ป้อมปราการมองเต เขตแซ มาเก๊า

  • อ่าน (3,522)
  • By Webmaster
  • 15:23:23 | 25 มิ.ย. 2562

ป้อมปราการมองเต เขตแซ มาเก๊า

Monte Fort, Sé, Macau


ปืนใหญ่ที่ด้านบนของป้อมปราการมองเต

             ป้อมปราการมองเต (Monte Fort) ป้อมปราการที่เก่าแก่ที่สุดของมาเก๊า ตั้งอยู่ใกล้กับซากประตูโบสถ์เซนต์พอล สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1616 เพื่อใช้เป็นฐานในการป้องกันโบสถ์เซนต์พอลจากเหล่าโจรสลัด ต่อมาจึงได้ใช้เป็นป้อมปืนใหญ่ของทหาร ฐานของป้อมปืนใหญ่เป็นทรงสี่เหลียม และป้อมปราการก็จะอยู่ประจำแต่ละมุม แต่ตามจุดต่างๆ ก็จะมีปืนใหญ่ตั้งเอาไว้ให้ชม


แผนที่ตั้งป้อมปราการมองเต เขตแซ มาเก๊า


ประวัติและความเป็นมา


พื้นที่สวนสาธารณะ

             ป้อมปราการมองเตฟอร์ท (Monte Fort) หรือเรียกว่า ป้อมปราการแห่งมอนเต (Fortaleza do Monte) มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า ป้อมปราการแห่งพระแม่ของมอนเตเดอเซาเปาโล (Fortaleza de Nossa Senhora do Monte de São Paulo)

           โดยเป็นที่รู้จักทั่วไปในชื่อว่าป้อมใหญ่ หรือบิ๊กฟอร์ท (Big Fort) เป็นป้อมปราการซึ่งอยู่บนยอดเขาสูง 52 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล และอยู่ใกล้กับ ซากโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul’s) ซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันตก ในประเทศมาเก๊า


ปืนใหญ่ที่ด้านบนของป้อมปราการมองเตและวิวเมืองมาเก๊า

           ป้อมปราการเริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1617 โดยสมาคมในนิกายเยซูอิต (Jesuits) และยังไม่เสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการ จนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1626 ป้อมปราการครอบคลุมพื้นที่ 8,000 ตารางเมตร เป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู มีปืนใหญ่ 32 ลำ วางอยู่โดยรอบของกำแพงป้อม และมุมทั้งสองด้านของกำแพง ด้านตะวันออกเฉียงใต้มีหอสังเกตการณ์ขนาดเล็ก


ปืนใหญ่บนป้อมปราการ

           ป้อมปราการแห่งนี้ เป็นหนึ่งในป้อมปราการอื่นๆ ซึ่งมีส่วนสำคัญ ในการป้องกันเชิงยุทธศาสตร์ทางการทหาร ที่ครอบคลุมแนวชายฝั่งตะวันออก และตะวันตกของประเทศมาเก๊า และเป็นป้อมปราการสำคัญ ที่ช่วยปกป้องประเทศ จากความพยายาม ในการบุกรุกดินแดนของชาวดัตช์ ในปี ค.ศ. 1622


ปืนใหญ่บนป้อมปราการ

           ต่อจากนั้นในปี ค.ศ. 1623 ถึง ค.ศ. 1740 ป้อมปราการถูกใช้เป็น ที่พำนักของผู้บัญชาการป้องกันเมือง และผู้ว่าราชการจังหวัดมาเก๊า และกลายเป็นพื้นที่ทางการทหาร จนกระทั่งถูกเปลี่ยนเป็น หอสังเกตการณ์อุตุนิยมวิทยา ในปี ค.ศ. 1965 และเปิดเป็นพื้นที่สำหรับการท่องเที่ยว แก่สาธารณะชนทั่วไปในปี ค.ศ. 1966


การเดินทางไปยังป้อมปราการมองเต

             - รถยนต์/แท็กซี่ จากสนามบินมาเก๊าไปยังป้อมปราการมองเตระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 25 นาที หรือจากท่าเรือมาเก๊า ระยะทางประมาณ 2.6 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

             - รถประจำทาง นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถชัทเทิลบัสฟรีจากสนามบินมาเก๊าเพื่อมาลงยังท่าเรือมาเก๊า และต่อรถประจำทางสาย 3, 12, 28B, 10 หรืออีกทางเลือกหนึ่งให้นั่งรถประจำทางสาย 26 หรือ MT1 จากสนามบินมาเก๊าไปยังบริเวณด้านล่างป้อมปราการ และเดินเท้าต่อขึ้นไปยังจุดชมวิว ทั้งนี้ค่าโดยสารรถประจำทางอยู่ที่คนละ 6 MOP ตลอดสายและทุกเส้นทาง


เวลาทำการเปิด-ปิด


ปืนใหญ่ที่ด้านบนของป้อมปราการมองเต

           เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 07.00 – 19.00 น. สำหรับชมวิวในช่วงเช้าและหลังพระอาทิตย์ตก โดยด้านบนจะเป็นวิวเมืองมาเก๊า สามารถมองเห็นบ้านเรือน ตึกต่างๆ และที่โดดเด่นที่สุดอย่างแกรนด์ลิสบัวคาสิโนที่ตั้งตระหง่านสีทองอร่าม นับเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของเมืองมาเก๊าก็ว่าได้


การซื้อบัตรเข้าชม


ป้อมปราการสำคัญในการปกป้องการบุกรุก

            สามารถเข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย


จุดท่องเที่ยวสำคัญ


จุดชมวิวเมืองมาเก๊า

           บริเวณบนป้อมปราการจะมีจุดชมวิวเมืองมาเก๊าที่สามารถมองเห็นวิวได้โดยรอบ ซึ่งจะมีแบ่งเป็นช่องต่างๆ และมีปืนใหญ่หันปากกระบอกปืนออกไป นับเป็นเอกลักษณ์ของจุดชมวิวบริเวณป้อมปราการนี้


เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว


จุดชมวิวอีกฝั่งของป้อมปราการ

           นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยมาเก๊าสามารถแบ่งแต่ละช่วงเวลาของปีได้ออกเป็น 4 ฤดูกาล ดังนี้

           ฤดูใบไม้ผลิ (ต้นเดือนมีนาคม – กลางเดือนพฤษภาคม) มีสภาพอากาศโดยทั่วไปแบบร้อนชื้น และอาจจะมีหมอกหนาได้

           ฤดูร้อน (ปลายเดือนพฤษภาคม – กลางเดือนกันยายน) มีสภาพอากาศร้อนชื้น รวมทั้งมักจะมีพายุฝนฟ้าคะนองบ่อยๆ

           ฤดูใบไม้ร่วง (ปลายเดือนกันยายน – ปลายเดือนพฤษศจิกายน) มีสภาพอากาศที่แห้งและเย็นมากขี้น ท้องฟ้าเริ่มแจ่มใส

           ฤดูหนาว (เดือนธันวาคม – ปลายเดือนกุมภาพันธ์) มีสภาพอากาศหนาวเย็นและแห้ง ท้องฟ้าแจ่มใสเป็นส่วนใหญ่

           ทั้งนี้ช่วง high season หรือฤดูท่องเที่ยวของมาเก๊าจะอยู่ที่เดือนเมษายน, เดือนตุลาคม และช่วงปลายเดือนธันวาคม โรงแรมส่วนใหญ่จะถูกจองเต็มล่วงหน้าเป็นเวลานานและคนจะเดินทางมาท่องเที่ยวกันค่อนข้างมากทำให้ราคาห้องพักสูงตามไปด้วย


ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้


ป้อมปราการบริเวณจุดชมวิว

           โครงสร้างภายในของป้อมปราการ ได้รับการสร้างขึ้นใหม่หลายครั้ง โดยได้รับการบูรณะซ่อมแซม ในปี ค.ศ. 1992, ค.ศ. 1993 และ ค.ศ. 1996 และในปี ค.ศ. 1998 ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์มาเก๊า (Macao Museum) เพื่อเป็นสถานที่ในการเก็บรักษารวบรวม และจัดแสดงเกี่ยวประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของของประเทศมาเก๊า ซึ่งมีคุณค่ามานานหลายศตวรรษ


จุดชิมวิวบนป้อมปราการ

           นอกจากนี้ยังมีสวนสาธารณะด้านบนของป้อม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ในการชื่นชมทัศนียภาพ ที่สวยงามของของประเทศมาเก๊า และป้อมปราการแห่งนี้ ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศมาเก๊า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ประวัติศาสตร์แห่งมาเก๊า ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ขององค์การยูเนสโกอีกด้วย 


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว ป้อมปราการมองเต สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       ป้อมปราการมองเต เขตแซ มาเก๊า

                       (Monte Fort, Sé, Macau)

                       ระดับความนิยม :

                       อัตราค่าเข้าชม : ไม่มีค่าใช้จ่าย

                       เวลาเปิด – ปิด : เวลา 07.00 – 19.00 น.

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ตลอดทั้งปี แต่ควรหลีกเลี่ยงช่วงฤดูฝน

                       สถานที่ตั้ง : เขตแซ มาเก๊า

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                       ท่าอากาศยานนานาชาติมาเก๊า http://www.macau-airport.com/en

                                       บริการบัตรมาเก๊าพาส https://www.macaupass.com/

                                       บริการขนส่งสาธารณะของมาเก๊า http://aomen.8684.cn/

                                       ศูนย์บริการการข้อมูลท่องเที่ยวมาเก๊า http://en.macaotourism.gov.mo/index.php

 

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ

รูปปั้นโมอาย ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

รูปปั้นโมอาย (Moai) เป็นรูปปั้นหินซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เด่นชัด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร

อ่านต่อ

ตลาดปลานิโจ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) เป็นตลาดปลาขนาดใหญ่ในเมืองซัปโปโรที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 100 ปี ตลาดแห่งนี้โด่งดังจากอาหารทะเลสดใหม่หลากหลายชนิด ร้านอาหาร และบรรยากาศที่คึกคัก เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวซัปโปโรจะต้องไม่พลาด

อ่านต่อ

ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ (Chitose Outlet Mall Rera) หนึ่งในเอาท์เล็ตมอลล์ขนาดใหญ่และได้รับความนิยมมากที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบิน New Chitose Airport เพียง 10 นาที

อ่านต่อ

คลองโอตารุ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น

คลองโอตารุ (Otaru Canal) เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลที่สำคัญของฮอกไกโดในอดีต ปัจจุบันยังคงมีอาคารเก่าแก่เรียงรายริมคลอง สะท้อนภาพวิถีชีวิตในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส

อ่านต่อ

เนินแห่งพระพุทธเจ้า ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

เนินแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha) สถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของซัปโปโร โดดเด่นด้วยเศียรของพระรูปที่โผล่พ้นเนินเขาขึ้นมา ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกันกับรูปปั้นหินโมอาย (Moai Statue) ฉายา “สโตนเฮนจ์แห่งฮอกไกโด”

อ่านต่อ

อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค (Amanohashidate Park) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ภายในอามาโนะฮาชิดาเตะเรียงรายไปด้วยทิวของต้นสน ทางเดินทอดยาว มีสะพานอันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ตลอดจนศาลเจ้าให้แวะสักการบูชา

อ่านต่อ

วัดซันจูซันเก็นโด จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

วัดซันจูซันเก็นโด (Sanjusanjen-do Temple) เป็นวัดพุทธนิกายเท็นได ที่ตั้งอยู่ในย่านฮิกาชิยามะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ตัววัดมีชื่อเสียงโดดเด่นด้วยองค์เจ้าแม่กวนอิมปางค์ประทานพร (Senju Kannon) จำนวน 1,001 องค์ ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารไม้ยาว 120 เมตร ซึ่งถือเป็นวิหารไม้ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ