นครวัด ศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา

  • อ่าน (16,209)
  • By Webmaster
  • 05:28:32 | 7 ก.พ. 2566

นครวัด ศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา

Angkor Wat, Siem Reap, Cambodia

 

             นครวัด (Angkor Wat) เป็นปราสาทในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาพุทธ มีความงดงามของสถาปัตยกรรมที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานศิลปะชิ้นเอก ตั้งอยู่ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา


แผนที่แสดงที่ตั้งของนครวัด

           นครวัดมีพื้นที่รวมถึง 1.6 ตารางกิโลเมตร จึงได้ชื่อว่าเป็น ศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีคูน้ำและกำแพงแก้วล้อมรอบองค์ปราสาทประธานและปราสาทเล็กสี่ด้าน อันเป็นการจำลองลักษณะจักรวาลตามคติของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู อีกทั้งภายในปราสาทยังเต็มไปด้วยผลงานศิลปกรรมที่ล้ำค่ามากมาย อาทิ ภาพแกะสลักนางอัปสรที่โด่งดังไปทั่วโลก รวมไปถึงรายละเอียดส่วนประกอบต่างๆของปราสาทที่ยากจะหาที่ไหนเทียบเคียงได้

           นครวัดซุกซ่อนตัวตนจากโลกภายนอกอยู่หลายร้อยปี เนื่องจากปัญหาภายในของอาณาจักรเขมรโบราณ กระทั่งกลางศตวรรษที่ 19 อ็องรี มูโอ ผู้เป็นนักสำรวจชาวฝรั่งเศสได้นำพานครวัดแห่งนี้ให้โลกรู้จักผ่าทางผลงานของเขาตามด้วยประโยคอันลือลั่นของอาร์โนลด์ โจเซฟ ทอยน์บี  นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษได้มาเยือนนครวัดในปี 1956 ที่ได้กล่าวว่า See Angkor Wat and Die ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนทั้งโลกอยากมาเยี่ยมชมนครวัดกับตาตัวเองสักครั้งในชีวิต

           นครวัดได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้มีฐานะเป็นมรดกโลกในปี 1992 (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://angkor.com.kh/discover/history/unesco/)


รูปนางอัปสรอันสวยงามขึ้นชื่อของนครวัด 


บันไดนาค หนึ่งในความงามของปราสาทนครวัด 


วันนี้ของนครวัดที่ไม่ได้เป็นเพียงศาสนสถานแต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมรดกโลก 


ความยิ่งใหญ่ของปราสาทที่แม้แต่กาลเวลาก็ไม่อาจทำลายได้หมดสิ้น 


ระเบียงคดที่บอกเล่าเรื่องราวมากมายผ่านงานวิจิตรศิลป์ที่อายุกว่าพันปี
 

ประวัติศาสตร์กับการก่อสร้างนครวัด

           นครวัดถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 (คศ.1113 – 1150) โดยสันนิฐานว่าทรงสร้างนครวัดในฐานะศาสนสถานประจำรัชกาล ตามคติของศาสนาพราหมณ์ ไวษณพนิกายหรือที่รู้จักกันในนามของลัทธิบูชาพระนารายณ์ ดังนั้นปราสาทแห่งนี้จึงมีชื่อปรากฏในจารึกว่า “บรมวิษณุโลก”


ความยิ่งใหญ่ของปราสาทที่ปัจจุบันกลายเป็นเป้าหมายของคนทุกมุมโลก 

           นอกจากเป็นศาสนสถานแล้ว เชื่อกันว่านครวัดยังถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสุสานของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 อีกด้วย เนื่องจากความเชื่อโบราณว่าด้วยเรื่องกษัตริย์ว่าเป็นส่วนหนึ่งของพระวิษณุ ประกอบกับการที่นครวัดหันหน้าไปทางทิศตะวันตกซึ่งถือเป็นทิศแห่งความตายผิดกับปราสาทอื่นๆที่นิยมหันหน้าไปทางทิศตะวันออก

           หลังจากสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 นครวัดได้มีการปรับเปลี่ยนบทบาทจากเทวสถานในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูไปเป็นวัดตามการเข้ามาของพุทธศาสนา ก่อนจะค่อยๆลดความสำคัญลง แต่ก็ไม่ถึงขั้นถูกทิ้งร้างเหมือนปราสาทอื่นๆ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://angkor.com.kh/discover/history/khmer-empire/


นครวัดที่เคยยิ่งใหญ่ได้ถูกทิ้งไว้ท่ามกลางแมกไม้อยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
 

การเดินทางจากสนามบินไปตัวเมืองเสียมราฐ

           ท่าอากาศยานนานาชาติเสียมเรียบ-อังกอร์ (Siem Reap International Airport / REP)  ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 6 กิโลเมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากสนามบินไปยังตัวเมืองได้โดย

 

             - รถแท็กซี่ การเดินทางอันสะดวกสบายที่มีให้เรียกใช้งานตั้งแต่บริเวณด้านนอกอาคารผู้โดยสารขาเข้าเช่นกัน สามารถอ่านคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่ https://rep.cambodia-airports.aero/en/access-parking/airport-city
 

การเดินทางไปนครวัด เมืองเสียมราฐ

 

           นครวัดตั้งอยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองเสียมราฐ เพียงประมาณ 2 กิโลเมตร ดังนั้นนักท่องเที่ยวจึงสามารถเลือกวิธีการมาเยี่ยมชมได้หลายวิธี อาทิ

             - รถตุ๊กตุ๊ก ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว โดยสามารถเลือกใช้บริการได้ทั้งแบบไป-กลับนครวัด เหมาเที่ยวนครวัดและโบราณสถานรอบๆก็ได้เช่นกัน

             - รถแท็กซี่ เป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่ได้รับความนิยมเนื่องจากความสะดวกสบาย มีให้บริการทั้งแบบมิเตอร์กับแบบที่ได้รับความนิยมอย่างเหมาพาเที่ยวนครวัดรวมไปถึงปราสาทอื่นๆบริเวณใกล้เคียง
 

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ

           ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.30 น. จนถึงเวลาพระอาทิตย์ตก โดยจะเปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมตั้งแต่เวลา 05.00 น.


นักท่องเที่ยวสามารถไปเยือนช่วงเวลาที่แสงอาทิตย์ทำมุมกับปราสาทอันสวยงามได้
 

อัตราค่าเข้าชม

           บัตรสำหรับเข้าชมปราสาทต่างๆภายในอุทยานประวัติศาสตร์เมืองพระนครและโบราณสถานรอบเมืองเสียมราฐ มีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ คือ

           บัตรเข้าชมสำหรับ 1 วัน ราคา 37 ดอลล่าห์สหรัฐ (USD)/คน

           บัตรเข้าชมสำหรับ 3 วัน (ภายในระยะเวลา 10 วัน) ราคา 62 ดอลล่าห์สหรัฐ (USD)/คน

           บัตรเข้าชมสำหรับ 7 วัน (ภายในระยะเวลา 30 วัน) ราคา 72 ดอลล่าห์สหรัฐ (USD)/คน

           ทั้งนี้ บัตรทุกประเภทต้องมีการถ่ายรูปติดบัตรไว้ด้วย โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://angkor.com.kh/angkor-tip/


นักท่องเที่ยวหลายคนอาจจะแวะมาบ่อยๆจึงซื้อบัตรผ่านแบบหลายวันที่คุ้มค่ากว่า
 

สิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวชมนครวัด

           นอกจากเป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่มีรูปแบบของสถาปัตยกรรมอันสวยงามแล้ว ภายในตัวปราสาทนครวัดยังเต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนางอัปสรซึ่งเป็นภาพแกะสลักตามผนังต่างๆ ที่มีใบหน้ารูปร่างรวมถึงเครื่องประดับที่แตกต่างจนสร้างความอัศจรรย์ใจให้กับผู้มาเยือน หรือห้องพันพระที่เป็นส่วนระเบียงของปราสาทที่ชาวกัมพูชานิยมนำพระพุทธรูปมาประดิษฐานไว้ รวมไปถึงองค์ปราสาทประธานที่สร้างขึ้นอย่างวิจิตรตามคติของเขาพระสุเมรุอันเป็นศูนย์กลางจักรวาลตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู


ห้องพันพระภายในนครวัด 


เหล่านางอัปสรที่ต้อนรับผู้มาเยือนกว่าพันปี 


องค์ปราสาทประธานสูงที่ยิ่งใหญ่ของนครวัด 


ทางเดินภายในปราสาทที่กว้างใหญ่ไม่แพ้กัน 


นาคและสิงห์ที่ยังหลงเหลืออยู่ของนครวัด 


ปราสาทจากอดีตและนักท่องเที่ยวของปัจจุบัน
 

เวลาที่เหมาะสมในการไปเที่ยว

           หนึ่งในไฮไลต์ที่ห้ามพลาดของการมาเยือนนครวัดคือ การมาชมดูแสงอาทิตย์แรกและแสงสุดท้ายของวัดที่สาดส่องยังตัวปราสาท ซึ่งต่างมีเสน่ห์ไปคนละแบบและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้นนักท่องเที่ยวจึงควรเผื่อเวลาในการเดินทางไว้ด้วย และควรใช้เวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งวัน – 1 วัน ในการเที่ยวชมความสวยงามของปราสาทนครวัด


เวลาพระอาทิตย์ตกดิน หนึ่งในเสน่ห์อันงดงามของปราสาทนครวัด

           สำหรับเมืองเสียมราฐเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวสามารถไปเยือนได้ทุกฤดู โดยฤดูที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวคือช่วงฤดูหนาว (เดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์) ที่อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 23 องศาเซสเซียสทำให้เหมาะแก่การเดินเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ขณะที่หากไปเยือนในช่วงฤดูร้อน (เดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม) ต้องเตรียมตัวรับมือกับแดดแรงและพกน้ำไว้ติดตัว ขณะที่ช่วงฝนตกชุก (เดือนกรกฎาคม – เดือนสิงหาคม) ต้องพกร่มไว้เสมอและเพิ่มความระมัดระวังในการเที่ยวชมโบราณสถานที่อาจมีตะไคร่น้ำเป็นพิเศษด้วย โดยนักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อวางแผนการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/


นครวัดกับนักท่องเที่ยวที่พกขวดน้ำติดมือมาด้วย
 

ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ในการท่องเที่ยวนครวัด และประเทศกัมพูชา

           แม้สกุลเงินของกัมพูชาคือเงินเรียล (KHR) แต่ตามร้านค้า,โรงแรม รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายๆแห่งมักจะมีการเก็บเงินค่าเข้าชมหรือค่าบริการเป็นเงินดอลล่าห์สหรัฐฯ (USD) มากกว่า นักท่องเที่ยวจึงควรแลกเงินดอลล่าห์สหรัฐเผื่อเอาไว้สำหรับใช้จ่ายด้วย และเนื่องจากนครวัดถือเป็นศาสนสถานที่ยังได้รับความนับถือจากชาวกัมพูชาอยู่ นักท่องเที่ยวจึงควรแต่งตัวสุภาพโดยสามารถอ่านรายละเอียดการแต่งตัวและข้อควรปฎิบัติเพิ่มเติมได้ที่ http://angkor.com.kh/plan-your-visit/visitor-code-of-conduct/


นักท่องเที่ยวที่แต่งตัวมาพร้อมรับสภาพอากาศและการเดินเที่ยวชมนครวัด 


อีกมุมหนึ่งของปราสาทที่งดงาม
 

           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเยี่ยมชม นครวัด สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       นครวัด เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา

                       (Angkor Wat, Siem Reap, Cambodia)

                       ระดับความนิยม

                       อัตราค่าเข้าชม : เริ่มตั้งแต่ 37 ดอลล่าห์สหรัฐต่อคน (1 วัน), 62 ดอลล่าห์สหรัฐต่อคน (3 วัน) และ 72 ดอลล่าห์สหรัฐต่อคน (7 วัน)

                       เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.30 น. จนถึงเวลาพระอาทิตย์ตก

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ทุกฤดูกาล โดยฤดูหนาว(เดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์) จะได้รับความนิยมสูงสุด

                       ตั้งอยู่ที่ : เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา

                       โทร : (+855)063-765-577            E-mail : info@apsaraauthority.gov.kh

                       เว็บไซต์ : http://angkor.com.kh/  

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                       บริการข้อมูลท่าอากาศยานประเทศกัมพูชา https://corp.cambodia-airports.aero/  

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น

จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) เป็นเขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ใน ภูมิภาคคันโต ของประเทศญี่ปุ่น จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายเมืองด้วยกัน อาทิ คามาคุระ (Kamakura) โยโกฮาม่า (Yokohama) และฮาโกเน่ (Hakone)…Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ตั้งแต่ชายหาด พระใหญ่ วัดเก่าแก่ ศาลเจ้า ไชน่าทาวน์ สวนสนุก อควาเรียม ทะเลสาบ ไปจนถึงกระเช้าลอยฟ้าและจุดชมภูเขาไฟฟูจิ มาไว้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000

อ่านต่อ

สวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997

อ่านต่อ

เนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย

อ่านต่อ

ทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

ถนนซานถัง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ถนนซานถัง (Shantang Street) ถนนโบราณที่มีความเก่าแก่เกือบ 1,200 ปี ครั้งหนึ่งถนนสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ปัจจุบันซานถังยังคงเป็นถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพย่อของซูโจวเก่า” และยังถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ

อ่านต่อ

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น (Grand Canal National Culture Park) เป็นส่วนหนึ่งของคลองต้ายุ่นซึ่งทอดตัวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมสำคัญในประเทศจีนมานานกว่า 2,500 ปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ