- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- งานกวางโจวเทรดแฟร์ เมืองกวางโจว ประเทศจีน
งานกวางโจวเทรดแฟร์ เมืองกวางโจว ประเทศจีน
- อ่าน (5,206)
- By Webmaster
- 15:16:19 | 13 ส.ค. 2561
งานกวางโจวเทรดแฟร์ เมืองกวางโจว ประเทศจีน
中国进出口商品交易会 , Canton Fair, Guangzhou, China
บูธแสดงสินค้าจำนวนมากภายในงานกวางโจว เทรดแฟร์
งานกวางโจวเทรดแฟร์ หรืองานแคนตันแฟร์ คือ 1 ใน 3 งานจัดแสดงสินค้าเพื่อการนำเข้าและส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมสินค้าแทบทุกชนิดตั้งแต่ระดับอุตสาหกรรมและครัวเรือน โดยงานกวางโจวเทรดแฟร์จะจัดขึ้นทุกปี ปีละ 2 ครั้ง ที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน
ประวัติความเป็นมาของงานกวางโจวเทรดแฟร์
งานกวางโจวเทรดแฟร์ ถูกจัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ประเทศจีน หน่วยงานมณฑลกวางตุ้ง และองค์การการค้าระหว่างประเทศของจีน โดยจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1957 และจัดต่อเนื่องมาทุกปี จนทำให้กลายเป็นงานจัดแสดงสินค้าที่เก่าแก่ที่สุด ใหญ่ที่สุด และได้รับความเชื่อถือมากที่สุดของประเทศจีนในปัจจุบัน ซึ่งนักธุรกิจจากทั่วโลกนิยมเดินทางมาเจรจาธุรกิจ รวมถึงเลือกชม และนำเสนอสินค้าของตัวเองภายในงานนี้
บรรยากาศภายนอกตัวอาคารจัดงานและแสดงสินค้า
โดยตัวเลขของการจัดงานครั้งล่าสุด (ครั้งที่ 122) มีจำนวนบูธจัดแสดงสินค้าทั้งหมด 60,400 บูธ จำนวนผู้เข้าชม 191,951 คน จาก 213 ประเทศทั่วโลก และมีจำนวนผลประกอบการทางธุรกิจทั้งหมดกว่า USD 30,160 ล้าน
บูธจำหน่ายและให้ข้อมูลจากแบรนด์รองเท้าในประเทศจีน
การเดินทางจากสนามบินไปยังตัวเมืองกวางโจว
- รถไฟใต้ดิน จากสถานีรถไฟใต้ดิน Airport South ที่สนามบินกวางโจว มีรถไฟใต้ดินสาย 3 (สีส้ม) วิ่งเข้าสู่ตัวเมืองอย่างสะดวกสบาย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าโดยสารจากสนามบินมายังตัวเมืองราคาประมาณ 7 หยวน
- รถบัส จากสนามบินกวางโจว มีรถ Airport Shuttle Bus สาย 1-5 วิ่งเข้าสู่ตัวเมือง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-60 นาที ค่าโดยสารอยู่ที่ประมาณ 17-25 หยวน ขึ้นอยู่กับจุดหมายปลายทาง นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลของรถบัสแต่ละสายอย่างละเอียดได้ที่ https://www.travelchinaguide.com/cityguides/guangdong/guangzhou/air/shuttle-bus.htm
- รถแท็กซี่ การโดยสารรถแท็กซี่จากสนามบินกวางโจวเข้าสู่ตัวเมือง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-60 นาที และมีค่าโดยสารประมาณ 120 หยวน โดยรถแท็กซี่ในเมืองกวางโจวมีราคามิเตอร์เริ่มต้นที่ 10 หยวน ต่อ 2.5 กิโลเมตรแรก และเพิ่มขึ้นครั้งละ 2.6 หยวนต่อ 1 กิโลเมตรถัดไป และเพื่อความสะดวกในการติดต่อสื่อสารกับคนขับรถ นักท่องเที่ยวควรเตรียมชื่อสถานที่ปลายทางที่เป็นภาษาจีน รวมถึงแผนที่คร่าวๆของจุดหมายที่ต้องการเดินทางติดตัวไว้
การเดินทางไปยังงานกวางโจวเทรดแฟร์
- รถไฟใต้ดิน จากตัวเมืองกวางโจว ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย 8 (สีเขียว) ไปลงที่สถานี Pazhou ค่ารถไฟใต้ดินในเมืองกวางโจวมีราคาเริ่มต้นที่ 2 หยวน และเพิ่มขึ้น 1 หยวนทุกๆ 6 กิโลเมตร
- รถแท็กซี่ รถแท็กซี่ในเมืองกวางโจวมีราคามิเตอร์เริ่มต้นที่ 10 หยวน ต่อ 2.5 กิโลเมตรแรก และเพิ่มขึ้นครั้งละ 2.6 หยวนต่อ 1 กิโลเมตรถัดไป และเพื่อความสะดวกในการติดต่อสื่อสารกับคนขับรถ นักท่องเที่ยวควรเตรียมชื่อสถานที่ปลายทางที่เป็นภาษาจีน รวมถึงแผนที่คร่าวๆของจุดหมายที่ต้องการเดินทางติดตัวไว้
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
งานกวางโจวเทรดแฟร์เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 09.30 – 18.00 น
บริเวณทางเข้าและทางออกของงานกวางโจวเทรดแฟร์
การซื้อบัตรเข้าชม
การเข้าชมงานกวางโจวเทรดแฟร์นั้นไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม แต่นักท่องเที่ยว จำเป็นต้องลงทะเบียนเข้างาน ซึ่งการลงทะเบียนมี 2 วิธีคือการลงทะเบียนออนไลน์ และการลงทะเบียนหน้างาน
วิธีการลงทะเบียนที่แนะนำคือการลงทะเบียนออนไลน์ล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ http://invitation.cantonfair.org.cn/Home/Index มีขั้นตอนดังนี้
- เลือกที่ Apply for Invitation Letter
- กรอกรายละเอียดต่างๆให้ครบถ้วน และอัพโหลดรูปถ่ายของตัวเอง
- รอรับอีเมลยืนยันการลงทะเบียน
- พิมพ์เอกสารยืนยันที่ได้รับทางอีเมลไปยื่นที่จุดลงทะเบียนก่อนเข้างาน
จุดจำหน่ายและตรวจสอบบัตรเข้าชมงาน
ผู้คนจำนวนมากบริเวณหน้าทางเข้างานกวางโจวเทรดแฟร์
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
งานกวางโจวเทรดแฟร์จะจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง คือระหว่างกลางเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม และระหว่างกลางเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน โดยในการจัดงานแต่ละครั้งจะแบ่งออกเป็น 3 รอบ ตามประเภทของสินค้า
รอบที่ 1 : เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร อุปกรณ์ก่อสร้าง ยานพาหนะต่างๆ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-19 เมษายน และ 15-19 พฤศจิกายนของทุกปี
รอบที่ 2 : สินค้าอุปโภคบริโภค ของใช้ในครัวเรือน และของใช้ทั่วไป จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-27 เมษายน และ 23-27 พฤศจิกายนของทุกปี
รอบที่ 3 : สินค้าในออฟฟิศ ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ สินค้าแฟชั่น เครื่องนอน และอาหาร จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-5 พฤษภาคม และ 31 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายนของทุกปี
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/
การประดับตกแต่งบูธอย่างยิ่งใหญ่เพื่อดึงดูดผู้เข้าชมงาน
บรรยากาศการออกบูธของแบรนด์ต่างๆภายในตัวงาน
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้
เมื่อได้รับบัตรเข้าชมงานแล้ว ควรเก็บรักษาบัตรไว้ให้ได้ เนื่องจากระหว่างการเดินชมงาน จะมีการขอตรวจบัตรอยู่เป็นระยะ และในกรณีที่ทำบัตรเข้าชมงานสูญหาย จะต้องเสียค่าทำบัตรใหม่ในราคา 100 หยวน
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่มีพื้นฐานหรือไม่สันทัดภาษาจีน ควรเตรียมหนังสือรวมคำศัพท์, รวมบทสนทนาพื้นฐานในภาษาจีน หรือใช้แอพลิเคชั่นเพื่อการแปลภาษาอาทิ Google Translate ไว้เผื่อด้วย เพราะแม้หลายป้ายในบริเวณภูเขาอู่ไถซาน หรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่โด่งดังและโรงแรมใหญ่อื่นๆจะมีป้ายภาษาอังกฤษ แต่สถานที่อื่นๆ อาทิ ร้ายอาหารหรือป้ายรถเมลล์บางแห่ง ยังคงมีแต่ป้ายภาษาจีนเท่านั้น
เส้นทางรอบพื้นที่จัดงานที่ได้รับการจัดการอย่างดีจากเจ้าหน้าที่
และข้อควรระวังเพิ่มเติมคือ ประเทศจีนในปัจจุบันมีการ บล็อกการเข้าถึงเว็บไซค์ Google (รวมถึงแอพลิเคชั่นต่างๆ เช่น Google Translate หรือการแปลภาษา), Facebook และ Instagram หากนักท่องเที่ยวต้องการใช้งาน ควร ใช้ซิมโทรศัพท์จากประเทศอื่นพร้อมเปิดระบบบริการโรมมิ่งข้ามประเทศ เพื่อให้สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ดังกล่าวได้
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ใช้ บริการอินเตอร์เน็ตจากประเทศจีน หากต้องการสนทนาผ่านโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นผ่านอินเตอร์เน็ต สามารถใช้โปรแกรม WeChat หรือ Weibo และสามารถค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ Baidu.com แทน Google
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวงาน กวางโจวเทรดแฟร์ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : 09.30-18.00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม และตุลาคม-พฤศจิกายน
สถานที่ตั้ง : เมืองกวางโจว มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
โทรศัพท์ : (+86)20-8827-3196
เว็บไซต์ : https://www.cantonfair.net/
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์สนามบินกวางโจว http://www.gbiac.net/en/byhome
เว็บไซต์รถไฟใต้ดินกวางโจว http://cs.gzmtr.com/ckfwEnglish/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวเมืองกวางโจว http://www.gzly.gov.cn/visitgz/ww/Thai/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวประเทศจีน http://www.cnto.org/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
อ่านต่อพระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ
อ่านต่อตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด
อ่านต่อรูปปั้นโมอาย ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
รูปปั้นโมอาย (Moai) เป็นรูปปั้นหินซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เด่นชัด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร
อ่านต่อตลาดปลานิโจ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) เป็นตลาดปลาขนาดใหญ่ในเมืองซัปโปโรที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 100 ปี ตลาดแห่งนี้โด่งดังจากอาหารทะเลสดใหม่หลากหลายชนิด ร้านอาหาร และบรรยากาศที่คึกคัก เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวซัปโปโรจะต้องไม่พลาด
อ่านต่อชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ (Chitose Outlet Mall Rera) หนึ่งในเอาท์เล็ตมอลล์ขนาดใหญ่และได้รับความนิยมมากที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบิน New Chitose Airport เพียง 10 นาที
อ่านต่อคลองโอตารุ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
คลองโอตารุ (Otaru Canal) เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลที่สำคัญของฮอกไกโดในอดีต ปัจจุบันยังคงมีอาคารเก่าแก่เรียงรายริมคลอง สะท้อนภาพวิถีชีวิตในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส
อ่านต่อเนินแห่งพระพุทธเจ้า ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
เนินแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha) สถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของซัปโปโร โดดเด่นด้วยเศียรของพระรูปที่โผล่พ้นเนินเขาขึ้นมา ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกันกับรูปปั้นหินโมอาย (Moai Statue) ฉายา “สโตนเฮนจ์แห่งฮอกไกโด”
อ่านต่ออามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค (Amanohashidate Park) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ภายในอามาโนะฮาชิดาเตะเรียงรายไปด้วยทิวของต้นสน ทางเดินทอดยาว มีสะพานอันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ตลอดจนศาลเจ้าให้แวะสักการบูชา
อ่านต่อวัดซันจูซันเก็นโด จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดซันจูซันเก็นโด (Sanjusanjen-do Temple) เป็นวัดพุทธนิกายเท็นได ที่ตั้งอยู่ในย่านฮิกาชิยามะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ตัววัดมีชื่อเสียงโดดเด่นด้วยองค์เจ้าแม่กวนอิมปางค์ประทานพร (Senju Kannon) จำนวน 1,001 องค์ ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารไม้ยาว 120 เมตร ซึ่งถือเป็นวิหารไม้ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น
อ่านต่อ