วัดเซนโซจิ (ศาลเจ้าอาซากุสะ) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (10,243)
  • By Webmaster
  • 03:51:21 | 2 ก.พ. 2566

วัดเซนโซจิ (ศาลเจ้าอาซากุสะ) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

Sensoji (Asakusa Kannon Temple) Tokyo, Japan


นักท่องเที่ยวจำนวนมากหลั่งไหลมาเยี่ยมชมวัดอาซากุสะตลอดทั้งวัน

               วัดเซนโซจิ เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

           ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน และชื่อเสียงความศักดิ์สิทธิ์ที่สั่งสมมานับตั้งแต่อดีต ทำให้วัดเซนโซจิเป็นทั้งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวญี่ปุ่น และเป็นทั้งแลนด์มาร์คสำหรับนักท่องเที่ยวไปพร้อมกัน ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์คันนน หรือเจ้าแม่กวนอิม และเป็นที่ตั้งของเจ้าอาซากุสะอันขึ้นชื่อ รวมไปถึงศาลเจ้าชินโต และเจดีย์ห้าชั้นอีกด้วย

ร้านขายอาหาร งานฝีมือ และร้านของที่ระลึกมากมายเรียงรายอยู่บริเวณทางเข้าวัด

           แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นวัด แต่ภายในวัดเซนโซจิยังมีถนนที่เต็มไปด้วยร้านขายอาหาร งานฝีมือ และของที่ระลึกมากมาย นอกจากนี้ ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนของวัด นักท่องเที่ยวก็จะมองเห็นโตเกียว สกายทรี สิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดของญี่ปุ่นเป็นฉากหลังอยู่เสมอ ถือเป็นภาพอันน่าประทับใจของการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ เข้ากับสัญลักษณ์แห่งยุคสมัยใหม่ของญี่ปุ่นได้อย่างกลมกลืน
 

ประวัติของวัดเซนโซจิ

วัดเซนโซจิเป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์กวนอิม จึงมีรูปเคารพจำนวนมากทั้งภายในและรอบๆบวัด

           ตามตำนานเล่าว่า ในปีค.ศ. 628 พี่น้องสองคนชื่อว่า ฮิโนคุมะ ฮามานาริ และฮิโนคุมะ ทาเคนาริ มักจะออกหาปลาในแม่น้ำสุมิดะทุกวัน มีอยู่วันหนึ่งสองพี่น้องจับปลาในแม่น้ำไม่ได้เลยสักตัว ด้วยความหิวโหย ทั้งสองคนจึงอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้จับปลาได้สักตัวไปเป็นอาหารเย็น ภายหลังจากอธิษฐาน ทั้งสองคนได้เหวี่ยงแหออกไป แต่ปรากฏว่าสิ่งที่ติดมานั้นคือรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมทองคำ สูง 5 นิ้ว


ศาลเจ้าเก่าแก่ภายในบริเวณวัดเซนโซจิ

           หลังจากนั้น ทั้งสองพี่น้องได้เปลี่ยนบ้านของพวกตนซึ่งอยู่ในเขตอาซากุสะเป็นวัดขนาดเล็ก และนำพระพุธรูปเจ้าแม่กวนอิมทองคำที่พบมาประดิษฐานไว้เพื่อให้คนในหมู่บ้านมากราบไหว้บูชา ซึ่งบรรดาผู้ที่มาขอพรนั้นต่างก็สมปรารถนาเสมอ จนชื่อเสียงด้านความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุธรูปเจ้าแม่กวนอิมทองคำองค์นี้ค่อยๆแผ่ขยายไปทั่วประเทศญี่ปุ่น มีผู้คนหลั่งใหลมากราบไหว้บูชามากมาย และเมื่อโชกุนโทคุกาวะ อิเอมิทซึรู้เข้า จึงมีบัญชาให้ปรับปรุงตัวอาคารวัด รวมถึงพื้นที่รอบๆเรื่อยมาจนกลายเป็นวัดเซนโซจิอย่างที่เราเห็นทุกวันนี้
 

การเดินทางไปวัดเซนโซจิ

               - รถไฟ เป็นวิธีการเดินทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว โดยสามารถขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Ginza ( สีส้ม ) มาลงที่สถานี Asakusa ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 170 เยน ออกทางออกหมายเลข 6 หรือ 7 จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 450 เมตร ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ก็จะพบกับวัดเซนโซจิ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลการเดินทางโดยรถไฟอย่างละเอียดได้ที่ http://www.hyperdia.com/en/

               - รถแท็กซี่ รถแท็กซี่ในกรุงโตเกียวนั้นมีค่ามิเตอร์เริ่มต้นที่ 410-800 เยน ต่อระยะทาง 2 กิโลเมตรแรก ค่าโดยสารทั้งหมดขึ้นอยู่กับระยะทางจากจุดขึ้นรถของนักท่องเที่ยว โดยสามารถคำนวณค่าโดยสารเบื้องต้นได้ที่ https://www.numbeo.com/taxi-fare/in/Tokyo
 

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ


เจดีย์ 5 ชั้นสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากบริเวณประตูวัด

           บริเวณตัวอาคารหลักของวัด เปิดทำการทุกวันตั้งแต่ 06.00น. – 17.00น. ในช่วงเดือนเมษายน – กันยายน และเปิดทำการตั้งแต่ 06.30น. ในช่วงเดือนตุลาคม – มีนาคม

           ส่วนบริเวณพื้นที่โดยรอบ เปิดทำการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
 

อัตราค่าเข้าชม

           ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม


บริเวณอาคารหลักของวัดเซนโซจิเนืองแน่นไปด้วยผู้คนตั้งแต่ตอนเช้า
 

จุดที่มีชื่อเสียงในบริเวณวัดเซนโซจิ


ประตูคามินาริมง ซึ่งมีตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นเขียนว่า แปลว่า”สายฟ้า”

               ประตูคามินาริมง – เป็นประตูหลักของวัดเซนโซจิ และยังเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย บริเวณประตูจะมีโคมแดงขนาดมหึมาที่เขียนด้วยตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นว่า อ่านว่า “คามานาริ” ซึ่งแปลว่าสายฟ้า ประตูแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ประตูสายฟ้า”


ถนนนากามิเสะที่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อขนมและของฝากต่างๆได้อย่างเพลิดเพลิน

               ถนนนากามิเสะ เมื่อนักท่องเที่ยวเดินผ่านประตูคามินาริมงเข้าไป จะพบกับถนนที่ทอดยาวเข้าไปสู่ตัววัด โดย ตลอดสองข้างทางของถนนเส้นนี้จะเต็มไปด้วยร้านรวงต่างๆทั้งร้านขนม ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก ไปจนถึงร้านเช่าและขายชุดกิโมโน ถือเป็นย่านช้อปปิ้งสำคัญที่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อสินค้าต่างๆเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นได้อย่างหลากหลาย


ประตูโฮโซมง ประตูชั้นสุดท้ายก่อนที่นักท่องเที่ยวจะพบกับอาคารหลักของวัดเซนโซจิ

               ประตูโฮโซมง – เมื่อเดินมาจนสุดถนนนากามิเสะ นักท่องเที่ยวจะพบกับประตูขนาดใหญ่อีกแห่งก่อนเข้าไปสู่บริเวณวัด ประตูโฮโซมงนั้นมีขนาดใหญ่กว่าประตูคามินาริมงเกือบเท่าตัว โดยมีความสูงถึง 22.7 เมตร ชื่อประตูมีความหมายว่า “ประตูคลังสมบัติ” ด้านในของประตูยังมี Nio หรือรูปปั้นเทพเจ้า 2 องค์ที่ทำหน้าที่ปกปักรักษาองค์พระพุทธเจ้า

           เมื่อเข้าสู่บริเวณตัววัด นักท่องเที่ยวจะได้พบกับตัวอาคารหลักที่เป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์ เจดีย์ 5 ชั้น รวมไปถึงศาลาสำหรับเสี่ยงเซียมซี และศาลาสำหรับจำหน่ายเครื่องราง
 

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว


ต้นซากุระโบราณภายในวัดเซนโซจิผลิบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

           เนื่องจากวัดเซนโซจิตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตเกียว นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินทางมายังวัดได้อย่างสะดวกสบายตลอดทั้งปี

           แต่หากนักท่องเที่ยวต้องการบรรยากาศที่พิเศษออกไป วัดเซนโซจินั้นมีการจัดงานเทศกาลต่างๆตลอดทั้งปี โดยงานเทศกาลที่ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดของวัดคือเทศกาล Sanja Matsuri และยังถือเป็น 1 ใน 3 งานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดในศาสนาชินโตอีกด้วย โดยเทศกาลนี้จะจัดขึ้นระหว่างสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคมในทุกปี


โคมไฟแบบญี่ปุ่นที่ถูกนำมาใช้ประดับประดา

           จุดประสงค์ของเทศกาล Sanja Matsuri คือการจัดงานเฉลิมฉลองให้แก่ผู้ก่อตั้งวัด เชื่อกันว่าเทศกาลนี้จัดขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 7 โดยพิธีในวันแรกจะเริ่มจากการอัญเชิญเทพเจ้าขึ้นสู่เกี้ยวหรือศาลเจ้าจำลองที่เรียกว่า “mikoshi” ทั้งสามหลังของศาลเจ้าอาซากุสะ โดยเกี้ยวแต่ละด้านต้องใช้คนหามถึง 40 คน วันที่สองจะเป็นวันที่ผู้คนต่างมาร่วมสนุกสนานไปกับดนตรี ขบวนแห่ ขับร้องเพลงและร่ายรำกันอย่างสนุกสนานที่บริเวณถนนสายหลักหน้าวัด และในวันสุดท้ายถือเป็นไฮไลท์ของเทศกาล ซึ่งจะมีการแห่เกี้ยวทั้งสามไปทั้ง 44 เขตของย่านอาซากาสะ ก่อนจะแห่กลับมาทำพิธีใหญ่เพื่อปิดเทศกาลในคืนนั้น
 

ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้


นักท่องเที่ยวปัดควันธูปเข้าตัวด้วยความเชื่อว่าจะนำพาความโชคดีมาให้

           วัดเซนโซจิมีธรรมเนียมเช่นเดียวกับวัดแห่งอื่นๆในประเทศญี่ปุ่น นั่นคือต้องล้างหน้า ล้างมือ และล้างปากก่อนเข้าวัด ซึ่งนอกจากจะเป็นการชำระร่างกาย ยังสื่อถึงการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ โดยภายในวัดจะมีบ่อน้ำและกระบวยตักน้ำอยู่ใกล้กับประตูโฮโซมง และนอกจากนี้ยังมีธรรมเนียมการปัดควันธูปเข้าหาตัว ซึ่งเชื่อกันว่าจะนำพาสิ่งดีๆมาให้อีกด้วย
 

           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดเซนโซจิ (ศาลเจ้าอาซากุสะ) สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

วัดเซนโซจิ ( ศาลเจ้าอาซากุสะ )

Sensoji (浅草寺, Asakusa Kannon Temple)

อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าบริการเข้าชม

เวลาเปิด-ปิด : อาคารหลักของวัดเปิดให้บริการระหว่าง 06.00น. – 17.00น. ในช่วงเดือนเมษายน – กันยายน

               และเปิดทำการตั้งแต่ 06.30น. ในช่วงเดือนตุลาคม – มีนาคม

           พื้นที่อื่นรอบบริเวณวัด เปิดทำการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

สถานที่ตั้ง : ย่านอาซากุสะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

โทรศัพท์ : (+81) 3-3842-0181

เว็บไซต์ : http://www.senso-ji.jp/

ระดับความนิยม : 

ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                    เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/

                                    เว็บไซต์การท่องเที่ยวโตเกียว https://www.gotokyo.org/en/

                                    เว็บไซต์ศูนย์รวมจุดบริการนักท่องเที่ยวในโตเกียว http://www.tourist-information-center.jp/tokyo/en/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000

อ่านต่อ

สวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997

อ่านต่อ

เนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย

อ่านต่อ

ทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

ถนนซานถัง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ถนนซานถัง (Shantang Street) ถนนโบราณที่มีความเก่าแก่เกือบ 1,200 ปี ครั้งหนึ่งถนนสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ปัจจุบันซานถังยังคงเป็นถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพย่อของซูโจวเก่า” และยังถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ

อ่านต่อ

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น (Grand Canal National Culture Park) เป็นส่วนหนึ่งของคลองต้ายุ่นซึ่งทอดตัวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมสำคัญในประเทศจีนมานานกว่า 2,500 ปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ

รูปปั้นโมอาย ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

รูปปั้นโมอาย (Moai) เป็นรูปปั้นหินซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เด่นชัด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ