10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในโตเกียวด้วยรถไฟ ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (4,487)
  • By Webmaster
  • 16:36:18 | 12 ม.ค. 2567

10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในโตเกียวด้วยรถไฟ ประเทศญี่ปุ่น

Top 10 Travel Destinations in Tokyo by train, Japan

           โตเกียวเป็นเมืองที่สามารถท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบายด้วยรถไฟสายต่างๆ ที่ครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวทั่วทั้งเมือง โดยเราจะแบ่งการเดินทางออกเป็น 2 รูปแบบ ในช่วงแรกนั้นจะเริ่มต้นด้วยการท่องเที่ยวด้วยรถไฟสาย Yamanote ซึ่งเป็นสายรถไฟที่เดินทางได้ง่าย มีลักษณะเป็นวงกลม เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางไปยังโตเกียวครั้งแรก และยังไม่คุ้นชินกับการขึ้นรถไฟหลายๆสาย หลังจากนั้นเมื่อเริ่มชำนาญแล้ว เราก็จะพาลัฤดเลาะไปตามสายรถไฟใต้ดินอันสลับซับซ้อนของโตเกียวดูบ้าง


 

Day 1 : Yamanote Line

1. Shibuya Crossing – สัมผัสจังหวะชีวิตของชาวโตเกียว

           ชิบูย่าถือเป็นย่านอันดับต้นๆในโตเกียวซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และยังเป็นทำเลที่พักยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว เสน่ห์ของย่านชิบูย่านั้นผสมผสานทั้งความเป็นย่านธุรกิจ ศูนย์รวมแฟชั่น และเนื่องจากสถานีชิบูย่าถือเป็นสถานีรถไฟที่มีจำนวนผู้โดยสารมากเป็นอันดับ 4 ของโลก ส่งผลให้ 5 แยกชิบูย่ากลายเป็นจุดศูนย์กลางสำคัญในการสัญจรของชาวญี่ปุ่น จำนวนผู้คนที่เดินข้ามแยกแห่งนี้มีนับพันคนในเวลาเดียวกัน จนได้รับการขนานนามว่าเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสและเริ่มต้นทำความรู้จักกับจังหวะชีวิตของชาวโตเกียวได้ดีที่สุด

           นักท่องเที่ยวที่มาเยือนแยกชิบูย่า ไม่ควรพลาดการแวะไปหา รูปปั้น”ฮาจิโกะ” อนุสาวรีย์ของสุนัขแสนซื่อสัตย์ซึ่งมีเรื่องราวความเป็นมาที่แสนประทับใจ และเมื่อนักท่องเที่ยวได้ลองเดินข้าม แยกชิบูย่า อันมีชื่อเสียงพร้อมกับคลื่นของผู้คนจำนวนมากแล้ว สามารถแวะขึ้นไปนั่งชมบรรยากาศของแยกชิบูย่าในมุมสูงได้ที่ ชั้น 2 ของร้านกาแฟ Starbucks ที่ตึก TSUTAYA ปิดท้ายด้วยการแวะไปเยือน Shibuya 109 ห้างสรรพสินค้าที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญซึ่งทำให้ชิบูย่ากลายเป็นที่รู้จักในฐานะย่านแฟชั่นมาจนถึงทุกวันนี้

ข้อมูลการเดินทาง

           - สถานีรถไฟ : Shibuya Station

           - สายรถไฟที่ผ่าน : Yamanote Line, Subway Ginza Line, Subway Hanzomon Line และ Subway Fukutoshin Line

พิกัด GPS : 35°39'34.1"N 139°42'01.7"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แยกชิบูย่า ได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=26


2. Meiji Shrine – จากความวุ่นวายสู่ความสงบกลางกรุงโตเกียว

           หลังจากได้สัมผัสความวุ่นวายและจังหวะชีวิตของชาวโตเกียวที่ชิบูย่าไปแล้ว นักท่องเที่ยวหลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่า เพียงแค่นั่งรถไฟถัดมา 1 สถานี ก็จะได้พบกับศาลเจ้าสำคัญของกรุงโตเกียว ซึ่งห้อมล้อมไปด้วยจำนวนต้นไม้นับแสนต้น ให้บรรยากาศร่มรื่นและแสนสงบราวกับอยู่กลางป่าเขา ศาลเจ้าแห่งนี้ก็คือ ”ศาลเจ้าเมจิ” (Meiji Shrine) ศาลเจ้าที่ชาวโตเกียวร่วมกันสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศญี่ปุ่นอย่างมาก

           เมื่อนักท่องเที่ยวเดินออกมาจากสถานีรถไฟ Harajuku เพียง 100 เมตร ก็จะพบกับ เสาโทริอิไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ตรงทางเข้าศาลเจ้า เมื่อเดินผ่านเสาโทริอิไปแล้ว นักท่องเที่ยวก็จะได้พบกับบรรยากาศแสนสงบและร่มรื่น ตัดขาดจากความวุ่นวายของโลกภายนอกตลอดสองข้างทาง ระหว่างทางเดินนั้นยังมี ถังสาเกขนาดใหญ่ ซึ่งชาวญี่ปุ่นนำมาถวายให้กับเทพเจ้าตามโอกาสพิเศษต่างๆ  และเมื่อนักท่องเที่ยวเดินไปถึงบริเวณอาคารศาลเจ้า หากเป็นช่วงวันเสาร์อาทิตย์ก็อาจจะได้พบการจัดงานแต่งงานแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงกันยังมี สวน Meiji Shrine Inner Garden ซึ่งมีไฮไลท์คือดอกไอริส ดอกไม้โปรดของสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ ซึ่งจะผลิบานในช่วงเดือนมิถุนายน

ข้อมูลสถานที่และการเดินทาง

           - สถานีรถไฟ : Harajuku Station

           - สายรถไฟที่ผ่าน : Yamanote Line

เวลาเปิด-ปิด : ตามเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและตก

ค่าเข้าชม : มีค่าเข้าชมเฉพาะบริเวณ สวน Meiji Shrine Inner Garden 500 เยน

พิกัด GPS : 35°40'35.1"N 139°41'57.5"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ศาลเจ้าเมจิ ได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=37


3. Harajuku – สัมผัสแหล่งกำเนิดแฟชั่นสุดแหวกแนวของญี่ปุ่น

           แค่เพียงเดินออกจากศาลเจ้าเมจิอันแสนสงบ และข้ามถนนมายังฝั่งตรงข้าม บริเวณนั้นก็คือย่านฮาราจูกุ (Harajuku) แหล่งกำเนิดวัฒนธรรมการแต่งตัวที่ทั้งแหวกแนวและเป็นเอกลักษณ์จนสร้างกระแสความนิยมไปทั่วโลก และภายในถนนเส้นเล็กๆที่มีชื่อว่าทาเคชิตะ (Takeshita) นั้นก็อัดแน่นไปด้วยร้านขายเสื้อผ้าและอุปกรณ์การแต่งตัวต่างๆตั้งแต่หัวจรดเท้าในสไตล์ที่เก๋ไก๋และไม่ซ้ำใคร

           หากนักท่องเที่ยวต้องการไปสัมผัสบรรยากาศอันคึกคักและแฟชั่นแปลกตาของเหล่าวัยรุ่นญี่ปุ่น ย่านฮาราจูกุจะมีการปิดถนนเพื่อให้วัยรุ่นญี่ปุ่นแต่งตัสมาอวดโฉม รวมถึงจัดกิจกรรมต่างๆ ทุกวันอาทิตย์ โดยนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสบรรยากาศเหล่านี้ได้ตั้งแต่บริเวณสะพานหน้าทางเข้าศาลเจ้าเมจิ เรื่อยมาจนถึงบริเวณถนน Takeshita

ข้อมูลการเดินทาง

           - สถานีรถไฟ : Harajuku Station, Meiji-jingumae Station

           - สายรถไฟที่ผ่าน : Yamanote Line, Subway Chiyoda Line, Subway Fukutoshin Line

พิกัด GPS : 35°40'09.6"N 139°42'09.0"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ย่านฮาราจูกุ ได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=39


4. Kabukicho – แหล่งบันเทิงยามราตรีที่มีชื่อเสียงที่สุดในโตเกียว

           ขยับมาอีกเพียงสองสถานีจากฮาราจูกุ ก็จะมาถึงชินจูกุ ย่านที่เป็นทั้งจุดศูนย์กลางความบันเทิง และจุดศูนย์กลางการคมนาคมทางรถไฟของญี่ปุ่น และเพียงประมาณ 400 เมตรจากสถานีรถไฟชินจูกุ ก็คือที่ตั้งของย่านคาบูกิโช ย่านบันเทิงยามราตรีที่มีขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงมากที่สุดในโตเกียว ประกอบไปด้วยร้านอาหาร ผับ บาร์ คาราโอเกะ ไนต์คลับ และร้านรวงอื่นๆในสไตล์ ย่านโคมแดง ของญี่ปุ่น

           แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งบันเทิงยามราตรี แต่ในปัจจุบันนั้นนักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับความบันเทิงต่างๆในย่านนี้ได้ตลอดทั้งวัน แลนด์มาร์คยอดฮิตในปัจจุบันก็คงหนีไม่พ้น ก็อดซิลล่าขนาดเท่าตัวจริง ที่โผล่หน้าออกมาจากตึกที่ทำการบริษัทภาพยนตร์ ”โตโฮ” บริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และเป็นผู้ให้กำเนิด ”ก็อดซิลล่า” ขึ้นมานั่นเอง และนี่ก็เป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงความเป็นศูนย์กลางของความบันเทิงของย่านนี้ได้เป็นอย่างดี

ข้อมูลการเดินทาง

           - สถานีรถไฟ : Shinjuku Station

           - สายรถไฟที่ผ่าน : Yamanote Line, Subway Oedo Line, Subway Marunoushi Line, Subway Shinjuku Line และ Narita Express

พิกัด GPS : 35°41'37.8"N 139°42'03.8"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ย่านคาบูกิโช ได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=38


Day 2 : Subway Hibiya, Oedo Line

5. Tsukiji Fish Market – เยือนตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ชิมอาหารทะเลสดใหม่กว่าที่ไหนๆ

           มาเยือนญี่ปุ่นทั้งที นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่คงไม่พลาดชิมอาหารญี่ปุ่นแสนอร่อยและสดใหม่จากร้านอาหารต่างๆภายในเมือง แต่คงจะยิ่งพิเศษไปกว่านั้นถ้าได้มาลองลิ้มรสจากสถานที่ที่ถูกขนานนามว่าเป็น”แหล่งวัตถุดิบชั้นดี”ของร้านอาหารทุกระดับในโตเกียว นั่นก็คือตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Fish Market) ตลาดปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งรับวัตถุดิบตรงจากชาวประมง และเปิดขายอาหารทะเลทุกรูปแบบกันตั้งแต่เช้าตรู่

           พื้นที่ในการเยี่ยมชมสำหรับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณ ตลาดชั้นนอก ซึ่งประกอบไปด้วยร้านอาหารและร้านขายอาหารทะเลแปรรูปเป็นหลัก ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับการตระเวนชิมเมนูต่างๆที่สดจากท้องทะเล รวมถึงซื้อบรรดาอาหารแปรรูปเป็นของฝากได้อีกด้วย หากอยากสัมผัสบรรยากาศของตลาดปลาจริงๆ ก็สามารถเข้ามาเยี่ยมชมบริเวณ ตลาดชั้นใน ซึ่งมีวัตถุดิบสดใหม่มากมายให้เลือกซื้อเลือกชม และถ้าต้องการสัมผัสประสบการณ์ การประมูลปลาทูน่า ราคาแพงด้วยตัวเอง ก็ต้องมาลงชื่อจองที่ตลาดตั้งแต่ประมาณตี 5 กันเลย

ข้อมูลสถานที่และการเดินทาง

           - สถานีรถไฟ : Tsukiji Station, Tsukijishijo Station

           - สายรถไฟที่ผ่าน : Subway Oedo Line, Subway Hibiya Line

เวลาเปิด-ปิด : ตลาดชั้นนอก เปิดตั้งแต่ 05.00 -14.00 น.

              ตลาดชั้นใน เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมหลังเวลา 10.00 น.

              ปิดทำการทุกวันอาทิตย์ วันหยุดเทศกาล และวันพุธในบางสัปดาห์

พิกัด GPS : 35°39'55.8"N 139°46'14.4"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ตลาดปลาซึกิจิ ได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=35


6. Tokyo Imperial Palace – เยี่ยมชมสถานที่ประทับขององค์จักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น

           เมื่ออิ่มท้องยามเช้าที่ตลาดปลากันไปแล้ว เราจะเดินทางต่อด้วยรถไฟใต้ดินจากสถานี Tsukiji ไปยังสถานี Nijubashimae ซึ่งเป็นสถานีที่อยู่ใกล้ประตูทางเข้าพระราชวังหลวงโตเกียวมากที่สุด พระราชวังแห่งนี้ในอดีตคือที่ตั้งของปราสาทเอโดะ ซึ่งใช้เป็นที่ประทับของโชกุนในอดีต เมื่อเวลาผ่านไป จึงมีการปรับเปลี่ยน บูรณะ และก่อสร้างขึ้นใหม่เพื่อใช้เป็นสถานที่ประทับหลักของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นในปัจจุบัน

           นักท่องเที่ยวที่ต้องการเยี่ยมชมพื้นที่ชั้นในสุดของพระราชวัง สามารถลงชื่อจองบนเว็บไซต์เพื่อเข้าร่วม ทัวร์นำชมพระราชวัง ซึ่งจัดขึ้นวันละ 2 ครั้ง นอกจากนั้นยังมี สวนสาธารณะฝั่งตะวันออก (Tokyo imperial palace east garden) ซึ่งเป็นสวนที่มีพื้นที่กว้างขวางและจัดภูมิทัศน์อย่างงดงาม ภายในสวนแห่งนี้ยังมี Tenshu-Dai หรือส่วนฐานหินของหอคอยชั้นในสุดของปราสาทเอโดะในอดีต ซึ่งหอคอยแห่งนี้เคยเป็นหอคอยปราสาทที่มีความสูงที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย

ข้อมูลสถานที่และการเดินทาง

           - สถานีรถไฟ : Nijubashimae Station

           - สายรถไฟที่ผ่าน : Subway Chiyoda Line

เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 16.00 (เวลาโดยประมาณ มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยแต่ละฤดูกาล )

              ปิดทำการทุกวันจันทร์และวันศุกร์, วันปีใหม่ และวันที่มีการจัดพระราชพิธี

พิกัด GPS : 35°41'06.6"N 139°45'10.1"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พระราชวังหลวงโตเกียว ได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=33


7. Ginza – เอกลักษณ์แห่งความหรูหราเฉพาะตัวยิ่งกว่าย่านไหนๆในโตเกียว

           โตเกียวมีย่านต่างๆที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก และแต่ละย่านนั้นก็มีความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป หากพูดถึงย่านกินซ่าแล้ว ภาพแรกที่ปรากฏขึ้นมาก็คือความหรูหรา หน้าตาของอาคารสไตล์ตะวันตกเหมือนกับประเทศแถบยุโรป และร้านระดับ Flagship ของแบรนด์ชั้นนำต่างๆทั่วโลกที่เรียงรายอยู่ทั้งสองฝั่งถนน วิธีการเดินทางั้น เพียงแค่ย้อนกลับมาเส้นทางเดิมจากสถานีรถไฟใต้ดิน Nijubashimae หน้าพระราชวังหลวงโตเกียว สถานี Ginza ก็จะอยู่ถัดมาเพียง 2 สถานีเท่านั้น

           เมื่อเดินขึ้นมาจากสถานีรถไฟใต้ดิน Ginza นักท่องเที่ยวก็จะได้พบกับสัญลักษณ์อันโดดเด่นของย่านนี้อย่าง หอนาฬิกาของห้างสรรพสินค้า Wako และ ถนน Chuo-Dori ซึ่งเป็นถนนช้อปปิ้งสายหลักของย่านกินซ่า และนอกจากร้านรวงต่างๆแล้ว ย่านกินซ่ายังมีแหล่งวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงอย่าง โรงละครคาบูกิ Kabukiza และที่สำคัญ หากนักท่องเที่ยวไปเยือน ย่านกินซ่าในวันเสาร์อาทิตย์ ถนนสาย Chuo-Dori ก็จะปิดการสัญจรรถยนต์เพื่อทำเป็น ถนนคนเดิน ตั้งแต่ 12.00 น. – 17.00 น. ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวย่านกินซ่าอย่างเพลิดเพลินมากขึ้นไปอีก

ข้อมูลการเดินทาง

           - สถานีรถไฟ : Ginza Station

           ​- สายรถไฟที่ผ่าน : Subway Hibiya Line, Subway Ginza Line และ Subway Marunouchi Line

พิกัด GPS : 35°40'20.6"N 139°45'46.8"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ย่านกินซ่า ได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=34


Day 3 Subway Ginza, Asakusa Line

8. Ueno Park – สวนสาธารณะแห่งแรกของญี่ปุ่น ที่มีอะไรมากกว่าสวนสาธารณะ

           หากเทียบกับรปปงงิ ฮิลส์ที่เป็นศูนย์รวมห้างร้านและความบันเทิงต่างๆในสถานที่เดียว สวนสาธารณะอูเอโนะก็คงเป็นศูนย์รวมด้านศิลปวัฒนธรรมที่มีลักษณะคล้ายๆกัน นอกจากจำนวนต้นไม้ภายในสวนกว่า 8,800 ต้น และจำนวนผู้ที่เดินทางมาเยี่ยมชมมากกว่า 10 ล้านคนต่อปี สิ่งที่ดึงดูดผู้คนจำนวนมากเช่นนี้คือสถานที่ต่างๆภายในสวนสาธารณะ ทั้งสวนสัตว์ หอศิลป์ พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด รวมไปถึงวัดต่างๆ ซึ่งตอบโจทย์ความผ่อนคลายทุกรูปแบบของผู้คน และยังเดินทางมาได้อย่างสะดวกสบายจากสถานีรถไฟอูเอโนะ หนึ่งในสถานีสำคัญของกรุงโตเกียว

           สถานที่เด่นๆภายในสวนสาธารณะอูเอโนะ มีทั้ง สวนสัตว์อูเอโนะ ที่ถือเป็นสวนสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และชาติ และ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ที่สร้างความรู้ด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีไปพร้อมกัน รวมถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปะชั้นนำอย่าง พิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตกแห่งชาติ และ พิพิธภัณฑ์ศิลปะมหานครโตเกียว ปิดท้ายด้วยการสวดมนต์ขอพรที่ วัดคาเนอิจิ วัดที่เป็นเจ้าของพื้นที่สวนสาธารณะอูเอโนะในอดีตซึ่งมีอายุเกือบ 200 ปี

ข้อมูลสถานที่และการเดินทาง

           ​- สถานีรถไฟ : Ueno Station

           ​- สายรถไฟที่ผ่าน : JR Yamanote Line, Subway Ginza Line และ Subway Hibiya Line

เวลาเปิด-ปิด : 05.00. – 23.00 น.

พิกัด GPS : 35°42'55.2"N 139°46'26.4"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สวนสาธารณะอูเอโนะ ได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=32


9. วัดเซนโซจิ – สวดมนต์ขอพร ชิมของอร่อย แวะซื้อของฝากได้ในที่เดียว

           จากสถานีรถไฟใต้ดิน Ueno นั่งรถไฟใต้ดินสาย Ginza มาอีกเพียง 3 สถานี ก็จะเดินทางมาถึงอาซากุสะ ย่านท่องเที่ยวชื่อดังซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดเซนโซจิ วัดที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดในกรุงโตเกียว โดยภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์คันนน หรือเจ้าแม่กวนอิม และเป็นที่ตั้งของเจ้าอาซากุสะอันขึ้นชื่อ รวมไปถึงศาลเจ้าชินโต และเจดีย์ห้าชั้นอีกด้วย

           แม้จะยังไม่ได้เข้าไปในบริเวณวัด แต่นักท่องเที่ยวก็สามารถมองเห็น ประตูสายฟ้า ประตูวัดเซนโซจิซึ่งมีโคมสีแดงขนาดใหญ่และเขียนด้วยตัวอักษรภาษาญี่ปุ่น แปลว่า”สายฟ้า” บริเวณนี้เปรียบเสมือนแลนด์มาร์คของย่านอาซากุสะ และยังเป็นสถานที่ถ่ายรูปยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยว และเมื่อเดินผ่านประตูสายฟ้าเข้าไป ก็จะพบกับ ถนนนากามิเสะ ถนนสายเล็กๆที่เป็นทางเดินเข้าไปยังตัววัด ซึ่งเต็มไปด้วยร้านอาหาร ขนม และร้านขายของฝากจำนวนมาก บริเวณสุดถนนสายนี้จะเป็นที่ตั้งของ ประตูโฮโซมง ประตูหลักบานสุดท้ายก่อนที่จะเข้าไปยังอาคารหลักของวัด

ข้อมูลสถานที่และการเดินทาง

           ​- สถานีรถไฟ : Asakusa Station

           ​- สายรถไฟที่ผ่าน : Subway Ginza Line และ Subway Asakusa Line

เวลาเปิด-ปิด : พื้นที่โดยรอบวัดเปิดทำการ 24 ชั่วโมง อาคารหลักเปิดตั้งแต่ 06.00 – 17.00 น.

พิกัด GPS : 35°42'53.2"N 139°47'47.9"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดเซนโซจิ ได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=24


10. Tokyo Skytree – ชมวิวโตเกียวจากหอคอยที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งมองเห็นได้จนถึงภูเขาไฟฟูจิ

           แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงโตเกียวที่สร้างขึ้นด้วยความสูง 634 เมตร จนครองตำแหน่งหอคอยที่สูงที่สุดในโลกในปัจจุบัน ช่วยเพิ่มคุณภาพการกระจายสัญญาณวิทยุโทรทัศน์เขตรอบๆโตเกียว และยังเป็นจุดชมวิวชั้นดีแก่บรรดานักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก

           นอกจากจะเป็นจุดชมวิวแล้ว บริเวณชั้นล่างของโตเกียวสกายทรี ยังมี พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสุมิดะ ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความงามของโลกใต้ท้องทะเล ส่วนบริเวณจุดชมวิวนั้นถูกแบ่งออกเป็น 2 ชั้นหลัก ชั้นที่ 350 นั้นมีทั้งพื้นที่ชมวิว ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก ส่วน ชั้นที่ 450 มีลักษณะเป็นบันไดวนขึ้นไปจนถึงความสูงที่ 451.2 เมตร ตลอดทั้งชั้นเป็นกระจกใสซึ่งสามารถชมวิวทิวทัศน์ได้รอบด้าน นอกจากนี้ พื้นที่ของชั้น 450 ยังถือว่าเป็น Skywalk ที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย

ข้อมูลสถานที่และการเดินทาง

           ​- สถานีรถไฟ : Tokyo Skytree Station, Oshiage Skytree Station

           ​- สายรถไฟที่ผ่าน : Subway Asakusa Line, Subway Hanzomon Line และ Tobu Skytree Line

เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 22.00 น.

ค่าเข้าชม : Same Day Ticket ราคา 2,030 เยน สำหรับชั้นที่ 350 และราคา 1,030 เยน สำหรับชั้นที่ 450

           FastSkytree Ticket สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ราคา 3,000 เยน สำหรับชั้นที่ 350 และ 4,000 เยนสำหรับทั้งสองชั้น

พิกัด GPS : 35°42'36.8"N 139°48'36.5"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โตเกียวสกายทรี ได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=25


ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ :

- เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ
  
https://www.accuweather.com/

- เว็บไซต์การท่องเที่ยวโตเกียว
  
https://www.gotokyo.org/en/

- การเดินทางขนส่งมวลชนญี่ปุ่น 
   http://www.hyperdia.com/

- สกุลเงินที่ใช้ : เยน (JPY)     


แอปพลิเคชัน "บริการรถแท็กซี่" ในประเทศญี่ปุ่น

- Uber สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)

- JapanTaxi สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
 

แอปพลิเคชัน "แผนที่ในการนำทาง" ในประเทศญี่ปุ่น

- Google Map สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น

จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) เป็นเขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ใน ภูมิภาคคันโต ของประเทศญี่ปุ่น จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายเมืองด้วยกัน อาทิ คามาคุระ (Kamakura) โยโกฮาม่า (Yokohama) และฮาโกเน่ (Hakone)…Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ตั้งแต่ชายหาด พระใหญ่ วัดเก่าแก่ ศาลเจ้า ไชน่าทาวน์ สวนสนุก อควาเรียม ทะเลสาบ ไปจนถึงกระเช้าลอยฟ้าและจุดชมภูเขาไฟฟูจิ มาไว้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000

อ่านต่อ

สวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997

อ่านต่อ

เนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย

อ่านต่อ

ทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

ถนนซานถัง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ถนนซานถัง (Shantang Street) ถนนโบราณที่มีความเก่าแก่เกือบ 1,200 ปี ครั้งหนึ่งถนนสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ปัจจุบันซานถังยังคงเป็นถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพย่อของซูโจวเก่า” และยังถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ

อ่านต่อ

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น (Grand Canal National Culture Park) เป็นส่วนหนึ่งของคลองต้ายุ่นซึ่งทอดตัวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมสำคัญในประเทศจีนมานานกว่า 2,500 ปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ