันวัดเคนโชจิ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจในโบราณสถาน พุทธศาสนา และธรรมชาติ โดยสถานที่สำคัญหลักๆ ภายในวัดที่ควรไปเที่ยวชมได้แก่

  • พระอุโบสถบัทสึเดน (Butsuden) ที่ด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปพระกษิติครรภโพธิสัตว์จิโซ โบซัตสุ (Jizo Bosatsu/Bodhidattava)
  • หอปฏิบัติธรรมฮัตโตะ (Hatto) ที่เป็นอาคารไม้เก่าแก่ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปพระโพธิสัตว์คันนอนพันกร หรือพระโพธิสัตว์เซ็นจู คันนอน (Senju Kannon)
  • หอระฆังโบราณซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติญี่ปุ่น
  • สวนสไตล์เซนที่ออกแบบโดยพระอาจารย์มูโสะ โคคุชิ (Muso Kokushi) ซึ่งเป็นพระอาจารย์เซนชื่อดังที่มีความสามารถรอบด้านทั้งในด้านศาสนา บทกวี และการออกแบบสวนในยุคของจักรพรรดิโกะไดโกะ (Emperor Go-Daigo) ช่วงปีค.ศ. 1318-1339

             นอกจากนี้หากมีเวลาเหลือและเป็นวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง สามารถเดินขึ้นไปด้านบนเนินเขาประมาณ 15-20 นาทีก็จะพบกับจุดชมวิวบริเวณศาลเจ้าซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพของวัดเคนโชจิที่อยู่เบื้องล่างและยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจนอีกด้วย


บริเวณประตูโซมง (Somon Gate) หน้าทางเข้าวัดเคนโชจิ


ประตูซันมง (Sanmon Gate) แต่เดิมมีความเชื่อว่าเมื่อก้าวเข้าไปแล้วจะถูกปลดปล่อยจากสิ่งที่ยึดติดทั้งหมด


พระอุโบสถบัทสึเดนของวัดเคนโชจิ


พระพุทธรูปพระกษิติครรภโพธิสัตว์จิโซ โบซัตสุ (Jizo Bosatsu) ที่ประดิษฐานอยู่บริเวณด้านในพระอุโบสถบัทสึเดน


หอปฏิบัติธรรมฮัตโตะ (Hatto) เป็นอาคารไม้ที่มีความเก่าแก่


พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยาที่ประดิษฐานอยู่ภายในหอปฏิบัติธรรมฮัตโตะ


พระพุทธรูปพระโพธิสัตว์คันนอนพันกร หรือเซ็นจู คันนอน (Senju Kannon) ที่ประดิษฐานอยู่ภายในหอปฏิบัติธรรมฮัตโตะ


การเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ (Narita International Airport) ไปยังสถานีรถไฟคามาคุระ (Kamakura Station)

             - รถยนต์ (Car) จาก Narita International Airport ไปยัง Kamakura Station โดยใช้ทางด่วน มีระยะทางประมาณ 125 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที

             - รถไฟ (Train) จาก Narita International Airport เดินมาขึ้นรถไฟที่ Narita Airport Terminal 1 Station ให้เลือกสายรถไฟด่วนที่ตรงไปยังเมืองคามาคุระโดยไม่ต้องเปลี่ยนสถานีเพื่อความสะดวกและประหยัดเวลา จากนั้นลงที่ Kamakura Station ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที

             หมายเหตุ สามารถตรวจสอบข้อมูลสายรถไฟ ตารางเวลา และราคาค่าโดยสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Japan Transit Planner: https://world.jorudan.co.jp/mln/en/?sub_lang=nosub


การเดินทางจากสถานีรถไฟคามาคุระ (Kamakura Station) ไปยังวัดเคนโชจิ (Kenchoji Temple)

             - รถยนต์ (Car) จาก Kamakura Station ไปยัง Kenchoji Temple มีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 นาที

             - รถประจำทาง (Bus) จาก Kamakura Station ขึ้นรถประจำทางสาย N2 ไปลงป้าย Kenchoji แล้วเดินต่อไปยัง Kenchoji Temple โดยมีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 นาที

             - เดิน (Footpath) จาก Kamakura Station ไปยัง Kenchoji Temple มีระยะทางประมาณ 1.8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 23 นาที


เวลาทำการเปิด-ปิด

             เปิดทำการทุกวัน เวลา 8:30 น. - 16:30 น.


หอระฆังของวัดเคนโชจิที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติญี่ปุ่น


อัตราค่าเข้าชม

             ผู้ใหญ๋ราคา 300 เยน

             เด็กอายุไม่เกิน 12 ปีราคา 100 เยน


ประตูคาระมง (Karamon) แต่เดิมเป็นประตูในวังของโชกุนฮิเดทาดะโชกุนคนที่สองของโทคุงาวะ และได้บริจาคให้วัดเคนโชจิในปีค.ศ. 1647 ซึ่งใช้เป็นประตูทางเข้าไปยังหอโฮโจ (Hojo) ที่ใช้ในการฝึกอบรมและพิธีสำคัญต่างๆ


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             ตลอดทั้งปี


ต้นสนจูนิเปอร์แห่งวัดเคนโชจิที่มีอายุราว 750 ปีโดยประมาณ มีความสูงประมาณ 13 เมตร และเส้นรอบวงประมาณ 6.5 เมตร


             นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว Kenchoji Temple สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                   วัดเคนโชจิ เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น

                   (Kenchoji Temple, Kamakura, Japan)

                   ระดับความนิยม : 

                   อัตราค่าเข้าชม: ผู้ใหญ๋ราคา 300 เยน / เด็กอายุไม่เกิน 12 ปีราคา 100 เยน

                   เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 8:30 น. - 16:30 น.

                   ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                   สถานที่ตั้ง : เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น

                   โทรศัพท์ : (+81)-467-22-0981

                   เว็บไซต์ : https://www.kenchoji.com/

                   ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/en/jp/kamakura-shi/218558/current-weather/218558

                                    เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งเมืองคามาคุระ http://www.city.kamakura.kanagawa.jp/visitkamakura/en/

                                    เว็บไซต์รถไฟท้องถิ่น Enoden https://www.enoden.co.jp/en/train/

                                    เว็บไซต์องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น

จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) เป็นเขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ใน ภูมิภาคคันโต ของประเทศญี่ปุ่น จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายเมืองด้วยกัน อาทิ คามาคุระ (Kamakura) โยโกฮาม่า (Yokohama) และฮาโกเน่ (Hakone)…Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ตั้งแต่ชายหาด พระใหญ่ วัดเก่าแก่ ศาลเจ้า ไชน่าทาวน์ สวนสนุก อควาเรียม ทะเลสาบ ไปจนถึงกระเช้าลอยฟ้าและจุดชมภูเขาไฟฟูจิ มาไว้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000

อ่านต่อ

สวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997

อ่านต่อ

เนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย

อ่านต่อ

ทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

ถนนซานถัง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ถนนซานถัง (Shantang Street) ถนนโบราณที่มีความเก่าแก่เกือบ 1,200 ปี ครั้งหนึ่งถนนสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ปัจจุบันซานถังยังคงเป็นถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพย่อของซูโจวเก่า” และยังถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ

อ่านต่อ

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น (Grand Canal National Culture Park) เป็นส่วนหนึ่งของคลองต้ายุ่นซึ่งทอดตัวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมสำคัญในประเทศจีนมานานกว่า 2,500 ปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ