เกาะซานจิออร์จิโอแม็กจิออเร่ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี

  • อ่าน (3,138)
  • By Webmaster
  • 13:41:05 | 29 เม.ย. 2563

เกาะซานจิออร์จิโอแม็กจิออเร่ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี

San Giorgio Maggiore, Venice, Italy


เกาะซานจิออร์จิโอแม็กจิออเร่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับชายฝั่งจัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โค

            เกาะซานจิออร์จิโอแม็กจิออเร่ (San Giorgio Maggiore) เป็นเกาะเล็กๆ ที่อยู่ทางตอนใต้ของเมืองเมืองเวนิส ตรงข้ามกับจตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โค โดดเด่นด้วยโบสถ์หินอ่อนเก่แก่สีขาวที่มีโดมขนาดใหญ่ด้านบน และหอระฆังความสูง 63 เมตรที่ด้านบนเป็นหอชมเมืองซึ่งสามารถชมทัศนียภาพอันสวยงามของเมืองเวนิส และเห็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองเวนิสได้หลายแห่ง อาทิเช่น หอระฆังซานมาร์โคและพระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเลที่ตั้งอยู่ในฝั่งตรงข้าม อีกทั้งยังสามารถชมทิวทัศน์อันน่าประทับใจของท้องทะเลและหมู่เกาะต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียงได้โดยรอบ เกาะนี้จึงเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของเมืองเวนิสที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากอีกแห่งหนึ่ง


แผนที่ตั้งเกาะซานจิออร์จิโอแม็กจิออเร่ (San Giorgio Maggiore) เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี

ประวัติ

            เกาะซานจิออร์จิโอแม็กจิออเร่เป็นเกาะที่อยู่ทางตอนใต้ของเมืองเมืองเวนิส แต่เดิมชื่อว่าเกาะอินซูลา เมมมีอา (Insula Memmia) ตามชื่อของราชวงศ์เมมโม (Memmo) ที่ปกครองเวนิสในช่วงศตวรรษที่ 8

            ต่อมาในสมัยของโดจทริบูโน เมมโม (Doge Tribuno Memmo) ได้ทรงมอบเกาะแห่งนี้ให้กับ เจ้าคณะนักบวชจีโอแวนนี โมโรซินี (Benedettino Monk Giovanni Morosini) เพื่อใช้ในการศาสนา และได้มีการสร้างอารามซันจิออร์จิโอ (San Giorgio Monastery) ขึ้นมาบนเกาะในปีค.ศ. 829

            ต่อมาในปี ค.ศ. 1566 ได้มีการสร้างโบสถ์ขึ้นเพื่ออุทิศแด่นักบุญเซนต์จอร์จ (St. George) และตั้งชื่อว่า โบสถ์ซานจิออร์จิโอแม็กจิออเร่ (Chiesa di San Giorgio Maggiore / Church of San Giorgio Maggiore) เป็นโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิก สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมเรเนซอง (Renaissance Architecture) ออกแบบโดยนายแอนเดรีย ปาลาดิโอ (Andrea Palladio) นายสถาปนิกมือหนึ่งในยุคนั้น โบสถ์สร้างแล้วเสร็จในปีค.ศ. 1610 โดดเด่นด้วยอาคารที่สร้างจากหินอ่อนสีขาวตัดกับสีของน้ำทะเล ตั้งอยู่บริเวณริมชายฝั่ง ตรงข้ามกับจตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โค ด้านในตกแต่งแบบเน้นความโปร่งด้วยเสาสูงและผนังสีขาว ที่นี่ยังเป็นที่เก็บรักษาและจัดแสดงผลงานภาพเขียนชื่อดังหลายชิ้น อย่างเช่น “The Last Supper” และ “The Jews in the desert” จากฝีมือของ Tintoretto ศิลปินชาวอิตาลีที่มีชื่อเสียง

            ในส่วนของหอระฆัง (Campanile / Bell Tower) นั้นสร้างขึ้นในช่วงปีค.ศ. 1467 แต่พังลงในปีค.ศ. 1774 และได้รับการสร้างขึ้นใหม่อีกครั้งด้วยสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิก (Neo-Classic Architecture)

            ปัจจุบันเกาะนี้อยู่ในความดูแลของ Giorgio Cini Foundation และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งในเมืองเวนิส โดยไฮไลท์ของการท่องเที่ยวเกาะนี้คือการขึ้นลิฟต์ไปด้านบนหอระฆังเพื่อชมวิวเมืองเวนิสอันสวยงามและน่าประทับใจ


เกาะซานจิออร์จิโอแม็กจิออเร่โดดเด่นด้วยหลังคาโดมขนาดใหญ่โบสถ์และหอระฆัง


ความสวยงามตัวอาคารบนเกาะที่เรืองรองด้วยแสงไฟประดับในช่วงหัวค่ำไปจนถึงรุ่งสาง 


ตัวโบสถ์ทำจากหินอ่อนสีขาวตัดกับสีของน้ำทะเล 


ด้านทิศตะวันออกของเกาะเป็นอู่เรือ


ภายในโบสถ์เรียงรายด้วยเสาสูง และซุ้มประตูหน้าต่างโค้ง 


การตกแต่งด้านในประดับด้วยผลงานภาพเขียนและงานประติมากกรรม


ประติมากรรมพระเยซูคริสต์ตรึงกางเขน 


เสาสูงโปร่งและซุ้มประตูโค้งภายในโบสถ์


บริเวณแท่นบูชาสูงด้านในโบสถ์


ประติมากรรม God Father 


ภาพเขียนถ่ายทอดเรื่องราวทางศาสนาคริสต์ที่ประดับตกแต่งอยู่ภายในโบสถ์


เทวรูปโบราณที่แกะสลักจากไม้


ประติมากรรมรูปสลักที่ตกแต่งอยู่ในภายในโบสถ์ 


พื้นที่สำหรับร้องเพลงประสานเสียงตกแต่งผนังด้วยไม้แกะสลัก


ทัศนียภาพท้องทะเลและหมู่เกาะจากด้านบนหอระฆัง 


จากด้านบนสามารถมองเห็นมหาวิหารซานตามารียา เดลล่า ซาลูเต ที่อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือ


เมื่อมองไปทางฝั่งทิศเหนือจะเห็นจตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โคที่โดดเด่นด้วยหอระฆังซานมาร์โคและพระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเล่ 


ทัศนียภาพเกาะหลักของเมืองเวนิส


บริเวณน่านน้ำและอู่เรือของเกาะซานจิออร์จิโอแม็กจิออเร่


ไกลออกไปทางด้านตะวันออกเฉียงใต้คือที่ตั้งของเกาะซานเซอร์โวโล (San Servolo)

การเดินทางจากสนามบินเวนิสมาร์โคโปโล (Venice Marco Polo Airport / Aeroporto di Venezia-Marco Polo) ไปยังสถานีรถไฟเวเนเซียซานตาลูเซีย (Stazione di Venezia Santa Lucia)

             - รถยนต์ (Car) จาก Venice Marco Polo Airport ไปยัง Stazione di Venezia Santa Lucia มีระยะทางประมาณ 13.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที

             - รถประจำทาง (Bus) จาก Venice Marco Polo Airport ให้เดินมายังท่ารถ Aeroporto Marco Polo เพื่อขึ้นรถบัสสาย Venezia P. Roma (ออกทุก 20 นาที) มุ่งหน้าไปยังเมือง Venice โดยเมื่อไปถึงเมืองเวนิส รถบัสจะจอดให้ลงบริเวณท่ารถ Venezia Piazzale Roma ATVO ที่จัตุรัสโรมา (Piazzale Roma) จากนั้นเดินต่อไปประมาณ 450 เมตร ก็จะถึงยัง Stazione di Venezia Santa Lucia มีระยะทางโดยรวมประมาณ 13.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที

หมายเหตุ : Stazione di Venezia Santa Lucia เป็นสถานีรถไฟหลักของเมืองเวนิสที่มีเส้นทางเดินรถเชื่อมต่อกับเมืองต่างๆ ในประเทศอิตาลี รวมถึงเมืองต่างๆ ในประเทศแถบยุโรป แต่ขนส่งสาธารณะหลักภายในเมืองเวนิส จะใช้การเดินทางทางน้ำโดย “เรือประจำทาง” ที่เรียกว่า “Water-bus” ซึ่งมีท่าเรือครอบคลุมทั่วเมือง โดยท่าเรือบริเวณด้านหน้า Stazione di Venezia Santa Lucia มีจำนวน 4 ท่าแยกตามเส้นทางเดินเรือ ได้แก่ Ferrovia “A”, Ferrovia “B”, Ferrovia “C” และ Ferrovia “D”

การเดินทางจากสถานีรถไฟเวเนเซียซานตาลูเซีย (Stazione di Venezia Santa Lucia) ไปยังเกาะซานจิออร์จิโอแม็กจิออเร่ (San Giorgio Maggiore)

 

             - เรือ (Ferry) จาก Stazione di Venezia Santa Lucia เดินไปยังท่าเรือ Ferrovia D เพื่อขึ้น Water-bus สาย 1 จากนั้นลงที่ท่าเรือ San Marco-San Zaccaria และต่อ Water-bus ที่ไปยังเกาะ San Giorgio Maggiore และลงที่ท่า S. Giorgio แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 550 เมตร ก็จะถึงยัง San Giorgio Maggiore ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 1 ชั่วโมง 5 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด

           เดือนเมษายน ถึง เดือนตุลาคม เปิด 9:00 น. - 19:00 น.

           เดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนมีนาคม เปิด 8:30 น. - 18:00 น.


บนยอดโดมของโบสถ์ประดับด้วยรูปปั้นของ Saint George

อัตราค่าเข้าชม

           ไม่เสียค่าเข้าชม แต่มีค่าขึ้นหอระฆัง

           ค่าขึ้นหอระฆัง

                - ผู้ใหญ่ ราคา 6 Euro

                - นักเรียนและนักศึกษาอายุไม่เกิน 26 ปี และผู้สูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไป ราคา 4 Euro



เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

           ตลอดทั้งปี


             นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว San Giorgio Maggiore สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                          เกาะซานจิออร์จิโอแม็กจิออเร่ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี

                          (San Giorgio Maggiore, Venice, Italy)

                          ระดับความนิยม : 

                          อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม แต่มีค่าขึ้นหอระฆัง

                                                  ค่าขึ้นหอระฆัง (ผู้ใหญ่ ราคา 6 Euro / นักเรียนและนักศึกษาอายุไม่เกิน 26 ปี และผู้สูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไป ราคา 4 Euro)

                          เวลาเปิด-ปิด : เดือนเมษายน ถึง เดือนตุลาคม เปิด 9:00 น. - 19:00 น.

                                               เดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนมีนาคม เปิด 8:30 น. - 18:00 น.

                          ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                          สถานที่ตั้ง : เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี

                          โทรศัพท์ : (+39) 041 5298711

                          เว็บไซต์ : http://en.turismovenezia.it/Venezia/Chiesa-di-San-Giorgio-Maggiore-6106.html

                          ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/th/it/italy-weather

                                           เว็บไซต์ทางการของเมืองเวนิส https://www.veneziaunica.it/en

                                           เว็บไซต์ทางการของประเทศอิตาลี http://www.italia.it/en/home.html   

                                           เว็บไซต์การท่องเที่ยวของประเทศอิตาลี https://www.italyguides.it/en

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย

หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!

อ่านต่อ

เกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)

สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นนคร 2 ทวีป ซึ่งมีช่องแคบบอสฟอรัสเป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชียแห่งนี้ คือเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมานับพันๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจหากอิสตันบลูจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงามทรงคุณค่ามากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยุโรปและเอเชียจากอดีตจนถึงปัจจุบัน Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูลที่หากมีโอกาสไปเยือนประเทศตุรกีไม่ควรพลาด

อ่านต่อ

ล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตุรกี เคยเป็นทั้งเส้นทางการค้าที่สำคัญ และยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน การล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) จึงเป็นวิธีที่ดีที่จะได้สัมผัสบรรยากาศ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลายของอิสตันบูล

อ่านต่อ

อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของตุรกี ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมามากกว่าพันปี อุโมงค์เก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งนี้คือสถานที่เก็บน้ำในสมัยโบราณที่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงาม กับเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเสากรีกที่ค้ำเรียงรายมากถึง 336 ต้น และเสาเมดูซ่าพร้อมตำนานที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน รวมถึงซากโบราณของพระราชวังใต้ดินแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลสมัยไบเซนไทน์อีกด้วย

อ่านต่อ

ตลาดเครื่องเทศ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

ตลาดเครื่องเทศ (Historical Spice Bazaar / Egyptıan Spıce Bazaar) ในอิสตันบูล เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตลาดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน เดิมทีเป็นจุดแลกเปลี่ยนเครื่องเทศ ผ้าไหม และสินค้าอื่นๆ จากเอเชียมาสู่ยุโรป

อ่านต่อ

10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

บูดาเปสต์ (Budapest) เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี ตัวเมืองถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยแม่น้ำดานูบที่ไหลผ่านกลางเมือง ทำให้ในเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงามเปี่ยมเสน่ห์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์มาให้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก

ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้ ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป ในอดีต เมืองปรากเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองอันยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งอารยธรรมแห่งความยิ่งใหญ่ และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้น ก็ยังคงสะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตของชาวเมือง วัฒนธรรมประเพณี สถาปัตยกรรม ฯลฯ ราวกับมรดกที่สืบทอด และรักษากันมาอย่างดี จนถูกยกให้เป็นเมืองที่มีความน่าหลงใหล ควรค่าแก่การไปสัมผัสความเป็นยุโรปมากที่สุด โดยเมืองปรากยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย ปัจจุบันเมืองนี้นับเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ ของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนทวีปยุโรป ไปชม 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปรากพร้อมๆ กันกับ Palanla!

อ่านต่อ

ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ (Fashion Street Budapest) เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในด้านร้านค้าแฟชั่นชั้นนำจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Dior, Armani, Prada และ Chanel ถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองบุดาเปสต์เองด้วย

อ่านต่อ

ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ (Dinner Cruise Budapest) เป็นวิธียอดเยี่ยมในการชมความสวยงามของเมืองบูดาเปสต์ โดยขณะที่เรือล่องไปตามแม่น้ำดานูบ (Danube River) นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของสะพาน พระราชวัง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มแสนอร่อย

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ