ปราสาทฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (4,605)
  • By Webmaster
  • 14:41:35 | 27 เม.ย. 2566

ปราสาทฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น

Himeji Castle, Hyogo, Japan


หอปราการปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)

             ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) เป็นหนึ่งในสมบัติแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองชื่อเดียวกันอย่างเมืองฮิเมจิ โดยได้รับการยอมรับว่าเป็นปราสาทซึ่งมีเอกลักษณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น กับรูปลักษณ์ที่เปล่งประกายสีขาวสง่างาม แถมยังตั้งอยู่ใกล้กับทั้งโอซาก้า และโกเบอีกด้วย โดยตัวปราสาทแห่งนี้ เป็นหนึ่งในสถานที่ซึ่งได้รับความสนใจที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของการท่องเที่ยว หรือความสำคัญด้านประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น


แผนที่ตั้ง ปราสาทฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น


ประวัติ


วิวยามเย็นของหอปราการปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)


ทิวทัศน์โดยรอบของตัวปราสาทอื่นๆ ในบริเวณปราสาทฮิเมจิ

           ปราสาทฮิเมจิถูกสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1346 มีจุดเด่นอยู่ที่ความสวยงาม และใหญ่โต ตลอดจนลักษณะภายนอกที่มีสีขาวสะอาด จนคนญี่ปุ่นเปรียบปราสาทแห่งนี้ว่าเหมือนนกกระสาสีขาวสง่างาม หรือเรียกอีกชื่อว่า “ฮะคุโระโจ” (ปราสาทนกกระสาสีขาว) ซึ่งปราสาทอิเมจิแห่งนี้ได้รับการยอมรับนับถืออย่างมาก จากทั้งนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม หรือคนญี่ปุ่นเอง  

           โดยในปี 1993 ปราสาทฮิเมจิได้รับการคัดเลือกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม และยังเป็นมรดกโลกแห่งแรกของญี่ปุ่นอีกด้วย ทำให้ที่นี่เป็นเสมือนภาพแทนของความยิ่งใหญ่ อีกจุดเด่นของปราสาทฮิเมจิคือทางเดินที่สลับซับซ้อน แต่แฝงไปด้วยความงดงาม และความมหัศจรรย์ของการก่อสร้าง นอกจากนี้รอบปราสาทยังมีต้นซากุระกว่า 1,000 ต้น ยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เราจะสามารถมองเห็นสีชมพูของดอกซากุระ ที่พอมาตัดกับตัวปราการปราสาทสีขาว ยิ่งส่งผลให้ปราสาทนี้สวยงามมากขึ้นไปอีก


การเดินทางจากสนามบินคันไซไปยังเมืองฮิเมจิ

             - รถไฟด่วน (Kansai International Airport Express Haruka) โดยสามารถเดินไปขึ้นได้ที่ Kansai Airport Station ซึ่งตัวสถานีจะเชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสารโดยตรง แล้วลงที่สถานี Shin-Osaka Station โดยจะใช้เวลาประมาณ 50 นาที ระยะทางโดยประมาณ 30 กิโลเมตร และเดินเล็กน้อยเพื่อเปลี่ยนสายไปขึ้น Sanyo Shinkansen เพื่อไปลงที่สถานี Himeji Station ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร ก็จะถึงเมืองฮิเมจิเรียบร้อย


การเดินทางจากเมืองฮิเมจิไปยังปราสาทฮิเมจิ

             - รถบัส หลังจากถึงสถานี Sanyo Himeji Station เราสามารถเดินไปขึ้นรถบัส ซึ่งจะอยู่บริเวณทิศเหนือของสถานี แล้วลงที่ป้าย Otemon-mae และจะสามารถเดินเท้าต่อมาถึงปราสาทฮิเมจิได้เลย

             - เดิน เมื่อถึงสถานี Sanyo Himeji Station สามารถเดินต่อไปยังปราสาทฮิเมจิได้เลย โดยจะใช้เวลาเพียง 22 นาทีเท่านั้น


เวลาในการเปิด-ปิดทำการ


นักท่องเที่ยวกำลังเดินเข้าปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)


ปราสาทฮิเมจิซึ่งมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมมากมายตลอดทุกวัน

           เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09:00 - 17:00 ประตูปิด 16:00 / ช่วงฤดูร้อน 27 ม.ย. - 31 ส.ค. จะเลื่อนเวลาปิดเป็น 18:00 ประตูปิด 17:00 และจะปิดทำการวันที่ 29 - 30 ธ.ค. เท่านั้น แต่ขอบอกว่าปราสาทฮิเมจิเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นหากอยากมาเที่ยวปราสาทแบบทั่วทุกพื้นที่ ควรมาตั้งแต่ช่วงเช้า หรือสายๆ เพราะการจะเดินให้ทั่วทุกมุมของปราสาทฮิเมจิอาจจะต้องใช้เวลาทั้งวัน   


อัตราค่าเข้าชม


นักท่องเที่ยวกำลังต่อแถวเพื่อซื้อบัตรเข้าชมปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)


ตั๋วที่ใช้ในการผ่านเข้าชมปราสาทฮิเมจิ 

           ค่าเข้าชมภายในตัวปราสาทฮิเมจิ และพื้นที่อื่นๆ ภายในตัวปราสาท สำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปราคา 1,000 เยน, นักเรียนราคา 300 เยน  


จุดท่องเที่ยวสำคัญ


ความยิ่งใหญ่ของตัวปราการปราสาทหลักเมื่อมองจากข้างล่าง


โครงสร้างด้านในตัวปราการปราสาทฮิเมจิ


ด้านในของตัวปราการปราสาทฮิเมจิซึ่งจะใช้วัสดุที่ประกอบด้วยไม้เป็นหลัก

           ตัวปราการปราสาทฮิเมจิ ที่มีสีขาวโดดเด่น รวมถึงภายในยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่หลากหลายถึง 7 ชั้น แต่ละชั้นก็จะมีการออกแบบ และเรื่องราวที่น่าสนใจแตกต่างกันไป โดยเราจะได้เห็นการออกแบบโครงสร้างที่ใช้ไม้เป็นหลัก ทั้งพื้น เสา คาน ฯลฯ เรียกว่าใครที่ชอบสิ่งก่อสร้างที่เป็นไม้ รับรองว่าจะต้องเพลิดเพลินมากๆ แน่นอน ต่างจากด้านนอกของตัวปราสาทที่เป็นสีขาว และจะมีป้ายไกด์บอกรายละเอียดต่างๆ ที่อยู่ในตัวปราสาทแทบทุกจุด เพื่อให้เราสามารถซึมซับเรื่องราวที่ผ่านมาของตัวปราสาทแห่งนี้ได้อย่างสะดวก


เวลาที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยว


นักท่องเที่ยวเดินเยี่ยมชมปราสาทยามเย็น 


นักท่องเที่ยวที่กำลังต่อแถวรอเข้าไปเยี่ยมชมภายในตัวปราการปราสาทฮิเมจิ

           สามารถมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี แต่หากเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งดอกซากุระบริเวณรอบๆ ออกดอกสีชมพูสวยงาม เวลามองไปจะเห็นตัดกับตัวปราสาทสีขาว ดูงดงามสุดๆ ทำให้การมาเยือนปราสาทแห่งนี้ในช่วงที่ดอกซากุระกำลังบานนั้น เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดช่วงหนึ่ง หากเราอยากมาชมความยิ่งใหญ่ของปราสาทฮิเมจิแห่งนี้แบบเต็มอิ่ม


ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้


ด้านในของปราสาทซึ่งมีทั้งหมด 7 ชั้น


แม่น้ำสายเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้างของทางเข้าปราสาทฮิเมจิ

           แม้ตัวปราสาทฮิเมจิจะไม่ได้ตั้งอยู่ในเมืองโกเบซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเฮียวโงะ แต่กระนั้นก็อยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองโกเบมากนัก ทำให้สามารถเดินทางได้ง่าย และด้วยความที่อยู่ในแถบตังเมืองชื่อดังพอดี ทำให้บริเวณนี้มีความคึกคักตลอดเวลา เหมาะแก่การค้างคืนเพื่ออยู่เที่ยวแถวย่านนั้นต่อได้อีกด้วย


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว ปราสาทฮิเมจิ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่  

                       ปราสาทฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น

                       (Himeji Castle, Hyogo, Japan)

                       ระดับความนิยม :

                       อัตราค่าเข้าชม : อายุ 18 ปีขึ้นไปอยู่ที่ 1,000 เยน, นักเรียน 300 เยน

                       เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน 09:00 - 17:00 ประตูปิด (16:00)

                                  ในช่วงฤดูร้อน (27 ม.ย. - 31 ส.ค.) จะเลื่อนเวลาปิดเป็น 18:00 ประตูปิด (17:00)

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                       สถานที่ตั้ง : เมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น

                       โทรศัพท์ : (+81)79-285-1146

                       เว็บไซต์ : http://www.himejicastle.jp/en/

                       ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/

                                        เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวเมืองฮิเมจิ https://www.himeji-kanko.jp/th/

                                        เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/

                                        เช็คตารางเวลารถ https://www.himeji-kanko.jp/th/information/

                                        เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนญี่ปุ่น http://www.hyperdia.com/

 

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย

หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!

อ่านต่อ

เกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)

สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

อ่านต่อ

ฮาจิโกะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ฮาจิโกะ (Hachiko) คือ รูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่ไปรอรับเจ้าของที่สถานีชิบูย่าทุกวัน แม้เจ้าของจะจากไปแล้ว มันก็ยังคงเฝ้ารออยู่ที่เดิมเวลาเดิมเป็นเวลานานถึง 10 ปีเต็ม ความประทับใจของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อสุนัขตัวนี้ กลายมาเป็นรูปปั้นซึ่งเป็นจุดนัดพบสำคัญและเป็นจุดเช็คอินที่ห้ามพลาดของชิบูย่า

อ่านต่อ

นิเซโกะ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

นิเซโกะ (Niseko) เมืองสกีรีสอร์ทยอดนิยมของญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่บนภูเขานิเซโกะ-อันนูปูริ (Niseko - Annupuri) ซึ่งมีความสูงถึง 1,300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นับเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในบรรดาเทือกเขานิเซโกะ นิเซโกะขึ้นชื่อในเรืองของหิมะที่มีผงนุ่ม ละเอียด เหมือนฝุ่นแป้งและเป็นสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบการเล่นสกี

อ่านต่อ

หมู่บ้านน้ำอูเจิ้น เมืองถงเซียง มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

หมู่บ้านน้ำอูเจิ้น (Wuzhen Water Town) ฉายา "เวนิสแห่งตะวันออก" เป็นเมืองโบราณอายุกว่า 7,000 ปีที่เหมือนย้อนเวลาพากลับไปในอดีต ด้วยบ้านเรือนบรรยากาศแบบจีนโบราณ มีคลองน้ำล้อมรอบ สะพานหินทรงโค้ง และผู้คนที่ยังคงใช้เรือในการสัญจรไปมา

อ่านต่อ

วัดหลิงอิ่น เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

วัดหลิงอิ่น (Lingyin Temple) เป็นวัดพุทธโบราณอายุมากถึง 1,600 ปี โอบล้อมไปด้วยเนินเขาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุและงานแกะสลักทางพุทธศาสนามากมายที่มีประวัติยาวนาน เชื่อมโยมกับจุดกำเนิดของพระอรหันต์ “จี้กง” วัดแห่งนี้จึงเป็นวัดพุทธที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน

อ่านต่อ

ทะเลสาบซีหู เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

ทะเลสาบซีหู หรือ ทะเลสาบตะวันตก (Xi Hu West Lake) เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องความงามตามธรรมชาติ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และต้นกำเนิดตำนานความรักของนางพญางูขาวอันโด่งดัง

อ่านต่อ

ถนนเก่าเหอฟาง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

ถนนเก่าเหอฟาง (Hefang Old Street) ถนนเก่าเหอฟาง ถนนอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการค้าที่คึกคักของหางโจว ถนนเส้นนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตและสัมผัสเสน่ห์แบบดั้งเดิมของเมืองนี้ ได้ซึมซับกับวัฒนธรรมท้องถิ่น และลิ้มรสอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ

อ่านต่อ

เจดีย์เหลยเฟิง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

เจดีย์เหลยเฟิง (Leifeng Pagoda) สถาปัตยกรรมงามสง่าบนเนินเขา ริมทะเลสาบซีหู ในหางโจว ประเทศจีน สถานที่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เชื่อมโยงกับตำนานนางพญางูขาว และมีความสวยงามจนได้รับการเรียกขานว่า “อาทิตย์อัสดงที่เหลยเฟิง”

อ่านต่อ

มิตซุย เอาท์เล็ต พาร์ค จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น

มิตซุย เอาท์เล็ต พาร์ค (Mitsui Outlet Park Kisarazu) เอาท์เล็ตขนาดใหญ่ บรรยากาศรีสอร์ตริมทะเล ในจังหวัดชิบะ เป็นสวรรค์ของคนรักการช้อปปิ้งที่สามารถเดินทางได้ง่ายๆ เพียง 45 นาทีจากโตเกียว

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ