อุทยานแห่งชาติเขิ่นติง จังหวัดผิงตง ประเทศไต้หวัน

  • อ่าน (3,852)
  • By Webmaster
  • 14:50:29 | 15 มี.ค. 2562

อุทยานแห่งชาติเขิ่นติง จังหวัดผิงตง ประเทศไต้หวัน

Kenting National Park, Pingtung Country, Taiwan 

             อุทยานแห่งชาติเขิ่นติง (Kenting National Park /墾丁國家公園) เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดของไต้หวัน แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมความสวยงามและอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติของอุทยานฯ แห่งนี้มากกว่า 5 ล้านคน หากเอ่ยถึงเขิ่นติงชาวไต้หวันจะนึกถึงภาพทะเล แสงแดด มหาสมุทร และภูเขา คล้ายๆ กับเวลาที่เรานึกถึงภาพทางฝั่งภาคใต้ของไทย


ประวัติ

           อุทยานแห่งชาติเขิ่นติง ตั้งอยู่ในอำเภอผิงตง (Pingtung County) เป็นอุทยานทางตอนใต้สุดของเกาะไต้หวัน ได้รับการประกาศแต่งตั้งให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1984 อุทยานแห่งชาติเขิ่นติงครอบคลุมพื้นที่ทั้งทางบกและทางทะเล มีพื้นที่รวมประมาณ 333 ตารางกิโลเมตร โดยฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรเขิ่นติงนั้นติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก น้ำทะเลจึงมีความใส หาดทรายขาวสะอาด มีต้นไม้เขียวขจี และมีอากาศที่บริสุทธิ์ ความงามและอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติเหล่านี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเที่ยวชมอยู่ไม่ขาด

           ในอดีตสมัยราชวงศ์ชิงทางราชสำนักได้มีการจัดส่งแรงงานจากแต้จิ๋วเดินทางไปบุกเบิกที่ดินทางใต้สุดของไต้หวัน ต่อมาจึงเรียกขานกันว่า “เขิ่นติง” โดยคำว่า “เขิ่น” แปลว่า “บุกเบิก” “ติง” แปลว่า “คน” รวมกันหมายถึง “ผู้ที่เข้ามาบุกเบิกดินแดนตอนใต้” อุทยานแห่งชาติเขิ่นติงเริ่มเป็นที่รู้จักตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1986 เนื่องจากสื่อมวลชนไต้หวันรายงานว่าที่เขิ่นติงเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมดาวหางฮัลเลย์ ณ ช่วงเวลานั้น และเคยใช้เป็นฉากหนึ่งของภาพยนตร์ดังของไต้หวัน Cape No. 7 จนทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันไปเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในที่สุด จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเขตอุทยานแห่งชาติเขิ่นติงที่กระจายกันอยู่ อาทิ

             เอ๋อหลวนปี๋ (Eluanbi) จุดท่องเที่ยวยอดนิยมและเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของประเทศ ได้รับการขนานนามว่า “หางของไต้หวัน” เนื่องจากเป็นจุดใต้สุดของเกาะ มีจุดท่องเที่ยวสำคัญ 2 ส่วนคือสวนอ๋อหลวนปี๋ (Eluanbi Park) สวนสาธารณะขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่กว้างประมาณ 59 เฮกตาร์และประภาคารอ๋อหลวนปี๋ (Eluanbi Lighthouse) รูปทรงกระบอกสีขาวที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์มายาวนานกว่าร้อยปี มีชื่อเสียงว่าเป็นประภาคารที่ส่องสว่างที่สุดในเอเชียด้วยความสว่างจากกำลังไฟกว่า 1.8 ล้านวัตต์ สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล 27.2 ไมล์ทะเล จนได้รับการขนานนามว่า “แสงสว่างแห่งเอเชียตะวันออก (The Light of East Asia)”


ประภาคารอ๋อหลวนปี๋ (Eluanbi Lighthouse)

             สวนหินดินดานชู่หัว (Chuhuo) เกิดจากปรากฏการณ์ที่หินกับก๊าซธรรมชาติเหนือพื้นดินทำปฏิกิริยากันเป็นสารไวไฟ บางครั้งเกิดการเผาไหม้กับหิน เป็นที่มาของชื่อ “ชู่หัว” มีความหมายว่า “ไฟกำลังจะมา” กิจกรรมสำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยม คือ การทดลองใช้กองไฟเล็กๆ เป็นเตาไฟสำหรับปรุงอาหารสร้างความตื่นตาตื่นใจ และยังนิยมตั้งแคมป์กันบริเวณนี้

             พิพิธภัณฑ์แห่งชาติด้านชีววิทยาทางทะเลและสัตว์น้ำ (National Museum of Marine Biology & Aquarium) พิพิธภัณฑ์แห่งชาติด้านชีววิทยาทางทะเลแห่งแรกของไต้หวันและถือว่าเป็นสวนน้ำกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอีกด้วย ก่อตั้งขึ้นในปี 1991

             เนินทรายเฟิงชุยซา (Fengchueisha) ตั้งอยู่บนคาบสมุทรเหิงชุน เป็นจุดท่องเที่ยวและสถานที่ถ่ายภาพยอดนิยม ในแต่ละฤดูกาลนั้นมีลักษณะภูมิอากาศที่แตกต่างกันมาก ซึ่งความแปรปรวนของสภาพอากาศนี้เองที่ได้ทำให้เกิดเป็นทัศนียภาพที่งดงาม อาทิ น้ำตกทราย แม่น้ำทราย และเนินเขาทราย

             อ่าวไป๋ชา (Baisha Bay) อ่าวเล็กๆ ทว่ากลับโดดเด่นไปด้วยทัศนียภาพที่สวยงามและบรรยากาศที่เงียบสงบ หาดทรายผืนเล็กสีขาวบริสุทธิ์ยาวประมาณ 400 เมตร ชายหาดถูกสร้างมาจากทรายที่ได้รับการกัดเซาะมาจากหินปะการังและเปลือกหอย ซึ่งมีสารประกอบแคลเซียมคาร์บอเนตมากถึง 87.6% เป็นด้านตะวันออกของอ่าวมีลักษณะเป็นที่ราบสูง เนื่องจากความสงบและสวยงามนี้เองจึงสามารถดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

             ทุ่งหญ้าหลงปัน (Lungpan Grassland) ทุ่งหญ้าเขียวขจีกว้างขวางที่ทอดยาวขนานไปข้างทางหลวงเจียโอ้ (Jia-Oh Highway) และผืนน้ำสีฟ้าของมหาสมุทรแปซิฟิก นอกจากทุ่งหญ้าสวยงามแล้วบริเวณนี้ยังมีถ้ำหินปูนใต้ดิน และดินสีแดง ที่แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติของไต้หวัน


จุดชมวิวบริเวณทุ่งหญ้าหลงปันกับน้ำทะเลสีฟ้าของมหาสมุทรแปซิฟิก


เรดาร์โดม (Radar Dome) เป็นสถานีอุตุนิยมวิทยาที่ตั้งอยู่บริเวณทุ่งหญ้าหลงปัน

             พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขิ่นติง (Kenting National Forest Recreation Area) หรือป่าเขิ่นติง (Kenting Park) ในอดีตที่ต่อมาได้รับการพัฒนาให้เป็นสวนพฤกษศาสตร์เขตร้อนชื้นในยุคอาณานิคมของญี่ปุ่นที่เข้ามาปกครองไต้หวัน จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ ทุ่งหญ้ากว้าง ถ้ำนางฟ้า (Fairy Cave) ถ้ำมังกรเงิน (Silver Dragon Cave) หอสังเกตการณ์ (Observation Tower) และหุบเขาบันยัน (Valley of the Hanging Banyans)

             ชายหาดหนานวาน (Nanwan Beach) หรือชื่อเดิมคือ Ta Pan Le ที่นี่เคยเป็นจุดล่าวาฬในยุคอาณานิคมของญี่ปุ่น ปัจจุบันกลายเป็นหมู่บ้าน เป็นหนึ่งจุดท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติเขิ่นติงที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างมาก เพราะเป็นที่ที่มีทะเลสวยและหาดทรายที่ขาวละเอียดด้วย บริเวณรอบๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน อาทิ ห้องอาบน้ำ ห้องน้ำ และร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด

             พื้นที่โขดหินเจียเล่อซุย (Jialeshuei Scenic Area) เคยเป็นที่รู้จักในชื่อ Chialuoshui ซึ่งมีความหมายว่า “น้ำตก” ในภาษาถิ่นของชาวฝูเจี้ยน (Fukienese) มีลักษณะเป็นหินที่เรียงตัวกันเป็นชั้นๆ ริมฝั่งทะเล ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะโดยกระแสลมแรงและคลื่นทะเลที่ซัดเข้าฝั่ง ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปทรงของหินเป็นรูปทรงที่งดงามและแปลกตาออกเป็นรูปต่างๆ นับเป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง


ลักษณะหินที่เรียงตัวกันเป็นชั้นๆ เกิดจากการกัดเซาะโดยกระแสลมและคลื่นทะเลที่ซัดเข้าฝั่งเป็นเวลานาน


นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมธรรมชาติพื้นที่โขดหินเจียเล่อซุย (Jialeshuei Scenic Area) 

             ท่าเทียบเรือประมงโฮ่วปี้หู (Houbihu Fishing Port) ท่าเรือประมงที่ใหญ่ที่สุดของเขตเหิงชุน แหล่งที่อยู่สำคัญของปลาฉนากร่มหรือปลากระโทงดาบ, ปลาบิน, ปลาอีโต้มอญ ที่ชุกชุมในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ในขณะที่ปลาฉนากดำและขาวจะมีมากในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว นอกจากจะเป็นจุดตกปลาขึ้นชื่อแล้วยังเป็นท่าเทียบเรือยอชท์ที่เพิ่งจะสร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อไม่นานมานี้ด้วย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดพักผ่อนหลักของอุทยานเลยก็ว่าได้

             ทะเลสาบหลงหลวนถาน (Lungluantan Lake) ทะเลสาบมีขนาดใหญ่และเงียบสงบขนาด 175 เฮกตาร์ ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงอ่างเก็บน้ำสำหรับการชลประทาน แต่ยังเป็นสวรรค์ของนกอพยพของดินแดนทางใต้ของไต้หวันอีกด้วย ที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งดูนกที่สำคัญและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีการสร้างศูนย์ธรรมชาติเพื่อเปิดเป็นพื้นที่แสดงนิทรรศการแห่งแรกในเขตอุทยานแห่งชาติสำหรับการศึกษาเกี่ยวกับนกชนิดต่างๆ นอกจากนี้ยังมีหอส่องนกด้วยกล้องโทรทรรศน์และมีการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบวิดีโอที่ทันสมัยอีกด้วย


การเดินทางจากสนามบินสู่ตัวเมือง

           นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เมื่อมาเที่ยวไต้หวัน จะนิยมบินมาลงที่สนามบินไทเป จากนั้นจึงเดินทางจากไทเปต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในประเทศ การเดินทางจากสนามบิน Taiwan Taoyuan International Airport สู่ตัวเมืองไทเปสามารถทำได้โดย

             - รถยนต์ จากท่าอากาศยาน Taiwan Taoyuan International Airport ไปยังตัวเมืองไทเปมีระยะทาง 50 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที แม้การเดินทางโดยรถยนต์หรือแท็กซี่จะไม่เป็นที่นิยมเท่าการนั่งรถไฟ แต่ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางแบบเป็นกลุ่ม มีสัมภาระติดตัวเยอะที่ต้องการความสะดวกและเป็นส่วนตัว ค่าแท็กซี่จากสนามบินไปตัวเมืองประมาณ 1,000 - 1,200 NT $

             - รถประจำทาง จากท่าอากาศยาน Taiwan Taoyuan International Airport ไปยังตัวเมืองไทเป นั่งรถประจำทางสาย 1819 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าโดยสาย 125 NT $

             - รถไฟ จากท่าอากาศยาน Taiwan Taoyuan International Airport นั่งรถไฟ Taoyuan Metro สาย Express หรือ Commuter ซึ่งมีสถานีตั้งอยู่ที่ Terminal 1 และ 2 ไปลงที่ Taipei Main Station วิธีนี้เป็นการเดินทางที่สะดวกเพราะสามารถนั่งต่อเดียวไปลงที่สถานีหลักของเมืองไทเปได้เลย โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 25 นาที ค่าโดยสาย 175 NT $


การเดินทางจากไทเปไป
Kenting National Park

             - รถยนต์ การเดินทางโดยรถยนต์จากไทเปไปยัง Kenting National Park มีระยะทางประมาณ 450 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งนิยมใช้บริการทัวร์ซึ่งเดินทางโดยรถบัสจากไทเป โดยทัวร์จะพานักท่องเที่ยวแวะชมสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจตามเมืองต่างๆ ระหว่างทางไป Kenting National Park

             - รถไฟ จากสถานี Taipei Main Station นั่งรถไฟความเร็วสูง (THSR) ไปลงสถานี  Zuoying ที่เมืองเกาสง (Kaohsiung) จากนั้นต่อรถบัสหรือรถไฟไปเขิ่นติง โดยรถบัสออกทุกครึ่งชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางราวๆ 2 ชั่วโมงครึ่ง  ส่วนรถไฟใช้เวลาประมาณ 4.30 - 5 ชั่วโมง และจากเขิ่งติงนักท่องเที่ยวต้องใช้บริการแท็กซี่ เช่ารถ หรือใช้บริการทัวร์ท้องถิ่นเพื่อไปยัง Kenting National Park


เวลาทำการเปิด
– ปิด

           08.00 – 17.00 น. ทุกวัน


ทะเล แสงแดด และมหาสมุทร เอกลักษณ์ของเขิ่นติง


อัตราค่าเข้าชม

           150 NT$


Chuanfan Rock หรือ Sailboat Rock หินที่มีลักษณะคล้ายเรือใบ 


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว
Kenting National Park

            กิจกรรมที่ได้รับความนิยมเมื่อมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขิ่นติง คือ การเดินเขา ส่องนก และดำน้ำ ชมความสวยงามและอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ


น้ำทะเลที่ใส ต้นไม้เขียวขจี และอากาศที่บริสุทธิ์คือเสน่ห์และเอกลักษณ์ของเขิ่นติงที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว 


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

           ตลอดทั้งปี


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้

           หากต้องการความเป็นส่วนตัวควรมาเที่ยวในวันธรรมดา เนื่องจากวันเสาร์และอาทิตย์จะมีกรุ๊ปทัวร์พานักท่องเที่ยวมาค่อนข้างมาก

 

           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม Kenting National Park สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       อุทยานแห่งชาติเขิ่นติง จังหวัดผิงตง ประเทศไต้หวัน

                       (Kenting National Park, Pingtung Country, Taiwan)

                       ระดับความนิยม : 

                       อัตราค่าเข้าชม : 150 NT$

                       เวลาเปิด – ปิด : 08.00 – 17.00 น. ทุกวัน

                       ตั้งอยู่ที่ : No.596, Kenting Rd., Henchun Township, Taiwan

                       โทรศัพท์ : (+886) 8 886 1321

                       เว็บไซต์ : https://www.ktnp.gov.tw/Default.aspx

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                       ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวเมืองผิงตง https://www.pthg.gov.tw/en/Default.aspx

                                       ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไต้หวัน https://www.taiwan.net.my/th

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ

รูปปั้นโมอาย ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

รูปปั้นโมอาย (Moai) เป็นรูปปั้นหินซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เด่นชัด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร

อ่านต่อ

ตลาดปลานิโจ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) เป็นตลาดปลาขนาดใหญ่ในเมืองซัปโปโรที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 100 ปี ตลาดแห่งนี้โด่งดังจากอาหารทะเลสดใหม่หลากหลายชนิด ร้านอาหาร และบรรยากาศที่คึกคัก เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวซัปโปโรจะต้องไม่พลาด

อ่านต่อ

ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ (Chitose Outlet Mall Rera) หนึ่งในเอาท์เล็ตมอลล์ขนาดใหญ่และได้รับความนิยมมากที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบิน New Chitose Airport เพียง 10 นาที

อ่านต่อ

คลองโอตารุ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น

คลองโอตารุ (Otaru Canal) เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลที่สำคัญของฮอกไกโดในอดีต ปัจจุบันยังคงมีอาคารเก่าแก่เรียงรายริมคลอง สะท้อนภาพวิถีชีวิตในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส

อ่านต่อ

เนินแห่งพระพุทธเจ้า ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

เนินแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha) สถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของซัปโปโร โดดเด่นด้วยเศียรของพระรูปที่โผล่พ้นเนินเขาขึ้นมา ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกันกับรูปปั้นหินโมอาย (Moai Statue) ฉายา “สโตนเฮนจ์แห่งฮอกไกโด”

อ่านต่อ

อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค (Amanohashidate Park) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ภายในอามาโนะฮาชิดาเตะเรียงรายไปด้วยทิวของต้นสน ทางเดินทอดยาว มีสะพานอันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ตลอดจนศาลเจ้าให้แวะสักการบูชา

อ่านต่อ

วัดซันจูซันเก็นโด จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

วัดซันจูซันเก็นโด (Sanjusanjen-do Temple) เป็นวัดพุทธนิกายเท็นได ที่ตั้งอยู่ในย่านฮิกาชิยามะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ตัววัดมีชื่อเสียงโดดเด่นด้วยองค์เจ้าแม่กวนอิมปางค์ประทานพร (Senju Kannon) จำนวน 1,001 องค์ ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารไม้ยาว 120 เมตร ซึ่งถือเป็นวิหารไม้ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ